นับวันจะร้อนแรงดุเดือดเข้มข้นมากขึ้นทุกขณะสำหรับพรรคอนาคตใหม่ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานบริษัทไทยซัมมิท กับ ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล นักวิชาการสายกลุ่มนิติเรดเป็นแกนนำโดยมีการเผยแพร่แนวคิดสุดขั้วแทบรายวันซึ่งสุ่มเสี่ยงจุดชนวนสุมไฟแตกแยก
ล่าสุด ดร.ปิยบุตร เสนอความเห็นผ่านทางเฟซบุ๊คให้แก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกมาตราต่างๆ อันเป็นอุปสรรคหรือขัดขวางการใช้เสรีภาพหรือกำหนดองค์ประกอบความผิดให้ชัดเจน หรือลดอัตราโทษหรือกำหนดให้เหลือเพียงโทษปรับ กฎหมายเหล่านี้ได้แก่ กฎหมายกำหนดความผิดฐานหมิ่นประมาททั้งระบบ กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายการชุมนุมสาธารณะ กฎหมายความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือดูหมิ่นศาล เป็นต้น
นอกจากนี้ให้แก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงทั้งระบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล อาทิ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ.2550
รวมทั้งตรากฎหมายและแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับข้อตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนทั้งหมด และบัญญัติให้ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนลงวันที่ 10 ธ.ค. 1948 ขององค์การสหประชาชาติมีผลโดยตรงในระบบกฎหมายภายในโดยมีสถานะเป็นรัฐธรรมนูญ
แนวคิดข้อเสนอของ ดร.ปิยบุตร ที่จะแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้เสรีภาพแม้จะไม่บอกออกมาตรงๆ แต่คงพอคาดเดาได้ว่าคงจะรวมถึงการยกเลิกมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยโทษฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งทั้ง ดร.ปิยบุตร และ นายธนาธร รวมทั้งนักวิชาการสายนิติเรดฝังใจมานานแล้ว
แนวความคิดที่ชักจะไปกันใหญ่คือ ให้เลิกความผิดฐานละเมิดหรือดูหมิ่นศาล รวมทั้งแนวคิดให้เลิกกฎหมายความผิดเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ซึ่งอันตรายมากเพราะทุกวันนี้มีการแพร่ภาพข้อมูลสกปรกบิดเบือนเต็มไปหมดทางโซเชียลมีเดีย หากไม่มีกฎหมายปรามจะทำให้สังคมปั่นป่วนวุ่นวายกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน แต่ที่ส่อเป็นการขายชาติชักศึกเข้าบ้านคือการเสนอให้กฎขององค์การสหประชาชาติอยู่เหนืออธิปไตยของชาติไทยโดยให้กฎมีฐานะเทียบเท่ารัฐธรรมนูญ
ดร.ปิยบุตร ยังเสนอแก้รัฐธรรมนูญปัจจุบันเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนลงประชามติว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับแทนรัฐธรรมนูญปัจจุบัน
หรือไม่ ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญปัจจุบันผ่านการทำประชามติจากคนทั้งประเทศมาแล้ว และยังเสนอให้ยกเลิกมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญที่รับรองให้ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คำสั่งคสช.คำสั่งหัวหน้าคสช.และการกระทำที่เกี่ยวเนื่องชอบด้วยกฎหมายและให้ทบทวนแก้ไขยกเลิกประกาศและคำสั่งของคสช.ทั้งหมด และเพิ่มเติมบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญกำหนดให้ปวงชนชาวไทยมีสิทธิและหน้าที่ในการต่อต้านโดยวิธีการใดๆ ต่อการรัฐประหารหรือการแย่งชิงอำนาจสูงสุดของประเทศ รวมทั้งกำหนดให้การรัฐประหารหรือการแย่งชิงอำนาจสูงสุดของประชาชนเป็นความผิดทางอาญา ภายหลังการรื้อฟื้นอำนาจที่ชอบธรรมของประชาชนกลับมาได้ให้ดำเนินคดีต่อบุคคลที่แย่งชิงอำนาจสูงสุดของประเทศ โดยให้อายุความเริ่มนับตั้งแต่มีการรื้อฟื้นอำนาจชอบธรรมนั้น นอกจากนี้ยังให้ยกเลิกทบทวนกฎหมายทั้งหมดที่ออกโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งนี่เท่ากับเป็นการเปิดศึกเผชิญหน้ากับสถาบันทหารโดยตรงและเปิดทางให้ระบบธุรกิจการเมืองเผด็จการรัฐสภาในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมกลับมายึดครองประเทศอย่างถาวร
จากแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่โดย ดร.ปิยบุตร โดนใจและได้รับการขานรับอย่างเต็มที่จาก นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำคนเสื้อแดง ที่กล่าวว่าแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่ไม่ต่างจากกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งความจริงก็คงเป็นเช่นนั้นเพราะทั้ง นายธนาธร และ ดร.ปิยบุตร ถูกตั้งข้อสังเกตว่าสนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงและระบอบแม้วมานานแล้วจนแทบจะเป็นขบวนการเนื้อเดียวกันโดยเฉพาะแนวคิดที่เชิงลบต่อสถาบันเบื้องสูง
เพราะฉะนั้นจากแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่สะท้อน โดย ดร.ปิยบุตร จึงเป็นสัญญาณอันตรายเพราะแค่เริ่มต้นของการก่อตั้งพรรคก็เริ่มออกลายด้วยแนวคิดแบบสุดขั้วซึ่งหากเข้าไปมีบทบาทในสภาหรือมีอำนาจเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่บ้านเมืองไม่แคล้วแตกแยกลุกเป็นไฟ
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี