“โบราณว่าเป็นใหญ่ต้องเป็นเยี่ยง ต้องฟังเสียงจิ้งจกตุ๊กแกบ้าง ที่ร้องท้วงร้องทักอยู่ริมทาง มิใช่ร้องท้องกางเพราะกินปูน
คนเสียเปรียบมากมายอยู่รายรอบ คนขายขอบคนขายขบคนลบศูนย์ คนที่ถูกกดขี่บริบูรณ์ คนที่ทูนอำนาจให้เจ้านาย
ก็แล้วมีใครบ้างอยู่ข้างเขา มีใครเล่าเข้าใจในความหมาย เห็นแต่ตีนเงื้อตบอยู่รอบกาย เขาไม่โตไม่ตายก็บุญแล้ว
อะไรทำให้คนที่ทนทาน ต้องลุกขึ้นยืนต้านเป็นทิวแถว ลำพังเสียงนกกาเสียงหมาแมว มีหรือที่จะชี้แนวกำหนดนำ
อะไรทำให้คนทนไม่ได้ เคยอยู่ใต้ไม่ยอมจะอยู่ต่ำ ต้องลุกขึ้นยืนหยัดชูหมัดกำ อะไรทำให้เป็นไปเช่นนี้
คนเป็นปากเป็นเสียงคนเถียงแทน อย่าลบหลู่ดูแคลนไม่ควรที่ ต้นเหตุอยู่ที่ใดดูให้ดี หนึ่งนิ้วชี้กี่นิ้วมา...ชี้หาตัว”
ประพันธ์โดย “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์”
บทกลอนนี้แต่งไว้นานแล้วในสมัยหนึ่งที่ผู้คนในบ้านเมืองออกมาขับไล่รัฐบาลของ “นักโทษหนีคุก” ที่ใช้อำนาจบริหารบ้านเมืองอย่างไม่ฟังเสียงใคร อยากทำอะไรก็ทำตามชอบใจ ใครจะพูดจะบอกอะไรไม่ฟัง แถมไล่บี้ไล่จับฟ้องคนนั้นฟ้องคนนี้มาโดยตลอดดังที่เห็นกันมาแล้ว
เป็นบทเรียนสำคัญของการบริหารที่ไม่ฟังเสียงผู้คน
โดยเฉพาะเสียงของประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตย
ทุกวันนี้เป็นอย่างไรในเรื่องนี้ก็เห็นๆกันอยู่ เข้าไปในวงการไหนมีแต่เสียงด่าเสียงว่า ในเรื่องการบริหารบ้านเมืองที่ไม่เข้าท่าเข้าทาง ผู้คนส่วนใหญ่ยังตกอยู่ในสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบากในการทำมาหากิน จะบ่นจะว่าก็ถูกห้ามอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นต้น
หรือจะทำอะไรก็ถูกจำกัดอิริยาบถที่เคยปฏิบัติ หรือรับฟังแต่เรื่องที่ขัดต่อความรู้สึก ค่านิยม หรือทัศนคติของตน เป็นต้น
ผู้คนในบ้านเมืองของเราขณะนี้ส่วนใหญ่กำลังอยู่กับความผิดหวังในสิ่งที่เคยคาดไว้ในระยะต้นๆของการเข้ามายึดอำนาจ ต้องจำเจอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยวาทะต่างๆของคนมีอำนาจ แม้กระทั่งกิริยาท่าทางและคำพูดคำจาที่ไม่เข้าท่าเข้าทาง
เหมือนคนเมาในอำนาจ มีกิริยาแทงตา มีวาจาแยงหู และมีนิสัยแสลงใจ ที่ผู้คนไม่อยากพบ อยากเห็น หรือได้ยินได้ฟัง นั่นเอง
เป็นเหตุแห่งความเสื่อมศรัทธาของผู้คนในบ้านเมืองและส่งผลกระทบไปถึงความวิกฤติเสื่อมโทรมของบ้านเมืองในมิติต่างๆตามมาแทบครบวงจร ทั้งทางด้านการเมืองการปกครอง ด้านเศรษฐกิจสังคม ด้านความสงบสุขที่ไม่มีความแตกแยกของผู้คนในชาติ ตลอดจนความอยู่เย็นเป็นสุขในชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่ในประเทศขณะนี้
สังคมเป็นผลผลิตจากการบริหารจัดการทางการเมืองการปกครองของผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ และในความเป็นจริงที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ สังคมได้ถูกกัดกร่อนให้เปราะบางหลายอย่าง ซึ่งกำลังนำไปสู่ความเปราะบางและความอ่อนแอของประเทศ
อนาคตข้างหน้าของประเทศจะอยู่ในภาวะอันตราย
ความอยู่ดีกินดีของประชาชนส่วนใหญ่คงไปไม่ถึง
เพราะประชาชนถูกกล่อมให้พึงพอใจอยู่กับเงินทองที่มาจากภาษีของประชาชนเอง โยนเข้าไปตามหมู่บ้านต่างๆในรูปแบบหรือชื่อเรียกอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่ผิดอะไรกับการใช้นโยบายประชานิยมสมัยหนึ่งที่ผ่านมา
บางครั้งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก็เป็นเรื่องดีในการนำเงินไปช่วยชาวบ้านในระยะเฉพาะหน้าที่มีปัญหา แต่ในระยะยาวแล้วต้องรู้จักคิดให้เป็นด้วย คือต้องคิดถึงการสร้างความมั่นคงแบบยั่งยืนในวิถีชีวิตของคนเหล่านี้ด้วย ว่าจะสามารถยืนต่อไปได้ด้วยตนเอง
โดยเฉพาะในเรื่อง “เศรษฐกิจแบบพอเพียง” ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้ ซึ่งสมควรนำมาใช้ในการแก้ปัญหาระยะยาว อันจะช่วยสร้างความเป็นตัวของตัวเองบนพื้นฐานของความสามารถพึ่งพาตนเองได้ในวันข้างหน้า
นอกจากเรื่องต่างๆดังที่กล่าวมาแล้ว ภาพสะท้อนของสังคมไทยขณะนี้ยังปรากฏออกมาให้เห็นในเรื่องความตกต่ำเสื่อมโทรมทางคุณธรรม ศีลธรรม ในระดับต่างๆ แม้กระทั่งในวงการของผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารปกครองประเทศแทบทุกระดับในขณะนี้ ที่ดูจะมีปัญหาและบกพร่องในเรื่องดังกล่าวมากขึ้น เฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการทุจริตคดโกง ฉ้อราษฎร์บังหลวงที่แตะลงไปที่วงการไหนก็พบแทบทุกวงการในขณะนี้
เสียงของคนหวังดีต่อบ้านเมืองจึงค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องต่างๆดังกล่าวนี้ ทั้งการผ่านสื่อประเภทต่างๆ หรือจากการพบปะ นัดหมายประชุมกันในที่ต่างๆ เพื่อแสดงออกถึงความรู้สึกห่วงใย ความรู้สึกไม่พอใจต่อคนมีอำนาจหน้าที่ที่รับผิดชอบในขณะนี้
วันนี้จึงขอเอาบทกลอนของ “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” มาลงนำของเรื่องนี้ เพราะประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอยเดิมอีก ที่ผู้คนจะออกมาเพราะทนไม่ได้
“อะไรทำให้คนทนไม่ได้ เคยอยู่ใต้ไม่ยอมอยู่ต่ำ ต้องลุกขึ้นยืนหยัดชูหมัดกำ อะไรทำให้เป็นไปเช่นนี้”
คำตอบอยู่ที่ “เหตุแห่งความเสื่อม” ที่พูดวันนี้
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี