เดิมที... เมื่อวานนี้ 15 ก.พ. 2561 จะต้องมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญของบรรดาสมาชิกที่จะได้ติดตามกิจการของสหกรณ์ สถานะทางการเงินเป็นอย่างไร งบดุลที่ผู้สอบบัญชีรับรองเป็นอย่างไร รวมถึงลุ้นต่อไปว่าจะได้รับเงินปันผลหรือไม่?
ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ดร.จุมพล พูลภัทรชีวิน ประธานสหกรณ์จุฬาฯ คนปัจจุบัน ได้มีหนังสือแจ้งสมาชิกว่า ขอเลื่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ไปเป็นวันที่ 22 ก.พ. 2561
เป็นอันว่า สมาชิกต้องรอ “ลุ้น” ไปอีกราวๆ 1 สัปดาห์
ลำพังเฉพาะเวลาที่ต้องรอคอย แค่สัปดาห์เดียว ไม่ถึงตายแน่ๆ
แต่สิ่งที่อาจจะทำให้ต้อง “ลุ้น” จนขี้เยี่ยวลำบากในเวลานี้ ก็คือการจัดการกับ “กรรมเก่า”
ปัญหาหมักหมมที่สะสมมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แต่ยังไม่ถูกบันทึกไว้เป็นภาระทางการเงินของสหกรณ์จุฬา
อาจถึงคราวที่จะต้องนำมาสู่ที่แจ้งที่สว่าง หรือบันทึกเป็นรายการความเสียหาย หรือหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งหากว่าเป็นเช่นนั้นก็จะกระทบกับตัวเลขทางการเงินของสหกรณ์ กระเทือนต่อผลประกอบการ กระเทือนต่อการจ่ายเงินปันผลแก่มวลสมาชิกต่อไปเป็นลูกโซ่
1. ปัญหาหมักหมมอยู่ก่อนหน้านี้ ซึ่งมวลสมาชิกเคยทวงถาม หลักๆ ก็คือ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้บริหารในอดีตนำเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาเข้าไปทำธุรกรรมเกี่ยวข้องกับสหกรณ์อื่นๆ ที่มีปัญหาร้ายแรง เช่น สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น สหกรณ์มงคลเศรษฐี สหกรณ์เคหสถานนพเก้ารวมใจ ฯลฯ
รศ.ดร.ประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ อดีตประธานสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด (2518-2525) เคยทำจดหมายเปิดผนึก สรุปประเด็นเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ ระบุด้วยว่า ติดตามความเป็นไปของสหกรณ์ฯมาตลอด ตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมาด้วยความห่วงใยในความอยู่ได้ไปรอดของสหกรณ์ฯ ได้เข้าร้องเรียนต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเข้ามาสอบสวน ทำความจริงต่างๆ ให้ปรากฏ โดยเฉพาะการนำเงินไปลงทุนในปี 2556
“ขอเรียกร้องให้ชาวจุฬาฯ มวลสมาชิก ตื่นรู้ข้อเท็จจริง พิทักษ์ความถูกต้องรักษาสิทธิประโยชน์อันชอบธรรม” - รศ.ดร.ประพันธ์พงศ์เวชชาชีวะ
2. กรณีที่เกิดปัญหา แล้วจนถึงวันนี้ ยังไม่จบสิ้น เช่น
กรณีสหกรณ์คลองจั่นฯ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2556 สหกรณ์จุฬาฯ ทำสัญญาให้กู้แก่สหกรณ์คลองจั่นฯ วงเงินกู้ 1,431 ล้านบาทมีหลักทรัพย์ประกันเป็นโฉนดที่ดิน 28 ไร่ 2 งาน 96 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้างอาคารยูทาวเวอร์ ติด ถ.ศรีนครินทร์ (ตรงข้าม รพ.สมิติเวชศรีนครินทร์)
กรณีสหกรณ์มงคลเศรษฐีฯ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2556 สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ นำเงินไปฝาก 200 ล้านบาท
กรณีสหกรณ์เคหสถานนพเก้ารวมใจ เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2556 สหกรณ์จุฬาฯ นำเงินไปฝาก 915 ล้านบาท
ทั้งหมดนั้น ล้วนแต่เกิดปัญหา ยังทวงเงินคืนไม่ได้
3. ถึงวันนี้ ประเด็นที่ชาวสหกรณ์จุฬาฯ จะต้องจับตามอง ลุ้นกันขี้-เยี่ยวเหลือง คือ ผลจากการยุบเลิกสหกรณ์เคหสถานนพเก้ารวมใจ จากปัญหาการทุจริต เมื่อเดือนพ.ค. 2560 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬา และสหกรณ์อื่นๆ ที่เข้าเกี่ยวข้อง
เฉพาะสหกรณ์จุฬา เอาเงินไปฝากโดยตรง ค้างอยู่915 ล้านบาท เมื่อหักมูลค่าจริงๆ ของหลักทรัพย์ค้ำประกันแล้ว ยังเหลืออีกกว่า 600 ล้านบาท จะต้องรับรู้เป็นหนี้สงสัยจะสูญ หรือไม่?
นอกจากนี้ ยังมีเงินของชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย ซึ่งเอาเงินเข้าไปที่สหกรณ์เคหสถานนพเก้ารวมใจ กว่า 4,485 ล้านบาท ซึ่งกิจการชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทยนั้นเอง มีเงินฝากของสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาอยู่ 550 ล้านบาท ยังไม่สามารถถอนคืนได้350 ล้านบาท สหกรณ์จุฬาจะต้องตั้งค่าเผื่อเงินฝากสงสัยจะสูญเต็มจำนวน หรือไม่?
อีกทั้ง สหกรณ์จุฬาฯ ยังถือหุ้นชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทยอยู่ 50 ล้านบาท ล่าสุด ชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย จากที่เคยสำแดงว่ามีกำไร 51 ล้าน ถูกตรวจสอบและจะต้องปรับบัญชีใหม่ให้ถูกต้อง กลายเป็นขาดทุน 3,000 กว่าล้านบาท มันจะกระทบถึงมูลค่าหุ้นสหกรณ์จุฬาแค่ไหน อย่างไร? ไม่สามารถถอนหุ้นคืนได้ จะต้องรับรู้การด้อยคุณภาพของหุ้น50 ล้านบาท หรือไม่?
ฯลฯ
ปมปัญหาเหล่านี้ ล้วนแต่เป็น “กรรมเก่า” ที่กำลัง“พ่นพิษ”
อาจมีผลต่อสถานะทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ในปัจจุบัน
จากที่รายงานว่ามีกำไรกว่า 900 ล้านบาท หากหักลบกลบภาระเหล่านี้ไปแล้ว อาจผันแปรเป็นติดลบไปได้เหมือนกัน เป็นสิ่งที่ชาวสหกรณ์จุฬา จะต้องติดตาม “ลุ้น”
งานนี้ ไม่ควรตื่นตระหนก ยังไม่กระทบความมั่นคงของสหกรณ์จุฬาฯ ดอก เพราะมีสถานะทางการเงินแน่นปึ้กอยู่ แต่มันจะทำให้สมาชิกสหกรณ์จุฬาเองได้ตระหนักและรับรู้ว่า ปัญหาที่เคยถูกอดีตผู้บริหารฝากบาดแผลไว้นั้น มันจะต้องสะสาง และเช็คบิลกลับคืนมาได้แล้ว เรียกเงินกลับคืนมาชดใช้แก่สหกรณ์จุฬาได้แล้ว
อย่าปล่อยให้ผู้เกี่ยวข้องยังลอยหน้าลอยตาอยู่
เพราะบางกรณี อย่างกรณีเงินที่เอาไปฝากไว้กับสหกรณ์เคหสถานนพเก้ารวมใจนั้น นายทะเบียนสหกรณ์ได้สั่งให้ผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ชุดปัจจุบัน เร่งดำเนินการติดตามเรียกค่าเสียหายคืน โดยระบุว่าให้เรียกค่าเสียหายบางส่วนจากอดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ที่อนุมัติให้เอาเงินไปฝากอย่างไม่ถูกต้องนั้นด้วย
แต่ถึงวันนี้ ยังดำเนินการไปไม่ถึงไหนเลย!!!
อดีตกรรมการชุดที่ร่วมนำเงินออกไปฝากในอดีต (ยังนั่งเป็นกรรมการชุดปัจจุบัน 4-5 คน) ยังมีบทบาทในการบริหารงานสหกรณ์ปัจจุบันอยู่ต่อไปอีกด้วย
ชาวสหกรณ์จุฬาฯ ผู้เป็นเจ้าของสหกรณ์ตัวจริง ว่ายังไงล่ะ?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี