ป่าหมดเพราะการใช้อำนาจเกินขอบเขต
เรียน คุณวิภาวดีฯ ที่นับถือ
ป่าไม้หมดไปเพราะผู้มีอำนาจใช้กฎหมายเกินขอบเขตและไร้การถ่วงดุลอำนาจ
ไม่ว่าประเทศไทยจะมีประชาธิปไตยหรือไม่ ในโลกความเป็นจริง ผู้ครอบครองอำนาจคือผู้อยู่เหนือกฎหมาย ระหว่างยังครองอำนาจ จะไม่มีอำนาจใดสามารถตรวจสอบและเช็คบิลได้เลย ต้องรอให้หมดอำนาจก่อน จึงอาจจะถูกเช็คบิล ป่าไม้เป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ให้เห็นว่า เมื่อผู้รักษากฎหมายไม่ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง ป่าไม้
ก็หมดไปจากประเทศไทย อย่าว่าแต่เสือดำที่มีสี่ขา ยังวิ่งหนีลุกตะกั่วไม่ทัน ไม่สามารถรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้ ดังนั้นต้นไม้ที่วิ่งหนีไม่ได้ จึงถูกทำลายหมดป่า ซึ่งบรรดาข้าราชการที่มีหน้าที่อาจโต้เถียงว่า “เพราะผืนป่ากว้างขวาง จึงไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง” แต่ทำไมพื้นดินที่เคยเป็นผืนป่าจึงมีโฉนดได้ และนอกจากนั้นพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธาร คงไม่สามารถออกโฉนดเองได้แน่นอน
ประชาธิปไตยไทยนิยมยั่งยืนซึ่งออกแบบการใช้อำนาจเป็น “วันเวย์ ติกเก๊ท” ไร้การถ่วงดุล อำนาจยิ่งจะส่งเสริมให้ผู้ครอบครองใช้อำนาจเกินขอบเขตและไร้ความผิด เพราะไร้การถ่วงดุลทั้งจากอำนาจนิติบัญญัติ ตุลาการ และที่แน่นอนคือไร้การถ่วงดุลของประชาชน เพราะประชาธิปไตยไทย 81 ปีนั้น เป็นเพียงปลาอานนท์หนุนหลังอำนาจบริหารเท่านั้น โดยมีรัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือ โดยเฉพาะประชาธิปไตยครึ่งใบที่กำลังจะมาถึง ซึ่งมีรัฐธรรมนูญฉบับทุมมังกุ ออกแบบมาเพื่อการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารเท่านั้น แต่ประเด็นน่าสนใจคือ “ทำไมคนไทยส่วนมากยอมรับ” ยิ่งกว่านั้นคนไทยส่วนมากยอมรับทั้งๆที่มิได้อ่านร่างรัฐธรรมนูญสักมาตรา เพราะคุณสมชายต้องการ“ประหยัด”งบประมาณ จึงพิมพ์แจกไม่หมดทุกคน ทั้งที่รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดและเป็นของคนไทยทุกคน สมควรต้องจัดทำเอกสารแจกจ่ายให้ครบ ไม่ใช่อ้างว่าให้ไปดูในหนังสือพิมพ์หรือในเนต
การที่ประชาชนจำนวนมากยอมรับรัฐธรรมนูญทั้งๆ ที่ไม่ศึกษาเนื้อหาสาระนั้น บ่งบอกว่า “คนไทยยังมีคุณภาพทางการเมืองไม่เพียงพอ” จึงตกเป็นเครื่องมือหรือเหยื่อของนักการเมืองตลอดมา โดยเฉพาะเมื่อ “ไร้การถ่วงดุลอำนาจ” ยิ่งจะทำให้ผู้ครองอำนาจ ใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนและใช้ทำลายอธิปไตยของชาติได้ ไม่ว่าเรื่องดินแดน เศรษฐกิจและสิทธิเสรีภาพคนในประเทศเพราะสามารถลงนามสนธิสัญญาต่างชาติได้ทุกเรื่องโดยไม่มีอำนาจใดต้านทานได้ด้วยกฎ “ซิกตี้เดย์ รูล”
ประเทศเป็นอย่างใด ก็ต้องดูที่ประชาชน ในเมื่อประชาชนยอมรับรัฐธรรมนูญทั้งที่ไม่ได้ศึกษาเนื้อหาสาระ แต่รับเพราะต้องการให้คนร่างนั่งนานเท่านั้น หรือประชาชนที่เลือกพรรคและนักการเมืองเพราะนามสกุล เพราะสีเสื้อนิยม ไม่สนใจว่าคนเหล่านั้นจะใช้อำนาจอย่างไร เพราะเชื่อแต่ว่า “ใครมาก็กิน” จึงไม่ปฏิเสธการขายสิทธิ์ หรือรับจ้างเผาศาลากลางจังหวัด เผาห้างฯ รับจ้างชุมนุมไม่สนใจเหตุผล
นับวันประเทศไทยยิ่งจะสาละวันเตี้ยลง เหมือนป่าไม้ที่เปลี่ยนเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้มีอิทธิพล มีเรื่องเล่ากันว่า บรรดาหลังบ้านผู้ครองอำนาจหรือนักการเมืองสตรีที่คิดว่าอำนาจตน
สามารถเปลี่ยนผืนป่าต้นน้ำลำธารหรือชายทะเลให้เป็นโฉนดได้ พากันขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชี้นิ้วสั่งการข้าราชการที่ยอมเป็นขี้ข้าจัดการออกโฉนดให้ เรื่องราวฉาวโฉ่นี้เกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัยจนป่าไม้สูญสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
ดังนั้นเรื่องฉาวโฉ่ของเจ้าสัวฆาตกรฆ่าเสือดำที่บุกรุกป่านับหมื่นไร่นั้น ก็อาจจะเงียบล่องสูญเหมือนเรื่องเงินยืมและยืมนาฬิกา เพราะประชาชนมีสถานภาพเพียงทหารเกณฑ์ของผู้ครองอำนาจ
นายหมี่เหลือง
ตอบ คุณนายหมี่เหลือง
ที่ผ่านมาคนไทยอาจด้อยคุณภาพทางการเมือง แต่เมื่อผ่านประสบการณ์มากขึ้น มีคนรุ่นใหม่ๆมาแทนที่มากขึ้น ผมเชื่อว่า ยังไงก็ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง อย่าเพิ่งมองอะไรเลวร้ายเกินไป ดังนั้นเรื่องที่ผู้ครองอำนาจจะใช้อำนาจบาตรใหญ่เหมือนในอดีต เชื่อจะยิ่งทำได้ยากขึ้นทุกที โดยเฉพาะเรื่องป่า
วิภาวดี หลักสี่
สาเหตุวิกฤติประมงไทย
เรียน คุณวิภาวดี ที่นับถือ
ตามข่าวจากแนวหน้า ที่ว่ารัฐบาลจะซื้อเรือประมงคืนเกือบ 2 พันลำ และจะช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิรูปประมง ผมขอให้การดำเนินการสำเร็จด้วยดี ในอดีตผมเคยมีเรือประมงอวนลาก 1 ลำ ปัจจุบันเลิกอาชีพนี้แล้วเพราะมีปัญหามาก ในอดีตเอาไปลากอวนทั้งในประเทศและน่านน้ำสากล เพื่อนเรือประมงทุกลำ เราไม่เคยรุกล้ำน่านน้ำอธิปไตยประเทศเพื่อนบ้านในระยะ 12 ไมล์ทะเลใกล้ฝั่ง เคารพสิทธิ์ตามกฎหมาย เราออกไปทำประมงไกลฝั่ง ฝ่าคลื่นลมมรสุมไม่เคยหวาดหวั่น นำทรัพยากรสัตว์น้ำเข้าประเทศไทย ยุคนั้นได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 10 ของโลกที่จับสัตว์น้ำได้ปริมาณสูง
ต่อมาทุกประเทศทยอยประกาศขยายอาณาเขตในทะเลออกไปจากชายฝั่งจาก 12 ไมล์เป็น 200 ไมล์ทะเลเรียกว่า “เขตเศรษฐกิจจำเพาะ” อ้างเพื่อปกป้องทรัพยากร 1 ไมล์ทะเลเท่ากับ 1,800 เมตรเศษ เมื่อทุกประเทศขยายน่านน้ำ 200 ไมล์ทะเล พื้นที่ทะเลหลวงทำประมงก็หมดไป เรืออวนลากจากไทยไม่สามารถลากในมหาสมุทรสุดลึกได้ เพราะลากไม่ถึง ไทยแม้ไม่เต็มใจก็ต้องประกาศเช่นกัน สมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์เป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อกองทัพเรือประมงไทยถูกตีโต้ด้วยประกาศ 200 ไมล์ ต้องถอยร่นไม่เป็นขบวนกลับน่านน้ำไทย เรือมาแออัดอยู่ชายฝั่งทะเลโคลน เฉพาะอ้วนลากถูกและผิดกฎหมายหลายหมื่นลำ นับเป็นช่วงวิกฤติ ใกล้ฝั่ง 3,000 เมตร กฎหมายเดิมห้ามลากออกไปชนเกาะในทะเล คณะกรรมการกฤษฎีกาชี้ว่า เกาะเป็นชายฝั่ง ต้องเริ่มนับใหม่กลายเป็น 6,000 เมตร ที่นี่ยุ่งกันใหญ่
การออกไปไกลจากน่านน้ำไทย กฎหมายบัญญัติอีกว่า กรณีประมงถูกจับกุมในต่างประเทศ เมื่อรัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศช่วยลูกเรือไทยกลับประเทศหลังถูกจำคุก ค่าใช้จ่าย
ทุกบาท เช่น ค่าเครื่องบินลูกเรือทุกคน ทางเจ้าของเรือต้องรับผิดชอบชดใช้คืนหลวง อันนี้แทบจั๊กแหล่นทั้งลูกหนี้และผู้ทวงหนี้ เพราะชาวประมงสิ้นเนื้อประดาตัวไปนานแล้ว นี่ยังไม่นับกองทัพเรือฐานลอยหลายหมื่นลำที่กระจายทั่วราชอาณาจักร ทำประมงวางอยู่กับที่ กำลังเคลื่อนไหวขอวางอวนออกไปไกลฝั่งซึ่งน่าจะเป็นเช่นนั้นได้ แต่ควรมีทุ่นโฟมหรือปักธงหรือโคมไฟ บอกให้รู้เวลากลางวันหรือกลางคืน
กรมประมงพยายามมาหลายปี เพื่อลดจำนวนเรืออวนลาก แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะผู้มีอำนาจคือรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง ณ เวลานี้ EU ขอฟื้นสัมพันธไมตรีแต่มีเงื่อนไข เยอรมนีสมาชิกสำคัญ
ของ EU นั่นแหละครับ เป็นผู้คิดค้นสร้างอวนลากขึ้นมา ครั้งแรกถ้าจำไม่ผิด โฆษณาสินค้าว่าเป็นอวนถุงลากหน้าดิน สามารถจับสัตว์น้ำด้อยคุณค่ามาใช้ประโยชน์ แปรรูปเป็นมีมูลค่าสูงขึ้น เป็นเครื่องมือประมงประสิทธิภาพสูงมาก ไทยเป็นลูกค้าที่ดีของยุโรปมานาน ทั้งสินค้ารถยนต์ เครื่องบิน นาฬิการาคาแพง ไม่ใช่เราจะขายสัตว์น้ำฝ่ายเดียว แต่เราอาภัพ ทำดีแล้ว ยุโรปยังไม่พอใจ เราก็ไม่เสียใจหรอก
ผมหวังว่า สิ้นยุคพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สถานการณ์ประมงคงไม่เหมือนเดิมอีก
ชาวประมงในอดีต
ตอบ คุณชาวประมงในอดีต
ที่คุณเขียนมานับว่าได้ให้ความรู้ ทำให้เข้าใจที่มาที่ไปปัญหาประมงไทยดีทีเดียว แม้การที่ไทยถูกอียูบีบเรื่องประมง ยังมีปัญหาเกี่ยวกับแรงงานทาสและอื่นๆ อีก แต่พื้นฐานก็เป็นอย่างที่คุณว่ามา
วิภาวดี หลักสี่
ร่างอดีต
เรียน คุณวิภาวดี หลักสี่ ครับ
ร่างอดีต
ในอดีตขีดเขียนเจียนจ่อจด คุณสมยศกดคำจำได้โบ
จักก่อตั้งดังว่า กาสิโน เอิ้นวาจาผ่าโชว์ โวตึงตัง
จะทำเรื่องเนื่องว่าให้ปรากฏ ในสมัยสมยศ ซดหน้าตั้ง
อดีตการผันผ่าน ไม่นานมั้ง กลายเป็นคลื่นกระทบฝั่งดังเห็นกัน
กะอีแค่ยืมเงิน เดินสะพัด ถือว่าจัดจิ๊บจ๊อยปลายก้อยฉัน
แม้ผู้ให้ยืมหยิบสิบร้อยพัน เบื้องหลังนั้นเป็นอะไรฉันไม่แคร์
ดูคนดูได้จากนิสัยการคบเพื่อน โบราณเตือนเอาไว้ ใช่แหงแหง
คือคบเพื่อนเช่นไรในดวงแด คนไปคบนั่นแน่ แลเหมือนกัน
แถมยังพูดบูดเบี้ยวหน้าเหนี่ยวไหม เป็นตำรวจอวดแค่ไซด์ไลน์นั้น
ของหลักหลักดักหุ้น ตุนพระครัน คือของมั่นของผม ของสมยศ
วาจาแจ้งแดงแจ๋ทุกนน อยู่ที่คนทุกผู้ ชูกำหนด
โปรดใช้วิจารณญาณ วิชานทด ขอประณตประนม ผมบ๊ายบาย
รัตน์ เรืองรอง
wvvipawadee1@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี