ความโหดเหี้ยม โหดร้ายที่มวลมนุษย์กระทำต่อกันและกันนั้น มีมากมายเกินที่จะพรรณนาในเวลาและเนื้อที่จำกัด แต่อะไรเล่าที่จะร้ายแรงและเลวร้ายเท่ากับการกระทำต่อเยาวชนทั้งหญิงและชาย โดยเฉพาะการตกเป็นเหยื่อขบวนการนักล่า (Predator หรือ Vulture) ที่กระจัดกระจายไปทั่วทุกระแหงในพื้นที่กันดาร ยากจนข้นแค้น ในพื้นที่ๆ ตกอยู่ท่ามกลางการสู้รบ เมื่อตกเป็นเหยื่อก็หมายถึงตกไปอยู่ในน้ำมือขบวนการค้ามนุษย์ ที่นำไปสู่แรงงานเถื่อน แรงงานทาส และแรงงานธุรกิจทางเพศ ไปจนถึงแรงงานสงครามหรือกลายไปเป็นทหารเด็ก และเมื่อเป็นเหยื่อก็ต้องถูกเอารัดเอาเปรียบ(Exploit) อย่างเต็มที่ ต้องอยู่แบบจำใจ จำยอม และอยู่กับการบังคับข่มขู่ เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
และเมื่อตกไปเป็นเหยื่อแล้ว นอกเหนือจากความอายและความหวาดกลัว ก็ต้องตกอยู่กับการถูกปฏิเสธและถูกรังเกียจ ชิงชัง ทั้งที่มนุษย์เหล่านี้เป็นผู้เสียหายเป็นเหยื่อก็เลยต้องสงบปากสงบคำ ทนทุกข์ทรมานอยู่กับตัวแต่ผู้เดียว การคิดอ่านที่จะต่อสู้เพื่อให้หลุดพ้นก็ยากลำบากด้วยประการทั้งปวง
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อเหล่านี้ออกมาแสดงตัวเรียกร้องความยุติธรรม แต่ก็เป็นครั้งเป็นคราวไป สังคมก็ตอบสนองแบบชั่วครู่ชั่วยาม แต่สถานการณ์คือ ผู้กระทำผิดหรือบรรดานักล่าทั้งหลายก็ยังลอยนวลเป็นส่วนใหญ่ มีจำนวนและวิธีการแยบยลมากยิ่งขึ้น เสมือนเป็นผู้อยู่เหนือกฎหมาย ไม่แคร์ศีลและธรรมใดๆ ทั้งสิ้น
แต่บัดนี้ มีการรวมตัวกันของผู้ตกเป็นเหยื่อและอาจจะเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อของการต่อสู้กับการกระทำต่อเพื่อนมนุษย์แบบไร้ซึ่งมนุษยธรรม
ก็ต้องขอแสดงความเคารพ คารวะนับถือ และชื่นชมต่อบรรดานักแสดงภาพยนตร์อาชีพหญิงอเมริกัน ที่ออกมาบอกกล่าวว่า เมื่อตอนที่พวกตนเริ่มต้นอาชีพใหม่ๆ ล้วนต่างเยาว์วัย มีความฝัน มีความทะเยอทะยาน แต่ก็ถูกล่วงละเมิดทางเพศกันทั่วหน้า โดยผู้กำกับ ผู้ผลิต ผู้สนับสนุนทางการเงิน ไปจนถึงผู้เป็นตัวแทนหางาน(เอเยนซี่) และบัดนี้พวกเธอก็รวมตัวกันเป็นขบวนการเครือข่ายภายใต้ชื่อ Time’s up หรือหมดเวลาแล้วที่จะให้พฤติกรรมฉาวโฉ่คงอยู่ต่อไป หรือจะไม่ยินยอมกันอีกต่อไปแล้ว
ต่อมาไม่ช้าไม่นานก็มีนักกีฬาหญิงยิมนาสติกอเมริกันระดับชุดโอลิมปิกออกมาเปิดเผย และบอกกล่าวว่า นายแพทย์ประจำทีมชาติได้ล่วงละเมิดทางเพศพวกตนรวมประมาณ 140 คน ต่อมาก็มีเพิ่มจำนวนอีก เป็นนักกีฬาหญิงของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกนที่ถูกนายแพทย์คนเดียวกันนี้ล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งรวมทั้งหมดแล้วมีจำนวนเกือบ 300 คน
สะท้อนว่า ผู้ปกครอง ผู้จัดการทีม คณะผู้บริหาร ผู้ฝึกซ้อมต่างๆได้มีการปล่อยปละละเลย และในอีกแง่หนึ่งคำว่า “ไว้ใจ” (Trust) นั้น ได้มีผู้ละเมิด โดยผู้รอบข้างต่างๆในวงการขาดระบบดูแล และบริหารจัดการที่รัดกุม และโปร่งใส
ล่าสุดคณะกรรมการยิมนาสติกโอลิมปิกสหรัฐฯ ก็ได้ลาออกทั้งคณะ และที่มหาวิทยาลัยรัฐมิชิแกนก็มีการจัดตั้งคณะสืบสวนความเป็นมาเป็นไปเกี่ยวกับการบริหารจัดการกีฬา รวมทั้งผู้ฝึก และแพทย์ประจำทีม
กลับมาที่บ้านเรา กิจกรรมที่เกี่ยวกับเยาวชนมีมากมาย และมักจะเต็มไปด้วยเรื่องการแข่งขันเพื่อเป็นที่ 1 เพื่อเป็นเลิศ โดยมีเม็ดเงินเป็นตัวตอบแทน
พ่อแม่ ผู้ปกครอง ทั้งหลายก็มีความอยาก อยากให้ลูกหลานมีชัยชนะ ในขณะเดียวกันลูกหลานก็มักตอบสนองความต้องการพ่อแม่ ผู้ปกครอง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แต่ความมุ่งมั่นนั้นอาจทำให้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ศึกษาเรื่องราวให้รอบคอบ หรือฝากความหวังและความไว้วางใจกับฝ่ายผู้จัดการแข่งขันต่างๆ รวมทั้งผู้ฝึกและผู้ดูแลอื่นๆ
ก็แน่นอน สังคมไทยอาจยังไม่ประสบปัญหากับการที่มีผู้ตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัว แต่มิได้หมายความว่า มันจะไม่มีสภาวะของการตกเป็นเหยื่อแล้ว ฉะนั้นในทุกวงการของการแข่งขัน ก็อาจจะถึงเวลาที่จะต้องทบทวนเรื่องราวเหล่านี้ แล้วจัดการวางระบบให้รัดกุม เพื่อป้องกันการที่จะให้เยาวชนไทยต้องตกไปเป็นเหยื่อ
ไทยเรามีหน่วยงานรัฐมากมายที่จะร่วมกันคุ้มครองเยาวชน ก็ไม่เกินวิสัยที่จะมีหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพหลัก ในขณะเดียวกัน บรรดาเจ้าของรายการแข่งขัน กลุ่มผู้ผลิตภาพยนตร์ กลุ่มผู้บริหารนักกีฬา ไปจนถึงรัฐวิสาหกิจและบริษัทผู้สนับสนุน ก็ต้องกลับมาทบทวน และให้ความเอาใจใส่ดูแลอย่างจริงจัง โดยต้องถือว่าเป็นภาระหน้าที่ที่สำคัญและจำเป็นในการคุ้มครองและปกป้องเยาวชนไทย
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี