บริเวณ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ถ้าจะเปรียบเทียบก็คล้ายประเทศไทยมีลูกสาวสวย มีทะเล หาดทราย ภูเขา ต้นไม้ เปรียบเสมือนลูกสาวที่มีปากเรียวงาม คิ้วดกดำ ตาคม ขนตางอน จมูกโด่ง
แต่ขณะนี้ รัฐบาล-ผู้เป็นพ่อ กำลังจะหาผัวรวยให้ลูกสาว โดยไม่เลือกว่าจะเป็นเจ้าสัวคนไหน หรือเศรษฐีต่างชาติ มาลงทุน สร้างบ้าน ถึงกับออกกำหนดกฎเกณฑ์ใหม่ ยกเลิกประเพณีเดิมของหมู่บ้านและครอบครัว เพื่อหวังเอาใจผัวฝรั่ง เศรษฐีต่างชาติ หรือเจ้าสัวไทยให้มาตกล่องปล่องชิ้น
ความรู้สึกนี้ เกิดขึ้นจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่เป็นโครงการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน ลาว เขมร เวียดนาม พม่า ดึงดูดนักลงทุนให้มาลงทุนบนพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ถึงกับออกกฎหมายพิเศษเพื่อยกเลิกล้มล้างกฎเกณฑ์เดิมตามกฎหมายต่างๆ เพื่อจูงใจเจ้าสัว เศรษฐีต่างชาติ มาร่วมลงทุน ขณะเดียวกัน ก็วาดฝันให้คนไทยท้องถิ่น ทั้งเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว เคลิ้มไปกับผลประโยชน์ที่จะได้จากการจัดการของรัฐบาลผู้เป็นพ่อ
ลูกและเพื่อนๆ ลูกจะได้มีงานทำ จะมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาในพื้นที่ ราคาที่ดินจะแพงขึ้น จะได้มีเงินจับจ่ายใช้สอยสะดวกสบายมือ ขอให้เห็นด้วยกับรัฐบาล(พ่อ) ที่จะชักจูงเจ้าสัวหรือเศรษฐี
ต่างชาติเข้ามาร่วมหลับนอนด้วย
พ.ร.บ.EEC ที่เปรียบเสมือนกฎเกณฑ์ของหมู่บ้าน ของครอบครัว ได้ออกมาล้มล้างกฎเกณฑ์ประเพณีเดิม และกฎหมายอื่นๆ เพื่อจูงใจนักลงทุน
ให้ต่างชาติหรือเจ้าสัวที่มาลงทุน ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้และอื่นๆ ในระยะเวลาหนึ่ง (เสมือนจะไม่เรียกเก็บค่าสินสอด ทองหมั้น)
ให้ต่างชาติที่เป็นนิติบุคคล สามารถครอบครองที่ดิน 99-100 ปี โดยให้ครอบครองได้ครั้งละ 50 ปี ต่อได้อีกครั้ง เพื่อแลกกับการนำเงินมาสร้างโรงงาน (สร้างบ้าน ปลูกเรือนหอ)
กฎเกณฑ์เรื่องการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและผลกระทบสุขภาพของคนในหมู่บ้านชุมชน ก็จะทำอย่างรวบรัดเป็นพิเศษ ไม่เหมือนกฎเกณฑ์ที่ใช้ในที่อื่นๆ (กรณีแต่งงานลูกคนอื่น) เสมือนเจ้าบ่าวจะนำกลิ่นตัวมาปล่อย จะมาถ่ายปัสสาวะ จะมาทิ้งขยะ ของเสียบ้าง ก็จะประเมินดูอย่างคร่าวๆ เป็นพิเศษ
จะให้ใบอนุญาต (วีซ่า) แก่ต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนทำงาน อยู่ได้ยาวเป็นพิเศษ รวมทั้งจะส่งเสริมชักจูงให้มีสถานศึกษาสอดคล้องกับความต้องการของคนต่างชาติ (เขยฝรั่ง) มีมาตรฐานวิธีการศึกษาดีเป็นพิเศษ ต่างกับลูกชาวบ้านทั่วไป เพื่อให้ได้ทำงานเป็นลูกจ้างเขยฝรั่งต่อไปด้วย
รัฐบาล(พ่อ) จะนำเงินภาษีที่เก็บจากที่ต่างๆ รวมทั้งเงินกู้ เพื่อสร้างถนนหนทาง สนามบิน ท่าเรือ ไฟฟ้า แหล่งน้ำ รถไฟความเร็วสูง และความเร็วปานกลาง เพื่อสะดวกในการทำมาหากินของเศรษฐีลูกเขยที่จะเข้ามาทำกิจการบนผืนแผ่นดินบรรพบุรุษ
นี่คือความรู้สึกนึกคิดที่ต้องการคำอธิบายของคนในชาติ ว่าประเทศไทยและคนในพื้นที่ 3 จังหวัดระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกจะต้องพบ ใช่หรือไม่?
อดีตอันขมขื่นเจ็บปวด ในบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง ยังฝังใจไม่ลืมเลือน
รัฐบาลชักชวนนักลงทุนมาสร้างโรงงานชายฝั่งทะเล โดยจดทะเบียนบริษัทในกรุงเทพฯ จ่ายภาษีที่กรุงเทพฯ (ส่วนกลาง) ท้องถิ่นไม่ได้รายได้สักเท่าไหร่
แต่ประชาชนคนในท้องถิ่นต้องได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม ทั้งกลิ่น ควัน น้ำเสียเป็นพิษ ต้องซื้อน้ำกินน้ำใช้ ขยะมากมาย ต้องย้ายโรงเรียน เพราะแม้แต่โรงเรียนที่มีอาคารใหญ่โตก็ไม่สามารถทานทนต่อมลพิษ ไม่สามารถทำการเรียนการสอนได้ทั้งโรงเรียน
เมื่อครั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความจริง พบว่า เข้าในพื้นที่ได้ไม่นาน ก็แสบจมูก ทางเดินหายใจขัดข้อง น้ำตาไหล จึงได้ผลักดันให้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และต้องระบุไว้ในรัฐธรรมนูญให้มีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และผลกระทบสุขภาพกับโครงการต่างๆ อย่างเข้มข้น
ประชาชนในพื้นที่ได้รับสารพิษ เป็นมะเร็ง สูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ
แรงงานจากภาคต่างๆ รวมทั้งแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงาน ย่อมเกิดการสับสนปนเปของวัฒนธรรม เกิดปัญหาสังคม คนในพื้นที่ได้รับการจ้างงานบ้าง แต่ได้ไม่คุ้มเสีย
ราคาที่ดิน ค่าครองชีพสูงขึ้น จากกิจการและจำนวนคนทำงานที่มากขึ้น แต่สภาพแวดล้อม
เสื่อมทรุด
อำนาจต่อรองของชาวบ้านในพื้นที่ไม่สูงมากเท่ากับเศรษฐีนักลงทุน ทั้งไทยและต่างชาติ จึงต้องทนรับผลกระทบอยู่ทุกวันนี้
ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกจะดีจริง เหมือนรัฐบาลหรือผู้เป็นพ่อพยายามหว่านล้อมลูกสาวให้ยอมมีผัวเป็นเจ้าสัว หรือเศรษฐีฝรั่ง ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับ ลดและเลิกเก็บภาษี (ไม่มีขันหมาก ทองหมั้น และสินสอด) โดยที่ไม่มั่นใจว่าจะสามารถเลือกลูกเขยที่นิสัยดี ความรู้ดี แบบที่เราต้องการหรือไม่
ล่าสุด สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ผ่านร่างกฎหมาย EEC นำเข้าสู่ขั้นตอนประกาศใช้แล้ว
การออก พ.ร.บ.พิเศษเพื่อใช้เฉพาะในพื้นที่ในกรณีนี้ จะถูกต้องเหมาะสม เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อไปอีกหรือไม่? เสมือนยกเว้นกฎเกณฑ์ ประเพณี ข้อห้ามของเรา เพื่อดึงดูดเขยเศรษฐี
วิธีคิดลักษณะนี้ ทำไมช่างคล้ายกับพ่อแม่ที่ต้องการหาผัวฝรั่งมาให้ลูกสาว จนบางหมู่บ้านในภาคอีสานและภาคเหนือ เต็มไปด้วยเขยฝรั่ง ซึ่งส่วนมากเป็นคนชราปลดระวางจากการทำงานแล้ว เราจะได้ข้อคิดอะไรจากบทเรียนของชาวบ้านบ้างไหม?
หากเปรียบวิธีคิดแบบนี้ กับแนวคิดของรัฐบาลทักษิณ ที่ถูกตีแผ่และล้มไปในปี 2547-2548 ในเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทำไมจึงคล้ายกันอย่างมาก ต่างกันก็แต่แนวทางของรัฐบาลทักษิณเข้มข้นกว่าที่กั้นเขตเศรษฐกิจพิเศษไม่ให้คนไทยทั่วไปเข้า แต่ครั้งนี้ไม่ปรากฏ
จะหาผัวรวย ให้ลูกสาวสวยทั้งที ลองถามความเห็นของลูกสาวและเพื่อนๆ ลูกสาวในพื้นที่ อย่างจริงใจ โดยไม่ใช้เทคนิคการตลาด หว่านล้อม ชักจูงให้หลงตามผู้เป็นพ่อ
ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี