เป็นโรงพักเดียวในนครบาลที่นำเรื่อง ศาสตร์พระราชา ของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในโรงพักทั้งหมด5 ด้าน คือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สหกรณ์ ดนตรี กีฬา และจิตอาสา เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้คนในชุมชนอีกทั้งสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างตำรวจกับประชาชน
แนวคิดดังกล่าวเริ่มมาจาก พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว วัย 48 ปี ชาว จ.สระบุรี ที่ชื่นชอบงานชุมชนสัมพันธ์ จนเกิดภาพประชาชนสนิทสนมกับตำรวจ หลังจากได้ทำกิจกรรมร่วมกันหลังโรงพัก! พ.ต.อ.สิงห์จบ นรต.รุ่น 46 เมื่อปี 2536 เติบโตบนเส้นทางสีกากีในกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 บก.น. ที่ได้ชื่อว่ามีคดีมากที่สุด อาทิ สน.ดอนเมือง สน.สายไหม สน.บางเขน
แต่เป็นที่รู้จักในฉายา “สิงห์ กองปราบ” ในฐานะมือสอบสวน ปิดคดีสำคัญอย่างคดีจับกุมนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ เจ้าพ่อภาคตะวันออก คดีจับกุม พล.ท.มนัส เปาริก หรือ เสธ.หยอย อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 จากนั้นเป็น ผกก.(สอบสวน) สน.บางเขน ผกก.(สอบสวน) กองสืบนครบาล และได้มานั่ง ผกก.สน.คันนายาว ปี 2559 มีคดีจับกุม นายเสกสรร ศุขพิมาย หรือ “เสก โลโซ” นักร้องชื่อดัง
“เป็นความตั้งใจที่จะมาเพราะ สน.คันนายาว ในขณะนั้น มีสำนวนค้างมากที่สุดในนครบาล จำนวน 3 พันกว่าสำนวน มีความคิดว่าเราโตจากสายงานสอบสวนอยู่แล้ว เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ จึงขอผู้บังคับบัญชาเลือกที่จะมา ขณะนี้สำนวนที่ค้างก็ลดลงไปมาก”
ผกก.คันนายาว บอกด้วยว่า ช่วงแรกที่มารับตำแหน่ง มีอาชญากรรมเยอะมาก ได้ใช้มาตรการทางกฎหมาย ตรวจค้น ตรวจตรา ป้องกัน จับกุม 5 เดือนแรก ผลการจับกุมคดียาเสพติด สน.คันนายาว มากที่สุดในนครบาล เป็นอันดับ 1 จาก 88 สน. ก็ค้นพบว่าอาชญากรรม ส่วนใหญ่เกิดจากเด็กและเยาวชน และจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด พอจับคดียาเสพติดได้มากส่งผลให้อาชญากรรมอื่นลดลงตาม
ตรงนี้เรามองว่าการสืบสวนจับกุม เป็นการทำหน้าที่ให้สมบูรณ์เท่านั้น แต่แก่นแท้ที่สุดคือต้องป้องกันอาชญากรรมจึงนำโครงการบ้านสีขาว ประชาชนรัฐร่วมใจ ปลอดภัยยาเสพติด และหลักศาสตร์พระราชาของพระองค์ท่านมาปรับใช้ 5 ด้าน 1.ด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เรามีสวนเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชผักสวนครัว 2.ด้านสหกรณ์ อยู่ระหว่างดำเนินการ ร่วมกันจัดตั้งกับกลุ่มชาวบ้าน
3.ด้านดนตรี เตรียมจัดการแข่งขันชิงเงินรางวัล พร้อมเชิญศิลปินในพื้นที่มาเป็น ไอดอล ให้เยาวชน เช่น พลพล เล็ก คาราบาว และอีกหลายคน 4.ด้านกีฬา มีสนามฟุตบอลด้านหลังโรงพัก พร้อมจัดตั้งสโมสร TRUTH FC เปิดโอกาสให้เยาวชนเป็นสมาชิก และมีโค้ชมาให้ความรู้ทุกช่วงเย็น และ 5.ด้านจิตอาสา ให้ตำรวจและประชาชนทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้างประโยชน์ขึ้นภายในชุมชน
“เมื่อก่อนตำรวจกับประชาชนอยู่คนละฝั่ง คือไม่ค่อยมีความปฏิสัมพันธ์กัน เราก็เน้นกิจกรรมศาสตร์พระราชา 5 ด้าน และการเข้าถึงชุมชนด้วยโครงการ 1 ตำรวจ 1 ชุมชน ตอนนี้ทดลองไป 38 ชุมชน ใช้ตำรวจคนเดียวเหมือนเป็นพี่ น้อง เพื่อนในชุมชนนั้น ใครมีปัญหาอะไรก็ผ่านตำรวจชุมชนมา”
ผกก.เจ้าของฉายา สิงห์ กองปราบ กล่าวเรื่องการพัฒนางานโรงพักว่า เรามีห้องไกล่เกลี่ยในชั้นพนักงานสอบสวน สำหรับคดีเล็กๆ น้อยๆ เพื่อลดภาระไม่ต้องไปถึงศาล และพัฒนาฝ่ายสืบสวนด้วย นอกจากนี้ จะสร้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น คดียาเสพติดถ้าอยู่ที่ร้อยเวรทุกเรื่องจะช้า แต่หากมีแผนกทำคดียาเสพติด คนเดียวก็สามารถทำได้ รวมถึงให้มีแผนกทำคดีฉ้อโกง เหมือนยก บช.ก.มาไว้ใน สน.
ส่วนเรื่องที่เตือนลูกน้องเป็นพิเศษ คือห้ามไปแสวงหาผลประโยชน์ หากผิดพลาดมาไม่ใช่ว่า ผกก.จะช่วยได้ เพราะปัจจุบันมีองค์กรตรวจสอบ การทำงานตำรวจมากมายทั้ง ป.ป.ท., ป.ป.ช. รวมถึงสื่อมวลชน ฉะนั้นเมื่อลูกน้องทำผิดต้องถูกดำเนินคดี พร้อมเน้นเรื่องการทำงานให้ครบเครื่อง สำหรับตนตำรวจต้องทำงานได้ทุกด้าน สืบสวน สอบสวน ปราบปราม จราจร ธุรการ รวมถึงมวลชนสัมพันธ์
ถามว่าพอใจไหมกับผลงานปัจจุบัน เหมือนมาซ่อมแซมในสิ่งที่ปรักหักพัง ก็ทุกๆ ส่วน และสำนวนคดีที่คั่งค้าง อันไหนเร่งรัดได้เพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม ส่วนใหญ่คาดหวังว่าตำรวจต้องทำงานเร็ว จนกลายเป็นว่าสังคมไทยเดี๋ยวนี้ต้องมีการฝากตลอด แล้วเมื่อตนมาเป็น ผกก.ไม่ต้องการให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น
“อยากให้คนเดินเข้ามาโรงพัก ต้องได้รับความเป็นธรรม ไม่จำเป็นว่าต้องร่ำรวย หรือยากจน ต่อให้มีพรรคพวก หรือไม่มีก็ตาม สุดท้ายก่อนออกจากโรงพักผมมีป้ายเขียนไว้ว่า หากใครไม่ได้รับความเป็นธรรมพบ ผกก.ได้เลยทุกช่องทาง จะโทรศัพท์ ไลน์ เฟซบุ๊ค เพื่อเป็นทางออกให้กับประชาชน” ผกก.นักพัฒนา ฝากแง่คิดถึงพี่น้องประชาชน
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี