ใครก็ตามที่มีหน้าที่ในการบริหารบ้านเมือง ต้องเข้าใจให้ดีว่า ตนกำลังมีภาระรับผิดชอบสูงสุดในการที่จะเป็นผู้บริหารจัดการให้บ้านเมืองโดยรวมมีความสงบสุข ผู้คนมีความเป็นอยู่ดีขึ้น อะไรที่จะเป็นผลประโยชน์โดยรวมของประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมาก่อน อย่าได้ทำหรือบริหารจัดการกันตามชอบใจ หรือไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ชาติ
อย่างที่เห็นกันอยู่ในขณะนี้หลายอย่าง
เฉพาะอย่างยิ่งการเปิดโอกาสแก่คนต่างชาติ เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ต่างๆ ในบ้านเมืองของเรา ด้วยโครงการลงทุนในประเทศของเราในรูปแบบต่างๆในลักษณะล่อใจให้เข้ามาลงทุนในบ้านเรา โดยไม่คิดถึงผลประโยชน์โดยรวมของบ้านเมืองในอนาคตข้างหน้า
เฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่กำลังจัดการกันอยู่ในขณะนี้ ในภาคตะวันออกของเรา ที่เรียกว่าโครงการ อีอีซี ซึ่งเป็นโครงการที่ให้ต่างชาติมาลงทุนสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงเมืองหลักทั้งหมด และเชื่อมโยงสนามบินสุวรรณภูมิกับอู่ตะเภา โดยให้ต่างชาติเช่าที่ดินได้นานถึง 99 ปี เป็นต้น
มองเผินๆก็อาจดูว่าดีในการดึงดูดการลงทุน แต่มองให้ลึกลงไปแล้วจะพบว่า ประโยชน์ขั้นแรกจะตกอยู่กับบรรดาเจ้าของที่ดินใหญ่ๆในระดับเจ้าสัวที่เป็นนายทุนใหญ่ ซึ่งได้กว้านซื้อที่ดินไว้แล้วนับหมื่นๆไร่ และบรรดาเจ้าสัวดังกล่าวนี้ก็ล้วนเป็นคนหน้าเดิมที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับผู้มีอำนาจหลายคนของบ้านเมืองขณะนี้
เมื่อราคาที่ดินแพงขึ้น ชาวบ้านก็จะต้องเผชิญราคาที่อยู่อาศัยที่แพงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นเงาตามตัว
นอกจากนี้โครงการดังกล่าวนี้ยังโยนผลประโยชน์ให้กับบรรดาเจ้าสัวที่ว่านี้อีกหลายอย่าง ดังนี้
1.จะให้สิทธิในการเข้าร่วมกับรัฐบาลลงทุนสร้างและบริหารรถไฟความเร็วสูง เป็นเวลา 50 ปี
2.ให้สิทธิในการทำโครงการในที่ดินทำเลทองมักกะสันของการรถไฟ 150 ไร่ เป็นเวลา 50 ปี
3.ให้สิทธิทำโครงการในที่ดินรอบสถานีรถไฟที่พัทยา ศรีราชา ฉะเชิงเทรา และระยองเป็นเวลา 50 ปี
4.ให้สิทธิในการบริหารโครงการรถไฟแอร์พอร์ตลิ้งค์ เป็นเวลา 50 ปี
ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองที่เห็นดีเห็นชอบในเรื่องดังกล่าวนี้ อ้างว่าเป็นการแลกกับการที่เอกชนต้องลงทุนสร้างรถไฟความเร็วสูงที่คิดค่าโดยสารเพียง 330 บาท ต่อเที่ยว และเอกชนต้องจ่ายค่าเช่าที่ดิน 50 ไร่ดังกล่าวปีละ 1 พันล้านบาท รวมเป็น 5 หมื่นล้านบาท รวมทั้งค่าเช่าสำหรับที่ดินรอบสถานี และจะต้องจ่ายเงินชดเชยอีก 1 หมื่นล้านบาท เพื่อลดภาระหนี้ของการรถไฟด้วย
อย่างไรก็ดี โครงการนี้ไม่เป็นธรรมแก่ประเทศ เนื่องจากรัฐยังจะต้องร่วมลงทุน โดยจ่ายค่าเวนคืนที่ดิน 3.7 พันล้านบาท ลงทุนก่อสร้างงานโยธาอีก 1.2 แสนล้านบาท ในขณะที่เอกชนจะลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าเพียง 9 หมื่นล้านบาท สำหรับข้ออ้างว่าเอกชนจะต้องมีภาระจากการคิดค่าโดยสารต่ำนั้น ก็ไม่จริง เพราะในอนาคตถ้าหากปรากฏตัวเลขชัดเจนว่าขาดทุน ก็คาดได้ว่าจะยอมให้มีการขึ้นราคาได้
แต่ผลประโยชน์ที่สำคัญที่สุดคือที่ดิน 150 ไร่ในทำเลทองใจกลางกรุงเทพฯ ที่จ่ายผลตอบแทนแก่รัฐเพียงปีละ 1 พันล้านบาทตลอด 50 ปี โดยอ้างว่าเป็นจำนวนรวม 5 หมื่นล้านบาท แต่ในข้อเท็จจริงเมื่อคำนวณเป็นมูลค่าปัจจุบัน ค่าตอบแทนแก่รัฐคิดเป็นมูลค่าเพียงระหว่าง 1-2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น เมื่อบวกกับเงินชดเชยอีก 1 หมื่นล้านบาท รัฐจะได้ผลตอบแทนต่ำกว่ามูลค่าปัจจุบันของที่ดินดังกล่าว (6-9 หมื่นล้านบาท) อย่างมาก
ถ้าจะทำให้ประเทศได้รับผลประโยชน์สูงสุดจริงๆแล้ว ควรแยกโครงการพัฒนาที่ดิน 150 ไร่ออกต่างหากจากโครงการรถไฟความเร็วสูง แล้วแยกที่ดินดังกล่าวออกเป็นแปลงขนาดเล็กลง เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนรายย่อยจำนวนมากสามารถเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งวิธีนี้รัฐจะสามารถกันพื้นที่บางส่วนที่ชัดเจนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม หรือทำเป็นสวนสาธารณะได้อีกด้วย
นี่คือเรื่องของผลประโยชน์ชาติที่ควรจะมาก่อน
ยังมีเรื่องอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ชาติที่ขณะนี้ คนมีอำนาจในการบริหารบ้านเมืองควรจะได้พิจารณาดำเนินการให้ดีกว่าที่ทำกันอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัญหาโครงสร้างทางเศรษฐกิจของเรา ที่ยังไม่เอื้ออำนวยให้กระจายผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในแต่ละปีอย่างกว้างขวางเท่าที่ควร โดยผลประโยชน์จะตกอยู่กับคนในระดับสูงในสัดส่วนที่สูงกว่าระดับล่าง จึงทำให้ประเทศไทยมีปัญหาความเหลื่อมล้ำมากขึ้นเรื่อยๆในขณะนี้
อย่างเช่นเรื่องระบบภาษีอากร ที่เป็นฐานสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น หรือเรื่องของการเก็บภาษีที่ที่คิดจากฐานของทรัพย์สิน โดยเฉพาะภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในทุกระดับเป็นต้นที่ควรจะมีการปรับปรุงแก้ไข ให้เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำต่ำสูงในบ้านเมือง ซึ่งนับวันจะขยายตัวมากขึ้น
ใครก็ตามที่มีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง ถ้าใส่ใจและมีความจริงจังกับการปรับปรุงแก้ไขในเรื่องดังกล่าว หรือเรื่องอื่นๆที่ยังมีอยู่อีกหลายอย่างอันเป็นผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองดังกล่าว นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมในระยะยาวแล้ว ยังจะครองใจคนในบ้านเมืองต่อไปในวันข้างหน้าอย่างนานเท่านานอีกด้วย
ไม่ว่าจะได้อำนาจมาตามระบบการเมืองการปกครองหรือแม้กระทั่งได้อำนาจมาแบบนอกระบบอย่างเช่นในขณะนี้ ทำได้ทั้งนั้นถ้าตั้งใจจะทำจริงๆ
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี