นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊ค “ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี” แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีการจับกุมคดีล่าสัตว์ป่า โดยสาธยายว่า ทำไมการพยายามอบรมบ่มนิสัยให้คนไทยอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า จึงไม่บังเกิดผล ทำไมระบบอุปถัมภ์ลูบหน้าปะจมูกยังสามารถดำรงอยู่ได้อย่างเบ่งบาน?
ปรากฏว่า ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จำนวนมากกระหน่ำแสดงความเห็นตอบโต้นายปลอดประสพ ในทำนองว่า นายปลอดประสพเองก็เคยมีพฤติกรรมที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า โดยหยิบยกเรื่อง โครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ หรือแม้แต่หยิบเอากรณีส่งเสือโคร่งไปต่างประเทศที่นายปลอดประสพเคยถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เป็นต้น
ทำไมอดีตรองนายกฯ ปลอดประสพจึงถูกตอบโต้ และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เป็นอย่างไร?
1. นายปลอดประสพกับเขื่อนแม่วงก์
เมื่อเดือนกันยายน 2556 นายปลอดประสพเคยชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า สนับสนุนให้มีการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ทั้งๆ ที่ ในสมัยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ได้เคยคัดค้าน อ้างว่าไม่ใช่ว่าตนเป็นคนสับปลับ แต่เพราะครั้งนี้ เป็นการสร้างเขื่อนตามโครงการกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท เพื่อต้องการป้องกันน้ำท่วม โดยจะใช้พื้นที่เดิม เพราะจำเป็นต้องสร้างเครื่องมือต้นน้ำเพื่อระงับความเสียหายจากน้ำท่วม สะท้อนว่า นายปลอดประสพเคยแสดงจุดยืนในการสนับสนุน และผลักดันโครงการเขื่อนแม่วงก์
น่าคิดว่า หากสร้างเขื่อนแม่วงก์ ก็ย่อมจะมีผลกระทบต่อป่าแม่วงก์ รวมทั้งสัตว์ป่าในพื้นที่
2. เมื่อปี 2556 ขณะเป็นรองนายกรัฐมนตรี นายปลอดประสพสุรัสวดี เคยออกด่ากลุ่มที่ต่อต้านโครงการกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทไปทำโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างรุนแรง
โดยรองนายกฯ ปลอดประสพ ขึ้นปราศรัยบนเวทีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่สนามกีฬาสมโภช 700 ปี เชียงใหม่ เมื่อค่ำวันที่2 มิถุนายน 2556 ระบุพวกประท้วงเป็น “ขยะ”
“ช่วงที่ประชุมน้ำ มีไอ้พวกบ้าบอคอแตกไปประท้วง แล้วท่านทั้งหลายจัดคณะ ไปเก็บขยะ มันก็โกรธผมนะ ว่าไปด่ามันว่าขยะ ที่จริงยังน้อยไปนะ ในใจ อยากจะด่า ไอ้เหี้ย ด้วยซ้ำไป แต่ไม่ได้ด่า เพราะกลัวเขาฟ้องนะครับ” นายปลอดประสพกล่าว
นอกจากนี้ ยังด่าพวกคัดค้านการสร้างเขื่อนว่า ชั่ว
“วันนี้ไปแพร่ บอกผู้ว่าฯ ทำเขื่อนแล้ว จ.แพร่ มีแต่ปลอดภัย ไม่ว่า ยมบน ยมล่าง เพราะฉะนั้นไปบอกประชาชนอย่าไปยอมพวกนี้พวกที่ขัดขวางมันไปซื้อที่เตรียมไว้แล้ว ประกาศไม่สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นด้วยเหตุผลทางวิชาการ แทนที่มันจะขอบคุณผม แต่กลับเสียอกเสียใจ เพราะไปซื้อที่รอไว้แล้ว คนที่ซื้อที่ ดูเหมือนว่าคล้ายๆ จะเป็นสส.แพร่มาก่อนด้วย ไปเดาเอาเองแล้วกัน ที่ จ.ชัยภูมิ ไปสร้างบ้าน สร้างเรือน หวังจะเอาเงินชดเชย อาทิตย์หน้าจะไป พวกที่ไปสร้างบ้านที่จะฉ้อฉลหวังจะเอาเงินชดเชย ก็ส่วนหนึ่งจากไอ้พวกที่ค้านทุกวันนี้ไอ้พวกนี้มันชั่ว” รองนายกฯ ในขณะนั้นกล่าว
3. นายปลอดประสพ ยังเป็นนักการเมืองที่โลดแล่นด้วยการทำตัวเองให้มีสีสันจัดจ้าน
ตั้งแต่สมัยเป็นข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นอธิบดีกรมประมง อธิบดีกรมป่าไม้ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ก็แสดงตัวออกโดดเด่น สะดุดตานักข่าวอยู่เสมอ
ใช้ปืนยาวทำท่าเล็งยิงจระเข้ ก็เคยมาแล้ว
เคยแต่งชุดนักรบโบราณ-เอลวิส-อินเดียนแดง
แม้แต่ใส่ชุดพญาเม็งราย ในการแสดงในการประชุมน้ำ ก็เคยมาแล้ว
เรียกว่า ทำตัวให้มีสีสัน เป็นข่าวได้ตลอด
4. ปลอดประสพกับคดีส่งเสือไปจีน
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด มติเป็นเอกฉันท์ ว่านายปลอดประสพ มีความผิดวินัยร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสองรวมถึงเป็นความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในการอนุญาตให้บริษัท ศรีราชาไทเกอร์ ซู จำกัด ส่งออกเสือโคร่งจำนวน 100 ตัวไปยังสวนสัตว์ซันหยา ไมตรี คอนเซ็ปท์ จำกัด ซึ่งเป็นสวนสัตว์ของเอกชน สาธารณรัฐประชาชนจีน
ระบุว่า เป็นการใช้อำนาจในฐานะอธิบดีกรมป่าไม้ กระทำการอันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน เนื่องจากการตรวจสอบขณะนั้นไม่พบหนังสือราชการของทางรัฐบาลจีน
ที่นายปลอดประสพ อ้างว่าเป็นฝ่ายขอความร่วมมือมายังรัฐบาลไทยในการส่งเสือโคร่งไปยังสวนสัตว์ในประเทศจีนหรือเป็นการกระทำในลักษณะรัฐต่อรัฐ เพื่อผลประโยชน์ในการศึกษาหรือวิจัยทางวิชาการ ซึ่งเป็นข้อยกเว้นตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
ต่อมา อัยการยื่นฟ้องต่อศาลอาญา คดีดำ อ.4750/2555
หลังจากนั้น เมื่อเดือนธันวาคม 2557 ศาลอาญาอ่านคำพิพากษา ยกฟ้องนายปลอดประสพ
ระบุว่า การส่งเสือโคร่งของนายปลอดประสพ ได้ทำตามมาตรา 26 ของ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 ให้อำนาจอธิบดีกรมป่าไม้ส่งสัตว์ป่า เพื่อการวิจัยได้
ตอนนั้น ทนายความของนายปลอดประสพ ก็คือ นายสมศักดิ์โตรักษา (มือกฎหมายของวัดปากน้ำภาษีเจริญ และเป็นทนายความวัดพนัญเชิง เคยแถลงกรณีเจ้าหน้าที่ พศ.งาบเงินทอนงบอุดหนุนวัด)
น่าเสียดาย ทราบว่า อัยการไม่อุทธรณ์คดีนี้
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี