สถานการณ์จากนี้ไปคงต้องจับตาอย่ากะพริบเพราะมีสัญญาณบ่งชี้ว่าขบวนการกลุ่มอำนาจเก่าวางแผนเดินเกมสุมไฟป่วนเมืองขั้นแตกหักโดยใช้ยุทธวิธีแยกกันเดินแต่ร่วมกันตีภายใต้ยุทธการ “14 ตุลาฯโมเดล” โดยอาศัยกลุ่มนักศึกษาหน้าเดิมๆ เป็นหัวหอกในการจุดชนวนสร้างกระแสให้เกิดการลุกฮือของมวลชนทั้งประเทศ โดยมีพรรคเพื่อไทย นักวิชาการและกองกำลังแดงฮาร์ดคอร์คอยผสมโรงเมื่อสถานการณ์ถึงจุดเดือด
การแสดงพลังที่อ้างประชาธิปไตยและการเลือกตั้งบังหน้าของมวลชนที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นมวลชนจัดตั้ง 200-300 คน ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งมวลชนส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนเสื้อแดงถือเป็นการหยั่งเชิงสุมไฟป่วนเมืองยกแรกของขบวนการจ้องล้มอำนาจรัฐคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อหยั่งกระแสมหาชน ซึ่งแม้แผนสุมไฟหวังให้ประชาชนลุกฮือจุดไม่ติด แต่ นายรังสิมันต์ โรม และ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” สองแกนนำนักศึกษาที่เป็นหัวโจกการเคลื่อนไหวประกาศว่ายังจะมีการนัดแสดงพลังของมวลชนครั้งต่อไปในวันที่ 22 พ.ค. ที่จะถึงนี้อันเป็นวันครบรอบ 4 ปี การรัฐประหารของคสช. พร้อมกับเชิญชวนให้นักการเมืองออกมาร่วมการแสดงพลังครั้งใหญ่นี้
ทันทีหลังการเชื้อเชิญของนักเคลื่อนไหวในคราบนักศึกษาเท่ากับเปิดทางให้ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย รีบออกมาขานรับทันทีโดยประกาศจับมือกับกลุ่มนักศึกษาโดยจะไปร่วมขึ้นเวทีปราศรัยบนเวทีแน่นอนในการแสดงพลังครั้งต่อไป
ขณะที่ นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทย แกนนำเสื้อแดง ส่งสัญญาณว่าขณะนี้ประชาชนและนักศึกษาไม่เกรงกลัวคณะยึดอำนาจอีกต่อไป และให้ระวังการเคลื่อนไหวของพลังนักศึกษาประชาชนครั้งนี้จะซ้ำรอยเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 2516 ทั้งที่ความเป็นจริงบริบทเบื้องหลังและความชอบธรรมของเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 2516 กับสถานการณ์ในปัจจุบันต่างกันสิ้นเชิง
ขณะที่มีความพยายามจัดตั้งม็อบนักศึกษาในมหาวิทยาลัยในภูมิภาคทั้งที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเฉพาะที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การเคลื่อนไหวมีดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการเสื้อแดง รวมอยู่ด้วย
ตามด้วยกลุ่มอยากเลือกตั้งนำโดย “จ่านิว” และ นายรังสิมันต์ ที่พยายามเดินสายโหมกระแสสุมไฟ 14 ตุลาฯโมเดล ในภูมิภาคเริ่มที่จ.นครราชสีมา แต่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงเพราะชาวโคราชเมิน มีชาวบ้านมายืนฟังแค่ 20-30 คน แล้วเดินผ่านไป
การออกมาแสดงพลังสุมไฟ 14 ตุลาฯโมเดลของกลุ่มต่างๆ ในช่วงนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าเกิดขึ้นสอดคล้องกับการปรากฏตัวของสองอดีตนายกฯนักโทษหนีคุกพี่น้องตระกูลชิน คือ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ช่วงนี้เดินสายท้าทายอำนาจรัฐคสช.ในหลายประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น และฮ่องกง ซึ่งการเคลื่อนไหวของสองพี่น้องคนสำคัญตระกูลชินครั้งนี้ยังเป็นการส่งสัญญาณปลุกขวัญให้บรรดาอดีตสส.พรรคเพื่อแม้วเกาะกลุ่มกันให้เหนียวแน่นไม่คิดตีจากและเตรียมพร้อมเพื่อเปิดศึกครั้งใหญ่ทุกรูปแบบขั้นแตกหัก
ด้านคสช.มีรายงานข่าวว่าในการประชุมคสช.ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ หัวหน้าคสช. กำชับให้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคสช. ติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงนี้อย่างใกล้ชิด และระมัดระวังการดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวเพราะอาจเป็นข้ออ้างทำให้สถานการณ์บานปลายโดยขบวนการเคลื่อนไหวทั้งหมดที่ล้วนเป็นพวกเดียวกันหวังสร้างสถานการณ์ให้เหมือนเหตุการณ์ 14 ตลาฯ 2516 พร้อมกันนี้ให้จับตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มหัวรุนแรงเนื่องจากอาวุธสงครามจากประเทศเพื่อนบ้านที่ทะลักเข้าไทยในเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 จนบัดนี้ยึดคืนมาได้เพียง 50% เท่านั้น ซึ่งต่อมามีการจับกุมแดงฮาร์ดคอร์ลูกน้อง นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” แกนนำแดงก่อการร้าย ได้กลางกรุง เพร้อมอาวุธสงครามจำนวนหนึ่ง
ล่าสุดอำนาจรัฐคสช.ได้สลายข้ออ้างความชอบธรรมการเคลื่อนไหวของกลุ่มอยากเลือกตั้ง โดย พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้ง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)รวมทั้ง พล.อ.เฉลิมชัย ยืนยันสอดคล้องกันว่า จะไม่มีการล้มร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสส. และสมาชิกวุฒิสภา(สว.)อันจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปตามกำหนดในต้นปีหน้า
ดังนั้นการเคลื่อนไหวของกลุ่มอยากเลือกตั้งและอีกหลายกลุ่มที่ล้วนเป็นขบวนการหน้าเดิมๆ จึงถูกตั้งคำถามว่าซ่อนเป้าหมายแอบแฝงทางการเมืองที่แท้จริงหวังสุมไฟ 14 ตุลาฯโมเดล ให้เกิดการลุกฮือทั่วประเทศเพื่อล้มอำนาจรัฐคสช.ด้วยพลังนักศึกษาประชาชนเหมือนในอดีตหรือไม่
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี