แม้จะให้คำมั่นสัญญาที่ถูกมองว่าไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย แต่คำประกาศล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ย้ำว่าเลือกตั้งทั่วไปจะมีขึ้นแนไม่เกินเดือนก.พ.2562 ก็เหมือนหมัดเด็ดที่ทำเอาบรรดาเครือข่ายอยากเลือกตั้งที่พยายามสุมไฟ 14 ตุลาฯโมเดล ถึงกับมึนไปไม่ถูกต้องปรับเกมจ้องล้มกันอุตลุด
การประกาศยืนยันแล้วว่าการเลือกตั้งเกิดแน่ในต้นปีหน้าของผู้นำรัฐทำให้บรรดาขบวนการอยากเลือกตั้งหมดข้ออ้างไร้ความชอบธรรมในการเคลื่อนไหว อย่างที่ก่อนหน้านี้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เคยตั้งข้อสงสัยดักคอเป็นนัยๆ ถึงบรรดากลุ่มอยากเลือกตั้งว่า ในเมื่อการเลือกตั้งกำลังเดินไปตามโรดแมปและจะมีการเลือกตั้งภายในเดือนก.พ.2562 แน่นอนอยู่แล้ว จึงสงสัยว่าออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งเพื่ออะไรกันแน่
ก่อนหน้านี้กลุ่มเคลื่อนไหวอยากเลือกตั้งที่พยายามสุมไฟ 14 ตุลาฯโมเดล โดยใช้แกนนำนักศึกษาอย่าง นายรังสิมันต์ โรม และ นายสิรวิทย์ เสรีธิวัฒน์ หรือ“จ่านิว” เป็นหัวโจก แต่ก็นัดชุมนุมแสดงพลังหลายครั้งที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นแล้วว่า แผนปฏิบัติการ “14 ตุลาฯโมเดลกร่อยสนิทจุดไม่ติดมีแต่คนหน้าเดิมพวกเดียวกันเองที่จัดตั้งกันมาออกมาเย้วๆ ขณะที่คนทั้งประเทศไม่ได้ให้ความสนใจแม้แต่น้อยทั้งการนัดแสดงพลังครั้งแรกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา หรือที่จ.นครราชสีมา มีชาวโคราชมามุงดูการปราศรัยแค่ 20-30 คนจนต้องปิดเวทีกลับบ้านมือเปล่า หรือที่ข้างหอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก่อนหน้านี้ก็ล้วนพวกคนหน้าเดิม 300-400 คนที่เกณฑ์กันมา โดยมีบรรดาแกนนำและอดีตสส.พรรคเพื่อแม้ว อาทิ นายวัฒนา เมืองสุข นายวรชัย เหมะ คอยให้ท้ายสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มอยากเลือกตั้ง
ขณะที่พรรคเพื่อแม้วเมื่อไม่มีข้ออ้างที่จะเคลื่อนไหวถล่มคสช.หลัง พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่าเลือกตั้งมีแต่เดือนก.พ.2562 พรรคเพื่อแม้วก็เดินเกมตีรวนเรียกร้องในลักษณะได้คืบเอาศอกโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อแม้ว ออกมาแถลงไม่เชื่อคำยืนยันของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนก.พ.2562 จริง โดยขอให้กำหนดวันเลือกตั้งมาเลยให้ชัดเจน ทั้งๆ ที่ในเดือนมิ.ย.นี้จะมีการหารือระหว่างฝ่ายรัฐและตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรคเพื่อร่วมกันกำหนดวันเลือกตั้งที่เหมาะสมอยู่แล้ว
การที่ม็อบป่วนเมืองจุดไม่ติดเพราะคนทั้งประเทศเขารู้เช่นเห็นชาติแล้วว่ามีเป้าหมายเพื่อใครและต้องการอะไร นั่นคือพยายามขัดขวางการปฏิรูปประเทศเพื่อฟื้นวังวนวงจรอุบาทว์อันชั่วร้ายกลับมาหลอกหลอนทำร้ายประเทศอีกครั้ง เพื่อบรรดาเครือข่ายระบอบอันชั่วร้ายจะได้กลับมามีอำนาจแล้วโกงชาติปล้นแผ่นดินนำผลประโยชน์มาแบ่งกันเสพสุขอย่างอิ่มหมีพีมันเหมือนที่เคยเป็นมา
ประชาชนยุคปัจจุบันก็ไม่ได้เชียร์อำนาจรัฐคสช.แบบสุดลิ่มทิ่มประตูไม่ลืมหูลืมตาไปเสียทั้งหมด และประชาชนเดี๋ยวนี้รู้ทันรอบคอบมากขึ้น แต่เห็นว่าบ้านเมืองพินาศย่อยยับบอบช้ำอย่างหนักมามากพอแล้วตลอดช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาจากพรรคธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอม คนทั้งประเทศอยากเห็นบ้านเมืองเกิดความสงบสุขไม่เกิดวิกฤติก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเหมือนในอดีตอีก และอยากให้มีการปฏิรูปจัดระเบียบประเทศใหม่ให้พ้นจากสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายอันเกิดจากนักเลือกตั้งอย่างยั่งยืน
ขณะนี้ภายใต้อำนาจพิเศษของอำนาจรัฐคสช. แม้จะยังไม่สามารถสร้างผลงานสนองตอบความต้องการของมวลมหาประชาชนทั้งประเทศได้ในทุกเรื่อง แต่ปัญหาของชาติบ้านเมืองหลายเรื่องสั่งสมมานานซึ่งก็ได้รับการแก้ไขไปได้พอสมควร อย่างน้อยที่สุดบ้านเมืองก็เกิดความสงบเรียบร้อยและมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งต่างจากช่วงก่อนการยึดอำนาจของคสช.ที่ประเทศอยู่ในภาวะรัฐล้มเหลวสิ้นเชิง
ขณะที่เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศก็เติบโตขึ้นตามลำดับและที่กำลังเป็นผลงานที่จะสร้างความโชติช่วงชัชวาลย์ให้กับประเทศในอนาคตโดยเฉพาะโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก รวมทั้งการสร้างเครือข่ายระบบคมนาคมที่ทันสมัยโดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมโยงกันทั้งประเทศ รวมทั้งเชื่อมโยงระหว่างสนามบินหลักคือสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา ซึ่งเมื่อการคมนาคมขนส่งสะดวกก็จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างก้าวกระโดด
จากผลงานความสำเร็จของอำนาจรัฐคสช.ในหลายด้านที่เริ่มผลิดอกออกผลทำให้ขบวนการจ้องล้มทนไม่ได้ต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดอำนาจรัฐคสช.ไม่ให้สร้างผลงานสำเร็จเพราะหากปล่อยให้อำนาจรัฐคสช.สร้างผลงานจนเข้าตามหาชนจะทำให้มหาชนอยากให้อำนาจรัฐคสช.อยู่ต่อไปเรื่อยๆ ขณะที่บรรดานักเลือกตั้งมีหวังถูกลืมและต้องตกงานอีกนานเพราะฉะนั้นถึงอย่างไรก็ตามขบวนการจ้องล้มย่อมจะต้องหาข้ออ้างเพื่อหาเรื่องป่วนเมืองจนได้ โดยเฉพาะวันครบรอบ 4 ปีการยึดอำนาจของคสช. 22 พ.ค.นี้ มีการนัดรวมตัวแสดงพลังครั้งใหญ่กันล่วงหน้าไว้แล้ว เชื่อว่าแผนสุมไฟคงจุดไม่ติดเหมือนที่ผ่านๆ มา เพราะมหาชนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี