นับวันอำนาจรัฐคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)จะกลายเป็นเสือกระดาษซึ่งไม่เป็นที่ยำเกรงในอำนาจพิเศษอันศักดิ์สิทธิ์และไม่น่าศรัทธาเชื่อถือจนถูกมองว่าเป็นเผด็จการหน่อมแน้มที่ถูกท้าทายโดยบรรดานักเคลื่อนไหวป่วนเมืองซึ่งที่สำคัญคือนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สองอดีตนายกฯนักโทษหนีคุกสองพี่น้องตระกูลชินที่ออกมาเผยโฉมเย้ยอำนาจรัฐคสช.ว่าไร้ปัญญาล่าตัวมารับโทษตามคำพิพากษาศาล
ในปฏิบัติการเย้ยอำนาจรัฐคสช.ของสองพี่น้องตระกูลชิน สองอดีตนายกฯนักโทษหนีคุกจงใจแพร่ภาพเดินอย่างสบายอารมณ์อยู่กลางกรุงปักกิ่งของจีน ด้านหนึ่งเท่ากับเป็นการประจานความหน่อมแน้มของอำนาจรัฐคสช.ที่หมดปัญญาตามตัวอดีตนายกฯสองพี่น้องมารับโทษตามกฎหมายทั้งๆที่ออกมาปรากฏตัวให้เห็นตำตา ขณะที่อีกด้านหนึ่งเป็นการสะท้อนว่าหลายประเทศเมินที่จะให้ความร่วมมือกับทางการไทยในการควบคุมตัวสองอดีตนายกฯผู้อื้อฉาว
อย่าว่าแต่ตามจับตัวเลย ขนาด น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นจำเลยคนสำคัญคดีโครงการรับจำนำข้าวซึ่งมีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์แท้ๆ ยังปล่อยให้หนีออกนอกประเทศไปได้อย่างลอยนวลก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาจำคุก 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา
การที่สองพี่น้องตระกูลชินยังลอยนวลมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นความตั้งใจของอำนาจรัฐคสช.ที่อาจประเมินผลดีผลเสียระหว่างการตามจับตัวมาดำเนินคดีกับการปล่อยให้อยู่นอกประเทศ ซึ่งต้องหนีไปตลอดชีวิตเพราะตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาฉบับใหม่คดีไม่มีอายุความ ดีกว่าจับมาเข้าคุกแล้วกลายเป็นระเบิดเวลาทางการเมืองลูกใหญ่ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกระดมให้มวลชนเสื้อแดงลุกฮือออกมาสร้างสถานการณ์ก่อการร้ายเผาเมืองโดยอ้างเพื่อทวงความยุติธรรม
และเมื่อดูจากพฤติการณ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการล่าตัวสองพี่น้องตระกูลชินโดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)และ กระทรวงการต่างประเทศแล้วดูจะหมดหวังเพราะโยนกลองกันไปมาเหมือนซื้อเวลาไปเรื่อยๆ อย่างล่าสุด พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ก็โยนว่าตำรวจทำหน้าที่ในส่วนของตำรวจจนหมดสิ้นแล้วจึงต้องไปถามกระทรวงการต่างประเทศ ขณะที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ กลับพูดตรงกันข้ามย้ำว่า เป็นหน้าที่ของ สตช.ในการติดตามตัวสองพี่น้องตระกูลชิน
การที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการล่าตัวสองอดีตนายกฯนักโทษหนีคุกยังโยนกลองกันไปมาแบบนี้ก็เป็นอันจบข่าว ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ หัวหน้าคสช. ล่าสุดออกอาการหัวเสียที่สื่อถามเรื่องการล่าตัวสองอดีตนายกฯนักโทษหนีคุกผู้อื้อฉาว โดยกล่าวว่าไม่ควรไปให้ความสำคัญกับคนที่ทำผิดกฎหมายและสร้างความปั่นป่วนให้ชาติบ้านเมือง พร้อมกับโทษประเทศต่างๆต้องเคารพกฎหมายไทยไม่ใช่ปล่อยให้คนทำผิดกฎหมายไปเคลื่อนไหว
การที่ประเทศต่างๆปล่อยให้สองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชินไปพำนักหรือเคลื่อนไหว อาทิสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งไฟเขียวให้ “ทักษิณ” และ “ยิ่งลักษณ์”เข้า-ออกประเทศตัวเองได้ตามใจชอบทั้งๆ ที่เป็นนักโทษหนีคุก และบางประเทศมีการลงนามในข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย จึงต้องถามว่าทางการไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาจริงในการประสานกับประเทศต่างๆเหล่านี้มากน้อยแค่ไหนทั้งผ่านช่องทางข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนรวมทั้งช่องทางองค์กรตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพล เพราะการที่จะขอความร่วมมือให้ควบคุมตัวต้องชี้เบาะแสและชี้เป้าด้วย
ทั้งนี้ที่ผ่านมาไทยร่วมมือปฏิบัติตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนและตามกฎของอินเตอร์โพลอย่างเอาจริงเอาจังมาตลอด โดยติดตามจับกุมและส่งตัวคนร้ายของประเทศต่างๆที่หลบหนีเข้ามากบดานในไทยกลับไปรับโทษในประเทศนั้นตามที่มีการร้องขอดังนั้นหากไทยเอาจริงขอความร่วมมือและทำทุกอย่างตามเงื่อนไขการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนแล้วยังไม่ได้รับความร่วมมือ นั่นเท่ากับข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศในการส่งผู้ร้ายข้ามแดนไม่มีความหมายถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นไทยก็อาจแก้เผ็ดแบบเกลือจิ้มเกลือทีใครทีมัน โดยหากไม่ได้รับความร่วมมือจากประเทศไหน ต่อไปหากประเทศนั้นประสานขอความช่วยเหลือในการติดตามจับกุมคนร้ายที่ประเทศนั้นต้องการตัวไทยก็อาจไม่ให้ความร่วมมือบ้าง
แต่ที่สงสัยก็คือนโยบายของทางการไทยเอาจริงเอาจังแค่ไหนที่จะจับตัวสองอดีตนายกฯตระกูลชินมารับโทษตามกบิลเมือง หรือที่ผ่านมาเป็นแค่ปาหี่ซื้อเวลา
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี