แม้จะยังแสดงท่าทีเหนียมแบ่งรับแบ่งสู้ที่จะรับเทียบเชิญจากพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งให้เป็นประธานที่ปรึกษาพรรคอันจะเป็นการปูทางไปสู่การนั่งเก้าอี้นายกฯคนในอย่างสง่างามหลังการเลือกตั้ง แต่นั้นเป็นเพียงลีลาและชั้นเชิงทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เพื่อรอจังหวะอันเหมาะสมเท่านั้น
แม้พรรคนอมินีที่จะเป็นพาหนะปูทางให้ “บิ๊กตู่” นั่งเก้าอี้นายกฯหลังการเลือกตั้งได้อย่างสง่างามมีหลายพรรคที่พร้อมจะส่งเทียบเชิญไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ ที่มี พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เป็นแกนนำ พรรคประชาชนปฏิรูป ที่มี นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) เป็นผู้ก่อตั้ง หรือพรรคมวลมหาประชาชนกปปส. ที่กำลังเตรียมยื่นจดทะเบียนพรรค โดยมี นายธานี เทือกสุบรรณ อดีตสส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ น้องชายกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผู้นำมวลมหาประชาชนกปปส. เป็นหัวเรือใหญ่
แต่ที่มีแนวโน้มเป็นไปได้มากที่สุดเห็นจะเป็น พรรคพลังประชารัฐ ของ พ.อ.สุชาติ ซึ่งเป็นอดีต สส. และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 กับ “บิ๊กตู่” โดย พรรคพลังประชารัฐ ช่างบังเอิญสอดคล้องกับนโยบายประชารัฐของรัฐบาลคสช. และที่สำคัญมีข่าวว่าดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังวางแผนปลุกปั้นก่อตั้งพรรคนอมินีพรรคนี้เพื่อปูทางให้ “บิ๊กตู่” ก้าวสู่เก้าอี้นายกฯหลังการเลือกตั้งอย่างปลอดโปร่งและสง่างาม ซึ่งหลังการเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการเชื่อว่าจะมีรัฐมนตรีในรัฐบาลบิ๊กตู่บางคนเป็นที่ปรึกษาโดยมี “บิ๊กตู่” เป็นประธานคณะที่ปรึกษาพรรค ซึ่งนั่นหมายความว่า “บิ๊กตู่” สังกัดพรรคการเมืองเข้าสู่เส้นทางตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มภาคภูมิ
ความจริงแม้หาก “บิ๊กตู่” ได้รับเลือกจากที่ประชุมรัฐสภาหลังการเลือกตั้งให้เป็นนายกฯคนนอกโดยไม่สังกัดพรรคก็ถือว่าชอบธรรมอยู่แล้วเพราะเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ผ่านการทำประชามติจากประชาชนทั้งประเทศเปิดช่องไว้
ยิ่งหาก “บิ๊กตู่” เป็นคนในของพรรคการเมืองแล้วได้รับเลือกเป็นนายกฯจากการเสนอชื่อของพรรคการเมือง ก็ยิ่งมีความชอบธรรมและสง่างามซึ่งพรรคฝ่ายตรงข้ามไม่อาจที่จะตั้งแง่หาเรื่องได้ว่าเป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการรัฐประหาร
ส่วนการที่นักเคลื่อนไหวขาประจำหน้าเดิมที่นำโดย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” และ นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มอยากเลือกตั้ง พยายามปลุกกระแสขับไล่คสช.ให้พ้นจากอำนาจก่อนการเลือกตั้งนั้นเป็นการส่อเจตนาตีรวนหาเรื่องป่วนเมือง เพราะรัฐธรรมนูญปัจจุบันมาตรา 265 บัญญัติไว้อย่างชัดเจนให้คสช.อยู่ทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ
ขบวนการป่วนเมืองซึ่งรู้กันอยู่ว่ามีพรรคเพื่อแม้วและพรรคไพร่หมื่นล้านของคนรุ่นใหม่ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นแกนนำคนสำคัญ คอยให้ท้าย นอกจากอ้างเหตุผลในการไล่คสช.และยังรุกคืบเรียกร้องให้ “บิ๊กตู่” ลงจากอำนาจเพื่อความเป็นกลางในการเลือกตั้ง ทั้งๆที่หลักปฏิบัติในการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมาแม้ในยุครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง นายกฯซึ่งมาจากนักการเมืองก็ยังอยู่ในตำแหน่งและออกหาเสียงช่วงเลือกตั้งด้วยซ้ำ ซึ่งก็เป็นเช่นนี้สำหรับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยทั่วโลก
ประเด็นสำคัญอยู่ที่การวางตัวของนายกฯช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซึ่งกฎหมายเพียงห้ามไม่ให้นายกฯและบรรดารัฐมนตรีใช้อำนาจรัฐในลักษณะที่เอื้อต่อการสร้างคะแนนเสียงให้พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล
ความจริงจะว่าไปแล้วที่ผ่านมาพรรคระบอบแม้วฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างเหิมเกริมชัดเจนโดยในยุครัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก ถึงขนาดประกาศช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า จังหวัดไหนที่ไม่เลือกผู้สมัครสส.พรรคระบอบแม้วก็จะจัดสรรงบประมาณให้น้อย ส่วนจังหวัดไหนเลือกผู้สมัครสส.พรรคระบอบแม้วก็จะได้รับการจัดสรรงบประมาณมากเป็นพิเศษซึ่งไม่ต่างอะไรกับการตกเขียวใช้อำนาจรัฐทุจริตซื้อเสียงทางอ้อมนั่นเอง
เช่นเดียวกันในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ก็ใช้งบประมาณ พาหนะของทางราชการหาเสียงในเวลาราชการอย่างไม่แคร์ข้อห้ามของกฎหมาย ยังไม่ต้องพูดถึงการที่พรรคระบอบแม้ว ซื้อสส. ซื้อเสียง ซื้ออำนาจรัฐ ซื้อประเทศซึ่งขัดกับหลักของระบอบประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง
ชาติบ้านเมืองขณะนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญเพื่อปฏิรูปประเทศให้เข้ารูปเข้ารอยอย่างยั่งยืนพ้นจากวงจรอุบาทว์ที่สร้างความบอบช้ำอย่างหนักให้ประเทศตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะฉะนั้น “บิ๊กตู่” จึงมีภารกิจที่รออยู่ ดังนั้นเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมเชื่อได้เลยว่า “บิ๊กตู่” จะเลิกเหนียมตอบรับเทียบเชิญสู่เส้นทางนายกฯคนในอย่างสง่างาม
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี