ข่าวที่น่าสนใจจากประเทศจีนช่วงนี้คือ รัฐธรรมนูญใหม่ตกลงให้สี จิ้น ผิง เป็นประธานาธิบดีของจีนต่อโดยไม่มีวาระ 2 สมัย 10 ปี อย่างที่เป็นอยู่ในอดีตเพราะเมื่อต้นปี สี จิ้น ผิง ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีต่อในวาระที่ 2 อีก 5 ปี โดยไม่มีการเสนอชื่อบุคคลที่จะมาเป็นต่อหลังจากหมดวาระที่ 2 แล้ว
การเป็นประธานาธิบดีตลอดไปจะดีหรือไม่ดี? ถ้าทำงานได้ดีก็ทำให้ประเทศจีนเจริญรุ่งเรืองต่อไป ถ้าทำงานผิดพลาดก็จะสร้างปัญหาให้จีนอย่างมหาศาล อาจจะหมายถึงการเป็นเผด็จการและผูกขาดการเมืองด้วย
ผมจะไม่พูดปัญหาการเป็นตลอดไปดีหรือไม่ดี แต่อยากจะให้เห็นแนวคิดของ สี จิ้น ผิง เรื่องการพัฒนาคนในประเทศจีน ซึ่งมีคนถามความเห็นเรื่องคุณภาพของทุนมนุษย์ในจีน
สี จิ้น ผิง พูดไว้ 3 ประเด็น
Xi Jin ping (สี จิ้น ผิง)
ประเด็นแรกคือ คนในประเทศจีนต้องพร้อมจะปรับตัวให้ทันกับเหตุการณ์ต่างๆ 3 แนว คือ
- เร็ว
- ไม่แน่นอน
- ทายไม่ได้
ซึ่งเป็นแนวคิดที่สำคัญเพราะคนจีนพร้อมจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทุกสถานการณ์
เรื่องจริยธรรมและคุณธรรมนั้นคนจีนต้องมีคุณธรรมจริยธรรม เห็นได้ว่า สี จิ้น ผิง เข้ามาปราบปรามคอร์รัปชั่นขนานใหญ่ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดี
แต่ที่ผมประทับใจมากที่สุดคือ เขาสนใจที่จะให้คนจีนมีความเป็นมืออาชีพในกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม แม้ในระดับล่างก็เป็นมืออาชีพได้ ไม่ใช่เฉพาะระดับสูงเท่านั้นผมได้ลองสำรวจข้อมูลมาว่า ปัจจัยที่ไปสู่ความเป็นมืออาชีพได้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง พบว่ามีหลายปัจจัยที่น่าสนใจ
1.เรื่องบุคลิกภาพ ไม่ว่าอยู่ในตำแหน่งใด บุคลิกภาพการอยู่ในสังคมและการแต่งตัวเข้าสังคมต้องดูดี ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งสูงหรือต่ำต้องให้ดูดีเสมอ
2.มีความมั่นใจในตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่มั่นใจจนเกินพอดี จนเป็นความคึกคะนอง ต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ ได้อย่างสุขุม รอบคอบ
3.ต้องเป็นคนที่เชื่อถือได้ว่าจะทำงานให้สำเร็จโดยมีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งภาษาอังกฤษใช้คำว่า Reliability
4.ต้องมีสมรรถนะ Competency เหมาะสมกับงานที่ทำ
5.เรื่องคุณธรรม จริยธรรม ถ้าจะเทียบกับทฤษฎี 8K’s ของผม ทุนทางจริยธรรม Ethical Capital คือการเป็นมืออาชีพต้องมีคุณธรรมจริยธรรมด้วย
6.เมื่อเจอวิกฤติต้องมีความสามารถในการควบคุมตัวเองมีความสุขุม รอบคอบ ในการแก้ปัญหาต่างๆ ภาษาอังกฤษให้คำว่า “Poise” คือเมื่อมีปัญหาต้องชั่งใจให้ดีว่าจะแก้อย่างไรให้ได้ผลสูงสูด
7.ต้องมีมารยาทในการเข้าสังคม หรือมารยาทในการสื่อสารกับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะ โซเชียลมีเดีย มีความอ่อนน้อมในการคุยกับผู้ใหญ่ ซึ่งมารยาทเหล่านี้คนไทยบางคนในยุคใหม่นี้อาจจะยังไม่ได้ฝึกให้มีมารยาทในการเข้าสังคมกับผู้ใหญ่
8.ต้องมีความสามารถในการเป็นผู้บริหาร สอดคล้องกับแนวคิดของผมว่า คนเราจะเป็นมืออาชีพได้ ไม่ใช่เก่งในเรื่องเฉพาะทางเท่านั้น เช่น วิศวกร หรือหมอที่ดี ต้องบริหารเป็นโดยเฉพาะการบริหารค
9.ต้องเป็นบุคคลที่รับผิดชอบ คือ Accountability ไม่ว่าจะทำอะไรต้องตรวจสอบได้และโปร่งใส
ผมเชื่อว่าแนวคิดของ สี จิ้น ผิง เป็นมืออาชีพคล้ายกับ 9 ข้อที่ผมนำมาเสนอแล้ว แต่เนื่องจากประเทศจีนเป็นระบบสังคมนิยม ยังมีพรรคคอมมิวนิสต์เป็นหลัก เขาจึงเน้นการพัฒนาคน และพัฒนาประเทศ ใช้หลักการของพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ปรับให้ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เขาจึงต้องการมืออาชีพที่ลดความเหลื่อมล้ำในประเทศที่ไม่มีความโลภ อาจได้รับอิทธิพลมาจาก เติ้ง เสี่ยว ผิง ที่บอกว่าประเทศจีนคือ หนึ่งประเทศสองระบบ ทำให้ความเป็นมืออาชีพของเขาไม่กอบโกยเอาผลประโยชน์ส่วนตัวแบบทุนนิยมสามานย์ อย่างในอเมริกาที่มีความเก่งและความโลภ แต่เป็นมืออาชีพที่ใช้หลักการพรรคคอมมิวนิสต์คือแบ่งปันเพื่อความยั่งยืน
แนวคิดนี้อาจจะมีส่วนช่วยให้คนไทยคิดได้ว่า ถ้าเราเก่งหรือเป็นมืออาชีพ คงไม่ใช่คิดแค่ตัวเอง หรือครอบครัวแต่ทำเพื่อประเทศชาติอย่างยั่งยืน หลักการแบบนี้อาจช่วยเรื่องไทยนิยมของบิ๊กตู่ได้
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี