หลายฝ่ายถึงกับช็อกสำหรับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สัปดาห์ที่ผ่านมาที่ลงมติลับไม่รับรองว่าที่ 7 เสือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)แบบยกทีมอย่างผิดความคาดหมาย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นแม้แต่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. หรือ สมาชิกสนช.หลายคนต่างก็เชื่อว่าการลงมติแต่งตั้ง 7 ว่าที่กกต.จะผ่านฉลุยแน่นอน นั่นแสดงให้เห็นเบื้องหลังที่น่าสงสัยว่าจะมีใบสั่งฟ้าผ่าและลับสุดยอดในการโละว่าที่ 7 เสือ กกต. แบบยกทีม
ประเด็นที่หลายฝ่ายวิตกก็คือการต้องมาเริ่มต้นนับหนึ่งสรรหา 7 กกต.ใหม่ อาจจะทำให้ต้องยืดเวลาการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ คำตอบก็คือ กกต.ชุดเดิมสามารถทำหน้าที่แทนต่อไปได้
แต่ประเด็นที่น่าคิดเป็นอย่างยิ่งซึ่งสะท้อนจากความเห็นของ นายสมชาย ศรีสุทธิยากร 1 ใน 5 เสือ กกต. ชุดปัจจุบันที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งตั้งข้อสังเกตไว้อย่างสนใจว่า หากมี กกต.ชุดปัจจุบันลาออกแค่ 2 คนก็จะทำให้เหลือองค์ประชุมกกต.แค่ 3 คน ซึ่งไม่สามารถพิจารณาเรื่องสำคัญต่างๆ ได้เพราะองค์ประชุมต้องมีอย่างน้อย 4 คน ประกอบกับในเดือน ก.ค.นี้ นายบุญส่ง น้อยโสภณ 1 ใน 5 เสือกกต.จะมีอายุครบ 70 ปี ซึ่งตามรัฐธรรมนูญต้องพ้นจากตำแหน่งทันทีโดยปริยาย เว้นแต่จะมีคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ให้อยู่ต่อ
นอกจากนี้ กกต.ชุดปัจจุบันต้องคิดหนักหากจะต้องทำหน้าที่ต่อไป ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ขอทำหน้าที่ต่อเพราะต้องรับผิดชอบต่อการเลือกตั้งท้องถิ่นที่คาดว่าจะมีขึ้นในกลางปีนี้โดยที่แต่ละคนไม่มีอำนาจเต็ม ดังนั้นหากมีการร้องเรียนจนเกิดปัญหาคดีความในอนาคตต้องไปขึ้นศาลในฐานะส่วนบุคคลเมื่อพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งกกต.แต่ละคนคงต้องคิดหนักว่าจะกล้าเสี่ยงหรือไม่
เพราะฉะนั้นคงต้องจับตา 5 เสือ กกต.ชุดปัจจุบันเพราะหากไม่ขอรับหน้าที่ 2 คน หรือทั้งหมดอาจลาออกก็จะกลายเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่เกิดวิกฤติสุญญากาศช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งทันที
อีกคำถามก็คือ 7 ว่าที่ กกต.ที่ถูกโละทิ้งยกทีมซึ่งหมดสิทธิ์ลงสมัครอีกโดยปริยาย ทั้งๆ ที่คณะกรรมการสรรหาพิจารณาคัดเลือกกลั่นกรองมาเป็นอย่างดีรอบคอบแล้ว โดยเลือกบุคคลที่คิดว่าดีที่สุดแล้วจากผู้สมัครกว่า 40 คน เพราะฉะนั้นหากคณะกรรมการสรรหาเลือกผู้สมัคร กกต.ที่เหลือ ซึ่งไม่ได้รับการคัดเลือกก่อนหน้านี้เป็นว่าที่กกต.ชุดใหม่รอบสอง แล้วจะมีหลักประกันอะไรว่าจะไม่ถูกสนช.ลงมติคว่ำไม่รับรองอีก เพราะขนาด 7 คนที่ถือว่าดีที่สุดแล้วยังถูกปฏิเสธ อีกทั้งจะหาผู้สมัคร กกต.หน้าใหม่ที่มีคุณสมบัติขั้นเทพตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดเป็นเรื่องที่ยากแสนเข็ญกว่าการรับสมัครในรอบแรกก่อนหน้านี้
ขณะที่ รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือนิด้า ประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ให้ความเห็นว่า การโละว่าที่กกต.ยกทีมถือเป็นสัญญาณผิดปกติเพราะผู้สมัครกกต.ทุกคนที่ผ่านกระบวนการสรรหาล้วนเป็นบุคคลที่อำนาจรัฐปัจจุบันให้การสนับสนุน
บรรดาแกนนำโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ต่างออกมาตั้งข้อสงสัยว่าการโละ 7 ว่าที่กกต.ครั้งนี้อาจเป็นแผนทำให้การเลือกตั้งต้องถูกยืดออกไปจากภาวะสุญญากาศที่ไม่สามารถหา
ผู้มาทำหน้าที่กกต.ได้
แม้จะมีความพยายามชี้แจงจากสมาชิกสนช.บางคนว่าแม้จะเกิดกรณี 5 เสือกกต.ชุดปัจจุบันลาออกทั้งหมดก็ไม่กระทบต่อการเลือกตั้งอยู่ดี เพราะกระบวนการสรรหา 7 ว่าที่กกต.ชุดใหม่ก็ยังเดินหน้าต่อไปและต้องสรรหากกต.ชุดใหม่ให้เสร็จภายใน 90 วัน แต่คำถามก็คือจะมีหลักประกันอะไรว่าจะไม่เกิดเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งจนทำให้ไม่สามารถเลือก 7 ว่าที่กกต.ชุดใหม่ได้
เพราะฉะนั้นการโละ 7 ว่าที่กตต.จึงถือเป็นสถานการณ์ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้องจับตาอย่ากะพริบโดยเฉพาะท่าทีของ 5 เสือกกต.ชุดเดิมรวมทั้งกระบวนการสรรหากกต.รอบสอง เพราะหากเกิดสุญญากาศไม่มีกกต. หรือมีกกต.ล่าช้าไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม นั่นหมายถึงการเลือกตั้งตามโรดแมปจะเกิดความเสี่ยงไม่แน่นอนมากขึ้น
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี