ข่าวอื้อฉาวครึกโครมหลายเรื่องช่วงนี้มันสะท้อนให้เห็นถึงความเน่าเฟะเหลวแหลกของระบบราชการไทยซึ่งจำเป็นต้องมีการสังคายนาผ่าตัดระบบราชการอย่างจริงจังเสียที ผู้บริหารหย่อนยานขาดการใส่ใจในการควบคุมให้ข้าราชการในสังกัดของตัวเองทำหน้าที่ภายใต้หลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ในฐานะที่เป็นลูกจ้างกินเงินภาษีของประชาชนและประเทศ
ที่ผ่านมาหลายต่อหลายกรณีที่สะท้อนความอยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรม และแฝงไว้ด้วยการทุจริตหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของข้าราชการ อย่างกรณีทายาทมหาเศรษฐีเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดงที่ขับรถชนตำรวจกลางกรุงซึ่งจนบัดนี้เวลาผ่านมากว่า 5 ปี ผู้ต้องหาก็ยังลอยนวลและข้อหาบางคดีหมดอายุความไปแล้วโดยที่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวมารับโทษตามกฎหมายจนมีการประชดประชันว่าคุกมีไว้ขังเฉพาะคนจน ยกเว้นสำหรับคนรวย
หรือกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก ตำรวจพาหนีโทษความผิดในคดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ออกนอกประเทศไปได้อย่างลอยนวล หรือกรณี เสี่ยกำพลวีระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหาหนีหมายจับคดีสถานอาบอบนวดในคราบสถานค้ามนุษย์วิคตอเรีย ซีเครทก็มีข่าวว่าคนสีกากีพาหนีออกนอกประเทศไปได้อย่างลอยนวลท่ามกลางข่าวส่วยธุรกิจสีเทาและเรื่องนี้ยังพัวพันไปถึงกรณีอัปยศสุดอื้อฉาวเมื่ออดีตผบ.ตร.ยืมเงิน 300 ล้านบาท จาก “เสี่ยกำพล” โดยไม่สามารถชี้แจงเคลียร์ได้อย่างชัดเจนถึงที่มาที่ไปของเงินดังกล่าว ซ้ำเจ้าตัวยังประกาศว่าอาชีพตำรวจเป็นแค่ “ไซด์ไลน์” โดยอาชีพหลักคืออาชีพเซ็งลี้
หรือกรณีหวยอลเวงรางวัลที่หนึ่ง 30 ล้านบาท นี่ก็เหมือนกันมีบิ๊กสีกากีเข้าไปเกี่ยวข้อง ในการบิดเบือนสำนวนคดีจนเกิดความโกลาหล
และล่าสุดที่กำลังอื้อฉาวบานปลายใหญ่โตก็คือกรณี “ป้าทุบรถ” ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ เจ้าของบ้านหลังใหญ่ในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ซอยศรีนครินทร์ 55 เขตประเวศ กทม. โกรธใช้ขวานและค้อนทุบรถของหญิงสาวคนหนึ่งที่มาจอดรถปิดหน้าประตูบ้านเป็นเวลานาน จนกลายเป็นข่าวใหญ่และคดีความ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงประเด็นปลายเหตุโดยประเด็นสำคัญที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราว
ทั้งหมดสะท้อนความเน่าเฟะของระบบราชการโดยเฉพาะกทม. ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยปละทำเรื่องผิดให้เป็นเรื่องถูกจนบานปลายมาจนทุกวันนี้
ครอบครัว “แสงหยกตระการ” ได้ซื้อบ้านหลังดังกล่าวมานานนับสิบปีก็ด้วยหวังว่าจะใช้เป็นที่พักพิงใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข แต่แล้วกลับมีนายทุนหลายคนมาซื้อที่ดินรอบบริเวณบ้าน แล้วสร้างเป็นตลาดสดทั้งๆ ที่เป็นหมู่บ้านจัดสรรเพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งในจำนวนนี้รวมทั้งสมาชิกตระกูลมหาเศรษฐีระดับชาติอย่าง นางพัชรี เจียรวนนท์ ภรรยาของ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อแม้ว โดยผลจากการสร้างตลาดถึงเกือบ 10 แห่ง ติดและรายล้อมบ้านของน.ส.บุญศรี ได้สร้างความทุกข์เดือดร้อนทรมานต่อจิตใจต่อครอบครัว “แสงหยกตระการ” มานานนับสิบปี ทั้งการมีรถที่มาซื้อของในตลาดจอดขวางประตูเข้า-ออกบ้าน สิ่งสกปรก หนู กลิ่นเหม็นรุนแรงจากตลาดสด ควันพิษจากรถที่พลุกพล่าน และเสียงดังที่ทำลายชีวิตที่ควรสงบสุขอย่างสิ้นเชิง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นมีการร้องเรียนไปยังหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเริ่มจากตำรวจท้องที่แต่กลับนิ่งเฉย และมีการร้องเรียนไปยังผู้ว่าฯกทม. และสำนักงานเขตประเวศ ในอดีต รวมทั้งมีการฟ้องร้องต่อศาลซึ่งศาลก็พิพากษาให้ความคุ้มครองบ้านของ น.ส.บุญศรี แต่อดีตผู้ว่าฯกทม.และสำนักงานเขตประเวศ กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรืออาจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยการปล่อยให้มีการสร้างและเปิด “ตลาดเถื่อน” อย่างผิดกฎหมาย
ในการลงตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ก็ยอมรับว่าตลาด 3 แห่งรอบบ้านของ น.ส.บุญศรี เป็น “ตลาดเถื่อน” ที่ไม่ได้ขออนุญาต แต่อีกหลายแห่งขออนุญาตสร้างอาคารเพื่อการค้าแต่กลับสร้างเป็นตลาด
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯกทม.สั่งการให้นายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมืองผู้อำนวยการเขตประเวศ แก้ปัญหาทั้งหมดให้ได้ข้อยุติใน 7 วัน
จากกรณีอื้อฉาวที่เป็นข่าวใหญ่โตทั้งหลายที่เกิดขึ้นตลอดช่วงที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงความเน่าเฟะหย่อนยานของระบบราชการที่ยังขาดจิตสำนึกรับใช้ประชาชนและไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าพอเกิดปัญหาเป็นข่าวใหญ่โตทีถึงกระตือรือร้นออกมาล้อมคอกกันที หากไม่เป็นข่าวใหญ่โตก็ทำงานแบบเช้าชามเย็นชามละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กลบเกลื่อนปัญหา และที่เลวร้ายกว่าคือทุจริตทำเรื่องผิดให้เป็นถูก ข้าราชการหลายคนชอบวางตัวกร่างเป็นเจ้านายชาวบ้านทั้งๆ ที่เป็นลูกจ้างกินเงินภาษีของประชาชน นับวันวิกฤติศรัทธาของประชาชนที่มีต่อระบบราชการจะสั่งสมรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งได้แต่หวังว่าอำนาจรัฐภายใต้อำนาจพิเศษจะปฏิรูประบบราชการอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยให้วัวหายแล้วค่อยมาสร้างภาพล้อมคอกอย่างที่ผ่านๆ มา
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี