ขณะที่คนไทยกำลังสนใจข่าว “นาฬิกาหรู”และผู้บริหารยักษ์ใหญ่ของไทยหอบปืนเข้าป่าล่าเสือดำและสัตว์สงวนทุกคนก็ต้องหยุดข่าวนี้ไว้ชั่วคราว เนื่องจากมีอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้สัมภาษณ์สื่อเสียงดังฟังชัดว่า “ตลอดชีวิตรับราชการของผม เกือบจะเรียกได้ว่า อาชีพตำรวจนี่ถือเป็นไซด์ไลน์ อาชีพหลักของผมคือทำธุรกิจ ซึ่งคนในแวดวงธุรกิจรู้เรื่องดี โดยเฉพาะเรื่องหุ้นผมนิยมมาก ผมมีผลกำไรจากการเล่นหุ้นและก็เสียหายเพราะเล่นหุ้นเช่นกัน ดังนั้น ช่วงที่หมุนเงินไม่ทัน ก็ไปยืมเงินคุณกำพล ซึ่งการรวบรวมเงินไปคืนคุณกำพลจำนวน 300 ล้านบาทนั้น ต้องเรียนว่าการชดใช้บางครั้ง ถ้ามีเงินสดก็ใช้เป็นเงินสด ถ้าไม่มีเงินสด ต้องเอาที่ดินไปให้เขาก็ยังมีโดยเฉพาะอย่างยิ่งผมและคุณกำพลอยู่ในแวดวงพระเครื่อง บางครั้งก็มีการชดใช้หนี้รูปแบบที่แตกต่างกัน” นี่คือคำพูดอดีตผบ.ตร.ที่เกษียณไปแล้ว ซึ่งทำให้ตำรวจส่วนมากเข้าใจคำพูดของท่านทันที เนื่องจากการกระทำของท่านที่ผ่านมา ตำรวจส่วนใหญ่คลางแคลงใจไม่คิดว่าผู้ที่มีตำแหน่ง “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” จะละเมิดกฎหมายประพฤติตนนอกกรอบด้วยการคบค้าสมาคมกับนักธุรกิจค้ามนุษย์ที่ร้ายกว่านั้นยังนำพระเครื่องที่คนส่วนใหญ่เคารพบูชาไปใช้หนี้นักธุรกิจค้ามนุษย์
...อดีต ผบ.ตร.ท่านควรรู้ดีว่าต่างประเทศเขาเข้มงวดกับการค้ามนุษย์มาก เมื่อเพื่อนสนิทท่านมีอาชีพเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ท่านก็อาจจะมีเพื่อนที่ทำสิ่งผิดกฎหมายอีกหลายกรณี ขณะนี้ตำรวจทั้ง สตช.เขาพูดกันว่า ถ้าท่านมีเพื่อนเป็นพ่อเล้า ท่านคงมีเพื่อนที่มีอาชีพสีเทาและดำสนิทอีกด้วย และถ้าคนพวกนี้มีเพื่อนเป็นผบ.ตร. การประกอบอาชีพสีเทาคงไปได้สวย เพราะผู้ใต้บังคับ
บัญชาต้องฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ทำให้คนส่วนหนึ่งนำอาชีพตำรวจไปหาเงินเข้ากระเป๋าโดยไม่กระดากใจ ทำให้ตำรวจถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าถ้าอยากเป็นใหญ่ต้องหาเงินมาแลกตำแหน่ง และเงิน
นั้นก็มาจากธุรกิจสีเทา จะไปโทษตำรวจที่หาเงินจากธุรกิจสีเทามาแลกตำแหน่งไม่ได้ เพราะผู้บังคับบัญชาประพฤติตนให้ดูเป็นตัวอย่าง หาเงินได้ง่าย มีตำแหน่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเหนื่อยปฏิบัติหน้าที่ไม่ต้องต้องรออาวุโส เงินสีเทาทำให้พวกเขากระโดดข้ามหัวรุ่นพี่มานั่งตำแหน่งใหญ่โตได้อย่างสง่างาม
....คสช.ควรมีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวกับความมั่นคงเข้ามาตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อกู้ศักดิ์ศรีและศรัทราประชาชนที่กำลังมองตำรวจในทางลบ ให้กลับคืนมาโดยเร็ว ไม่ควรมองข้าม “ตำรวจ” คือต้นธารกระบวนการยุติธรรมเกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้น ประชาชนจะมั่นใจว่า ตำรวจจะให้ความยุติธรรมพวกเขาได้อย่างไรเมื่อ “อดีตหัวหน้าตำรวจ ยังเห็นอาชีพตำรวจเป็นเพียง ไซด์ไลน์” เท่านั้น ......สวัสดีครับ
เกลือสมุทร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี