หลังศึกเลือกตั้งโหมโรงโดยมี 42 พรรคไปยื่นขอจดทะเบียนพรรคการเมืองต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเปิดรับสมัครตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางการเฝ้าจับตาและความหวังของมวลมหาประชาชนที่อยากเห็นพรรคทางเลือกใหม่ที่จะเข้ามาปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงและชำระล้างสิ่งสกปรกที่เป็นต้นเหตุสำคัญของวิกฤติที่สร้างความบอบช้ำอย่างหนักให้ชาติบ้านเมืองตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา
ถ้าจะว่าไปแล้วบรรดาพรรคการเมืองที่จะลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนผ่านสำคัญครั้งนี้จะประกอบด้วยพรรคการเมืองหลายประเภททั้งพรรคการเมืองเก่าหน้าเดิม หรือพรรคการเมืองหน้าใหม่ซึ่งมีทั้งพรรคนอมินีหรือพรรคประเภทไม้ประดับที่เพียงแค่สร้างสีสันให้กับการเลือกตั้ง
แต่ทั้งหลายทั้งปวงถึงที่สุดแล้วการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นครั้งนี้จะเป็นการพิสูจน์และชี้ชะตาอนาคตของประเทศว่าจะเดินไปข้างหน้าหรือถอยหลังกลับไปสู่วังวนวงจรอุบาทว์อันเลวร้ายที่สร้างความชอบช้ำอย่างแสนสาหัสให้ชาติบ้านเมืองในช่วงที่ผ่านมา
นพ.เหวง โตจิราการ อดีตสส.พรรคเพื่อแม้ว แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง พยายามที่จะอ้างว่า ศึกเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ระหว่างคณะรักษาความสงแห่งชาติ (คสช.) กับฝ่ายประชาธิปไตย เช่นเดียวกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อแม้ว พยายามสร้างภาพต้อนรับการยื่นขอจดทะเบียนของ 42 พรรคการเมืองโดยชี้ว่านี่คือเวทีทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย
พรรคเพื่อแม้วนั้นมักอ้างสร้างภาพความเป็นประชาธิปไตยมาตลอด ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงพรรคเพื่อแม้วนั้นถูกตั้งข้อสังเกตว่าหาใช่สถาบันการเมืองไม่แต่เป็นบริษัทธุรกิจการเมือง โดยตระกูลชิน และเพื่อตระกูลชิน
ระบอบแม้วมองการเมืองเป็นธุรกิจที่ต้องทุ่มลงทุนซื้อสส. ซื้อเสียง ซื้ออำนาจรัฐ ซื้อประชาธิปไตย ซื้อประเทศ จากนั้นจะใช้อำนาจรัฐโกงชาติปล้นแผ่นดินถอนทุนบวกกำไรมหาศาล ยกตัวอย่าง โครงการรับจำนำข้าวยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่มีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศมูลค่าหลายแสนล้านบาท รวมทั้งใช้อำนาจรัฐในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมประพฤติชั่วร้ายตามใจชอบ อาทิ การผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่อ้างการสร้างความปรองดองบังหน้า แต่มีเป้าหมายแอบแฝงมุ่งลบล้างโทษความผิดให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกเพื่อจะได้กลับบ้านแบบเท่ๆ โดยไม่ต้องติดคุกในคดีทุจริตตามคำพิพากษาของศาล
พรรคเพื่อแม้วเป็น 1 ในแก้ว 3 ประการของระบอบแม้วอันประกอบด้วย พรรคการเมือง มวลชนคนเสื้อแดง และกองกำลังก่อการร้ายใต้ดินที่เคยบุกยิงและปาระเบิดใส่ที่ทำการศาล เคยก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง เคยก่อจลาจลทั่วกทม.และบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยา เคยบุกโรงพยาบาลจุฬาฯ และสภากาชาดไทยทำให้ต้องการอพยพคนไข้ ซึ่งรวมทั้ง สมเด็จพระญาณสังวร อดีตสมเด็จพระสังฆราช อย่างอลหม่าน
แกนนำคนเสื้อแดงหลายคนเป็นอดีตสส.และยังเป็นสมาชิกพรรคพรรคเพื่อแม้วอยู่จนบัดนี้ โดยบางคนเคยได้รับการสนับสนุนเป็นถึงรัฐมนตรี ซึ่งตัวอย่างพฤติกรรมข้างต้นสวนทางกับประชาธิปไตยที่แท้จริงอย่างสิ้นเชิง
ด้วยพฤติกรรมอันเหิมเกริมเลวร้ายในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมของรัฐบาลพรรคเพื่อแม้วเป็นชนวนให้มวลมหาประชาชนหลายล้านคนออกมาชุมนุมแสดงพลังขับไล่ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารประเทศจนกลายเป็นรัฐล้มเหลวสิ้นเชิงทำให้ในที่สุดนำไปสู่การยึดอำนาจของ คสช.
เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นครั้งนี้จึงไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างฝ่ายเผด็จการคสช.กับฝ่ายประชาธิปไตยอย่างที่อ้าง แต่จะเป็นการต่อสู้ระหว่างพลังฝ่ายที่ต้องการเดินหน้าปฏิรูปประเทศเพื่อชาติบ้านเมือง กับกลุ่มอำนาจเก่าซึ่งเป็นธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมอันเลวร้ายที่เป็นต้นเหตุของวิกฤติสร้างความบอบช้ำอย่างหนักให้กับประเทศ ทั้งนี้ ประชาชนโดยเฉพาะพลังเงียบจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดชะตากรรมอนาคตของชาติผ่านการลงคะแนนเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ซึ่งหากเลือกผิดนั่นหมายการเดินพันอนาคตชาติที่จะกลับไปสู่วังวนวงจรอุบาทว์อันเลวร้ายแบบเดิมซ้ำซาก
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี