ในยุคนี้ เราเห็นโครงการหลายอย่าง ในพื้นที่ภาคตะวันออก
เดี๋ยวก็ระเบียงเศรษฐกิจ เดี๋ยวก็ระเบียงผลไม้
เดี๋ยวก็ EEC เดี๋ยวก็ EFC
ไหนจะมีโครงการสร้างทางรถไฟ มอเตอร์เวย์ ท่าเรือ สนามบิน เขตเศรษฐกิจพิเศษ อีกสารพัด
เกิดข้อสงสัยว่า ในโลกทัศน์ของผู้กุมนโยบายรัฐ มองภาพการพัฒนาในพื้นที่ภาคตะวันออก อย่างไรกันแน่?
ปรากฏว่า ในการประชุม ครม.สัญจรที่จันทบุรี ได้มีการนำเสนอทิศทางการพัฒนาภาคตะวันออก ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เสนอ
นี่คือโลกทัศน์ ที่ภาครัฐผู้กุมหางเสือเรือ กำลังทุ่มทรัพยากรมุ่งไป
น่าสนใจว่า ประชาชนจะคิดเห็นอย่างไรกับทิศทางนี้?
1. ภาคตะวันออก ประกอบด้วย 8 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว สร้างมูลค่าเศรษฐกิจร้อยละ 17.6 ของประเทศ
สภาพัฒน์ มองว่า ที่ผ่านมา เศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนด้วยภาคอุตสาหกรรมและภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก มีเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และเป็นแหล่งผลิตอาหารสำคัญของประเทศ ได้แก่ ผลไม้ สุกร ไก่ กุ้ง ประมง
2. ปัญหาและประเด็นท้าทาย
ประชาชนคนภาคตะวันออก เห็นด้วยหรือไม่? สภาพัฒน์ มองว่าภาคตะวันออกมีปัญหาสิ่งแวดล้อมในเมืองอุตสาหกรรม เช่น มลพิษทางอากาศ ขยะและน้ำเสีย ปัญหาปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ ปัญหาภาวะขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรและทักษะแรงงานภาคอุตสาหกรรมที่ไม่สอดรับกับการพัฒนาของภาคปัญหาโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงต่อการขยายตัวของเมือง รวมถึงการผลิตด้านเกษตรและอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ยังขาดการนำนวัตกรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่ม และยังใช้แรงงานเข้มข้น นอกจากนี้ การท่องเที่ยวกระจุกตัวในบางจังหวัด แหล่งท่องเที่ยวรอบนอกไม่เป็นที่รู้จักและขาดความพร้อมในด้านสิ่งอำนวยความสะดวก จึงไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้พักค้างในพื้นที่
3. ศักยภาพและโอกาส
สภาพัฒน์ มองว่า ภาคตะวันออกเป็นศูนย์รวมที่ตั้งของอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีท่าเรือน้ำลึก และระบบโครงข่ายการขนส่งทางถนนและรถไฟ ที่สนับสนุนการเปิดประตูการขนส่งของประเทศเข้าสู่ระบบโครงข่ายการเดินเรือนานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นที่รู้จักแพร่หลายในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะพัทยา บางแสน เกาะช้าง และเกาะเสม็ดรวมทั้งทรัพยากรธรรมชาติประเภทป่าเขา น้ำตก และอุทยานแห่งชาติ เป็นแหล่งเพาะปลูกผลไม้หลักของประเทศโดยเฉพาะทุเรียน มังคุด และเงาะ
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่เหมาะแก่การทำประมงน้ำลึก และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง เป็นแหล่งเจียระไนอัญมณีที่มีคุณภาพและมีชื่อเสียง รวมทั้งมีพรมแดนติดกับชายแดนกัมพูชาที่ใกล้กรุงเทพฯ และพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
4. จะทำอะไรกับภาคตะวันออก?
สภาพัฒน์ เห็นว่า การพัฒนาภาคตะวันออก จะต้องพัฒนาต่อยอดฐานเศรษฐกิจที่มีอยู่ของพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษด้านตะวันออก (EEC) และพื้นที่อื่นๆ ในภาค โดยใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์และการค้าบริการ ควบคู่ไปกับการใช้ศักยภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินและน้ำและความพร้อมของสถาบันการศึกษาวิจัย ยกระดับสินค้าการเกษตรและบริการให้มีมูลค่าสูง เพื่อให้ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้หลุดพ้นกับดับ “ประเทศรายได้ปานกลาง”
ประชาชนยอมรับได้หรือไม่? กับแนวคิดแนวทางการพัฒนา 5 แนวทาง ได้แก่
(1) พัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีความทันสมัยที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยพัฒนาโครงข่ายความเชื่อมโยงด้านการคมนาคมขนส่งหลักให้เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและเมืองส่งเสริมการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและอุตสาหกรรมแห่งอนาคตในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พัฒนาบุคลากร การศึกษา การวิจัย และเทคโนโลยี พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลนานาชีวิตในจังหวัดชลบุรี-ระยองให้เป็นฐานการกระจายรายได้และการสร้างงานให้แก่ชุมชน พัฒนาสภาพแวดล้อมเมืองสำคัญของจังหวัดให้เป็นเมืองน่าอยู่
(2) พัฒนาภาคตะวันออกให้เป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล โดยพัฒนาการผลิตและการค้าผลไม้ภาคตะวันออก ให้เป็นศูนย์ผลไม้เมืองร้อนแห่งเอเชีย ส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์ ได้แก่ สุกรและไก่ในจังหวัดชลบุรี และฉะเชิงเทรา พัฒนาพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
(3) ปรับปรุงมาตรฐานสินค้าและธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว โดยฟื้นฟูและปรับปรุงการพัฒนาการท่องเที่ยวในจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เชิงเกษตร เชิงสุขภาพ และการท่องเที่ยวโดยชุมชน ฟื้นฟูและอนุรักษ์การท่องเที่ยวในจังหวัดปราจีนบุรี และสระแก้ว ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรม
(4) พัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนให้เป็นประตูเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน โดยพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ให้เป็นประตูและศูนย์กลางทางการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุน เชื่อมโยงกับประเทศกัมพูชา และเวียดนาม พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าชายแดนและการท่องเที่ยว เชื่อมโยงกับจังหวัดเกาะกง กัมพูชา พัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนบ้านแหลม และบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นศูนย์กลางการค้าชายแดนเชื่อมโยงกับจังหวัดพระตะบอง และไพลิน ของกัมพูชา
(5) แก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและจัดระบบการบริหารจัดการมลพิษให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาภาวะฝนแล้งและน้ำท่วมจันทบุรี และตราด ฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้เกิดความสมดุลต่อระบบนิเวศ คุ้มครองและฟื้นฟูป่าชายเลน ปะการัง หญ้าทะเล และป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่กัดเซาะรุนแรง ได้แก่ จันทบุรี และฉะเชิงเทรา ดำเนินการตามมาตรการการจัดการมลพิษทางอากาศในจังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบบำบัดน้ำเสียชุมชน โดยเฉพาะในบริเวณแม่น้ำสายหลักที่อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ แม่น้ำระยองตอนบน ตอนล่าง และแม่น้ำพังราดตอนบน พัฒนาและปรับปรุงกระบวนการรวบรวม ขนย้าย และการกำจัดขยะจังหวัดชลบุรี และระยองให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
5. จากตรงนี้เอง จึงเห็นว่ามีโครงการเยอะแยะไปหมด ในพื้นที่ภาคตะวันออกในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาเมืองนวัตกรรมภาคตะวันออก (EEC) โครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ โครงการส่งสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก นิคมอุตสาหกรรม Smart Park โครงการก่อสร้างท่าเรือ ชายฝั่ง A ที่ท่าเรือแหลมฉบัง โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 โครงการปรับปรุงทางรถไฟท่าเรือจุกเสม็ด โครงการเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (Digital Park Thailand) โครงการศูนย์นวัตกรรมด้านเกษตรอาหาร และ Smart Farm ต้นแบบ โครงการศูนย์นวัตกรรมจากผลิตผลเกษตรภาคตะวันออก โครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร โครงการสร้างนวัตกรรมอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปสู่ตลาดโลก โครงการพัฒนาเกษตรกรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (STI for Smart Agriculture) โครงการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดฉะเชิงเทรา โครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานเพื่อสุขภาพและการท่องเที่ยว “Bike for All” โครงการพัฒนาศักยภาพธุรกิจบริการที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจบริการสุขภาพ (สปา นวดเพื่อสุขภาพ ดูแลผู้สูงอายุ กายภาพบำบัด) ธุรกิจก่อสร้าง/วิศวกรรม และธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ โครงการบูรณะซ่อมแซมและพัฒนาโบราณสถาน โครงการบูรณะซ่อมแซมและพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ โครงการถนนสายแยก ทล.348-บ.ป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ถนนสาย ก1 ข และ ค1 ผังเผืองรวมเมืองตราด จังหวัดตราดโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว โครงการขยายการค้าการลงทุนชายแดนและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ฯลฯ
ข้อมูลเหล่านี้ ภาครัฐสื่อสารไปยังชาวบ้านน้อยมาก และรับฟังเสียงสะท้อนกลับมาน้อยมาก
จะมีการพูดเป็นโครงการๆ แต่ไม่สามารถเชื่อมโยงให้เห็นภาพ “ป่าทั้งป่า”ได้ ว่าภาคใหญ่คืออะไร?
ทั้งๆ ที่ คำตอบสุดท้าย คนที่ควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ คือ ประชาชนคนภาคตะวันออกนั่นเอง
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี