บ้านเมืองของเราในทุกวันนี้ มีปัญหาวิกฤติสารพัดเรื่อง เรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่เรื่องใหญ่กลับทำเป็นเรื่องเล็ก ไม่มีใครยอมพูด ยอมแตะต้อง หรือยอมแก้ปัญหาดังนั้นบรรยากาศของทั่วทั้งประเทศจึงเต็มไปด้วยความหม่นหมอง วุ่นวาย และเต็มไปด้วยการด่าทอกันโดยทั่วไป
ทำให้นึกถึงสุภาษิตที่ทรงเตือนไว้เมื่อร้อยกว่าปีก่อนว่า ชาติใดไร้ธรรมอำไพ ชาตินั้นบรรลัยแน่นอน และสภาพที่กำลังเกิดขึ้นก็คืออาการของความบรรลัยนั่นเอง
เดชะบุญของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถ และทรงธรรมอันประเสริฐ ดังนั้นในภาวะวิกฤตินี้และในโอกาสที่คณะตุลาการเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานกระแสพระราชดำรัสเกี่ยวกับกฎหมาย เกี่ยวกับการใช้กฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมาย
หลังจากนั้นสถาบันศาลก็ได้แถลงท่าทีน้อมรับกระแสพระราชดำรัส และจะประพฤติปฏิบัติเพื่อธำรงและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งความยุติธรรมในแผ่นดินให้สมดังที่ทรงพระเมตตาคุณพระราชทานพระราชดำรัสนี้
เป็นที่คาดหมายว่ากระบวนการยุติธรรมอื่น ไม่ว่าอัยการ ตำรวจ ดีเอสไอ และองค์กรอิสระทั้งหลาย แม้กระทั่งคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งล้วนเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายจะได้สนองพระราชดำรัสนั้นโดยทั่วกัน
ความจริงเนื้อความอันทรงมีพระราชดำรัสนั้นก็เคยมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯพระราชทานไว้แล้วในบทพระราชปรารภของรัฐธรรมนูญ 2560 สรุปใจความว่า ปัญหาวิกฤติของชาติบ้านเมืองเกิดจากการทุจริต ฉ้อฉล การบิดเบือนการใช้อำนาจ และการไม่นำพาในการบังคับใช้กฎหมาย
แต่ดูเหมือนว่าผู้มีอำนาจและกลไกทั้งหลายมิได้สำเหนียกและมิได้สำนึกในหน้าที่รับผิดชอบ และแก้ไขปัญหาตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญนั้นเลย มิหนำซ้ำ เครื่องมือสำคัญของรัฐบาลที่ได้จัดตั้งขึ้นในระยะเริ่มแรกคือศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชั่นแห่งชาติ ที่ประกอบด้วยหน่วยงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามทุจริตและคอร์รัปชั่น ไม่ประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่
เพราะเมื่อ ศอ.ตช. สอบสวนลงมติว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดกระทำความผิดแล้ว ไม่สามารถส่งไปดำเนินคดีได้ทันที ไม่สามารถดำเนินการพักราชการหรือให้ออกจากราชการ หรือยึดอายัดทรัพย์สินได้ในทันที แต่จะต้องส่งไปที่นายกรัฐมนตรีซึ่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีกลั่นกรองก่อน ผลปรากฏว่าเมื่อมีการส่งรายชื่อผู้ที่กล่าวหาว่าทุจริตจำนวนหนึ่ง กลับถูกโยกย้ายและตรวจสอบเพียงบางส่วน ส่วนที่เหลือเงียบหายไป ระลอกแล้วระลอกเล่าจนกระทั่งรัฐมนตรีที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงแข็งขันออกจากตำแหน่งนี้ไป จากนั้นทุกอย่างก็เงียบหงอยวังเวงในขณะที่บรรดาคนโกงบ้านกินเมืองต่างฮึกเหิมลำพอง
จากนั้นการทุจริตคอร์รัปชั่นก็ลุกลามไปทั่วทุกหย่อมหญ้าโกงได้โกงดี โกงทุกที่ โกงทุกเรื่อง ถูกจับได้ก็แค่ถูกย้าย ไม่มีการดำเนินคดีทั้งตามกฎหมายอาญา หรือกฎหมาย ป.ป.ช.
เมื่อขื่อแปบ้านเมืองทลายลงเช่นนี้ การทุจริตคอร์รัปชั่นก็ขยายวงยกระดับขึ้นสู่ระยะใหม่ นั่นคือระยะคือช่วยกันโกง รุมกันกิน แล้วเกิดเป็นขบวนการปกป้องคนโกงชนิดเย้ยฟ้าท้าดิน
นับเป็นสัญญาณร้ายของบ้านเมือง ดังที่ปรากฏความในบทพยากรณ์ในหนังสือมูลบทบรรพกิจว่า “ที่แพ้แก้เป็นชนะ ไม่ถือพระประเวณี ขี้ฉ้อก็ได้ดี ใครด่าตีมีอาญา”
ไม่เพียงแต่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับความเดือดร้อนทุกข์เข็ญจากการทุจริตคอร์รัปชั่น การบิดเบือนการใช้อำนาจ และการไม่นำพาต่อการบังคับใช้กฎหมาย แม้แต่ข้าราชการที่ตั้งใจสนองพระเดชพระคุณชาติบ้านเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริตก็ได้รับความเดือดร้อนตกกลายเป็นผู้ต้องหาและจำเลยไปด้วย
สภาพบ้านเมืองที่เป็นเช่นนี้เป็นผลโดยตรงที่เกิดขึ้นตรงกับความในพระราชปรารภในรัฐธรรมนูญ 2560ทุกประการ
สภาพเช่นนี้การเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้งไม่ใช่สาระของบ้านเมือง และไม่เป็นผลในการแก้ปัญหาของบ้านเมือง เพราะต่อให้มีการเลือกตั้งแต่ถ้ายังมีเหตุการณ์ดังที่เป็นอยู่นี้เกิดขึ้นต่อไปอีก การเลือกตั้งจะมีความหมายอะไรเล่า เลือกไปก็เสียเวลาเปล่า
หรือถ้าการเลือกตั้งได้พวกโกงบ้านกินเมืองที่มีระดับความหิวโซมากกว่าเข้ามามีอำนาจในบ้านเมืองอีก การเลือกตั้งก็คือการกระทำอนันตริยกรรมแก่ประเทศชาติและประชาชนนั่นเอง
ดังนั้นสถานการณ์ที่แท้จริงของบ้านเมืองจึงไม่ใช่ความต้องการเลือกตั้ง แต่ต้องการรัฏฐาธิปัตย์ที่ซื่อสัตย์และปรีชาสามารถ ทั้งมีความกล้าหาญและเสียสละ เพื่อกอบกู้ฟื้นฟูประเทศชาติให้ก้าวผ่านออกไปจากสภาพพังทลายของขื่อแปของบ้านเมืองโดยเร็วที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี