ค้านเอกชนฮุบรถไฟฟ้าเชื่อม3สนามบิน
เรียน ผู้ทรงคุณวุฒิและสื่อมวลชน
เรื่อง ขอให้นายกรัฐมนตรีทบทวนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
ตามที่ประชาคมคัดค้านการเช่าที่ดินรถไฟมักกะสัน ได้คัดค้านการให้เช่าที่ดินโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของการรถไฟฯเป็นหลัก เสมือนเป็นการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สมบัติของชาติ ให้เป็นกรรมสิทธิ์นายทุน โดยเริ่มภารกิจตั้งแต่ปี 2559 ค้านการส่งมอบที่ดินให้กรมธนารักษ์ จนรัฐบาลให้การรถไฟฯทำเอง แต่ต่อมาก็จะเอาที่ดินรถไฟย่านมักกะสัน อยู่ในแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) โดยมีโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ให้การรถไฟฯ ดำเนินการ ซึ่งมีรายละเอียดโครงการเพื่อหาผู้ร่วมทุนการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน(Public Private Partnership:PPP) (ผู้ที่รับสัมปทาน 50 ปี) จากข้อมูลการให้ข่าวต่อสื่อฯของการรถไฟฯพอสรุปได้ดังนี้
1.ทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา ระยะทาง 226 กม. ประกอบด้วย 9 สถานี ดอนเมือง,บางซื่อ,
มักกะสัน,สุวรรณภูมิ,ฉะเชิงเทรา,ชลบุรี,ศรีราชา,พัทยาและอู่ตะเภา
2.รัฐบาลสนับสนุนเงินลงทุนด้านโยธา 1.2 แสนล้านบาท ค่าเวนคืนที่ดิน 3,787 ล้านบาท
3.ผู้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ลงทุนได้สิทธิพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์ 2 แปลง มักกะสัน 140 ไร่ ศรีราชา 30 ไร่ และยังมีพื้นที่แปลงอื่นๆ ที่ต่อเนื่องสถานี
4.ผู้ได้รับการคัดเลือกและรับสิทธิ์พัฒนาพื้นที่รอบสถานี 9 สถานี ดอนเมือง,บางซื่อ,มักกะสัน,สุวรรณภูมิ,ฉะเชิงเทรา,ชลบุรี,ศรีราชา,พัทยาและอู่ตะเภา
5.ผู้ได้รับการคัดเลือกได้สิทธิ์การเดินรถและพัฒนาพื้นที่ 8 สถานีที่เป็นสถานีจอดรถเดิมของแอร์พอร์ตลิ้งค์ พญาไท,ราชปรารภ,มักกะสัน,คลองตัน,หัวหมาก,บ้านทับช้าง,ลาดกระบัง,สุวรรณภูมิ
6.ผู้ได้รับการคัดเลือกได้สิทธิ์การบริหารและเดินรถไฟความเร็วสูงสถานีดอนเมืองถึงอู่ตะเภา
7.ผู้ได้รับคัดเลือกได้สิทธิการบริหารและเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ ขนส่งผู้โดยสารเชื่อมระหว่างสถานี(City LINE)พญาไทถึงสุวรรณภูมิ
8.ผู้ได้รับการคัดเลือกยังได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีอีกหลายรายการ
จากโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน นายทุนได้สิทธิ์นำพื้นที่ไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ถึง 2 แปลงคือ ที่ดินมักกะสัน 140 ไร่ และศรีราชา 30 ไร่ เฉพาะที่ดินมักกะสันมูลค่าประมาณ 9 หมื่นล้านบาทแต่การรถไฟได้ประมาณ 1 หมื่นล้าน มิได้ดูว่าการรถไฟฯได้น้อยหรือมาก แต่การนำที่ดินใช้ปฏิบัติงาน 140 ไร่(โรงซ่อม ย่านสับเปลี่ยน ย่านเก็บรถรอซ่อม) จะมีผลกระทบต่อระบบซ่อมบำรุง นอกจาก 2 แปลงนี้ ยังได้สิทธิ์ในที่ดินรอบสถานีและบริหารหาผลประโยชน์อีก 15 สถานี ผลประโยชน์มหาศาลไม่ต้องเดินรถก็กำไร โดยเฉพาะเรื่องที่ดิน รัฐบาลให้การรถไฟฯจัดตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สินทำไม ไม่ให้การรถไฟฯทำเอง ในเมื่อที่ดินเหล่านี้มีศักยภาพดี ทำเลทอง เหมาะสมต่อการลงทุน เป็นการตัดโอกาสการทำรายได้ของการรถไฟฯ
การที่รัฐสนับสนุนงานด้านโยธาไม่เกิน 1.2 แสนล้านบาท เท่าที่ตรวจสอบที่ดินการรถไฟตลอดเส้นทาง จากดอนเมืองถึงอู่ตะเภา 226 ไร่ คิดเป็นพื้นที่จำนวนมาก มิได้คิดมูลค่าเป็นจำนวนเงินลงทุน ซึ่งโครงการนี้มิใช่เป็นของการรถไฟฯทั้งหมดแต่มีผู้ร่วมทุน จึงต้องคิดทุกองค์ประกอบเป็นต้นทุนถ้าคิดเป็นสัดส่วนเงินร่วมลงทุนด้านโยธา เอกชนผู้ร่วมทุนจะลงทุนน้อยมาก
การเดินรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ทำไมต้องลงทุนใหม่ทั้งหมด ในเมื่อการรถไฟฯมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงจากสถานีรังสิตถึงหัวหมาก เป็นเส้นทางเดียวกันตั้งแต่ดอนเมืองถึงหัวหมาก เพียงแต่ปรับโครงสร้าง ปรับระบบให้ใช้ร่วมกันได้ จะประหยัดค่าใช้จ่ายหลายหมื่นล้านบาทเพราะรางของแอร์พอร์ตเรลล้ิงค์เป็น Standard เกรด กว้าง 1.435 เมตร แต่รถไฟฟ้าสายสีแดงเป็นเมตรเตอร์เกรดกว้าง 1 เมตร สามารถปรับสายสีแดงเป็น Standard เกรดได้ทั้งระบบ(รังสิต-หัวหมาก และรังสิต-ตลิ่งชัน) เพื่อรองรับรถไฟความเร็วปานกลางในอนาคตหรือวางเป็น 3 ราง ซึ่งสามารถปรับระบบใช้ทางร่วมกันได้
การเดินรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน ทำไมไม่ให้แอร์พอร์ตลิ้งค์ทำ ในเมื่อมีเส้นทางอยู่แล้วและการรถไฟฯลงทุนไปกว่า 3.5 หมื่นล้าน เพียงให้ต่อขยายเส้นทางออกไป ระบบความกว้างของรางก็สามารถรองรับรถไฟความเร็วปานกลางได้ ซึ่งที่ผ่านมา Airport rail Link ผ่านการศึกษาออกแบบและทดสอบ สามารถทำความเร็วได้ไม่น้อยกว่า 160 กม.ต่อชั่วโมง ระยะทาง 226 กม.จะใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 1.5 ชั่วโมง และผลประโยชน์ที่เกิดกับการรถไฟฯก็คือผลประโยชน์ของชาติ ทำไมจึงใช้ระบบผู้ร่วมทุน PPP ให้เอกชนมาบริหารหาผลประโยชน์ ซึ่ง PPP จากผลการศึกษาทางวิชาการและข้อมูลจากสหพันธ์แรงงานการขนส่งระหว่างประเทศ (International Transport Workers Federation ITF) ประเทศที่ใช้ PPP ประสบปัญหาและล้มเหลวในที่สุดรัฐต้องรับภาระแทนเอกชนเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ยกเว้นญี่ปุ่นที่ประสบผลสำเร็จ
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าผู้ได้รับคัดเลือกเป็นผู้ร่วมทุนได้สิทธิพิเศษมากมาย แต่การรถไฟฯ เจ้าของโครงการได้ผลตอบแทนน้อยมากและอาจเป็นผู้รับภาระเงินกู้และดอกเบี้ยมาลงทุน เท่ากับผลประโยชน์ที่ควรเป็นของประเทศชาติต้องแบ่งให้เอกชน ทั้งที่ลงทุนน้อยแถมยังได้สิทธิ์พิเศษนำที่ดินทำเลทองไปพัฒนาเชิงพาณิชย์เป็นรายได้แยกต่างหากจากรายได้การเดินรถ และยังได้สิทธิ์บริหารและบริการเดินรถทั้งรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินและรถไฟฟ้า Airport rail Link พนักงานรถไฟมิได้ขัดขวางการพัฒนาและพร้อมสนับสนุนถ้าโครงการเหล่านั้น ผลประโยชน์เป็นของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
จึงเรียนมาเพื่อทราบเหตุที่พนักงานรถไฟขอให้ทบทวนโครงการ
นายอินทร์ แย้มบริบูรณ์
ประธานประชาคมคัดค้านการให้เช่าที่ดินรถไฟมักกะสัน
ตอบ คุณอินทร์ แย้มบริบูรณ์
รถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินมีข้อน่าแคลงใจมากมายเช่นเดียวกับ EEC เองที่ดูเหมือนนายทุนเอกชนฮุบผลประโยชน์มากมาย แต่ประเทศชาติไม่รู้ได้อะไรแค่ไหน ดังนั้นต้องกระทุ้งรัฐกันให้หนัก
วิภาวดี หลักสี่
เรียน คุณวิภาวดี หลักสี่ ที่นับถือ
ฟ้าผ่า กกต.เมื่อแป๊ะเล็กชักดาบเอกซ์คาลิเบอร์ฟัน กกต.สมชัย ให้เหตุผลว่าทำตัวไม่เหมาะสมสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง แต่ชราชนคนนี้คิดว่า พรรคการเมืองไพร่และพรรคคอมมิวหน่อยน่าจะถูกฟันมากกว่า เพราะปรัชญาทั้งสองพรรคนั้น หมิ่นเหม่ต่อความมั่นคงราชอาณาจักรไทยอย่างยิ่งการขอจดทะเบียนทั้งสองพรรคถือว่า“ท้าทายอำนาจสามป๋า” ดังนั้นไม่ทราบการปลด กกต.สมชัย จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ อย่างไร
อย่างไรก็ตาม วิธี“เชือดคอไก่ให้ลิงดู”ไม่ยุติธรรม ไม่ถูกต้อง เพราะถ้าลิงทำผิด ก็ต้องลงโทษลิงมิใช่จับไก่มาลงโทษให้ลิงกลัว โดยเฉพาะลิงการเมืองสามานย์ซึ่งไม่เดือดร้อนเมื่อเห็นไก่ถูกเชือดแน่ แม้แต่เห็นลิงตัวอื่นถูกเชือด ก็ไม่รู้สึกรู้สม เพราะเชื่อแบบโชเฟอร์สิบล้อที่เห็นคันหน้าคว่ำอยู่ข้างหน้าแต่ก็ไม่ลดความเร็ว เพราะเชื่อมั่นตนมีฝีมือดีกว่าคันที่คว่ำ ถึงแม้มีการลงโทษนักการเมืองและข้าราชการที่ทุจริตมาแล้วมากมาย แต่คอร์รัปชั่นก็ยังคงอยู่คู่ฟ้าการเมืองไทย เพราะข้าราชการและนักการเมืองคนอื่นๆ คิดเหมือนโชเฟอร์สิบล้อคันหลังทั้งสิ้น
เชือดไก่ให้ลิงดูก็ไม่แตกต่างกับ“ลับ ลวง พราง”เพราะมิได้แก้ปัญหาตรงประเด็น แต่ทำแบบ“ลับลมคนใน” ซึ่งดูจะเป็นยุทธศาสตร์ประจำของสามป๋า ตั้งแต่โจทย์ผิด จนถึงรัฐธรรมนูญผิด แม้แต่ “สเปกเทพ”ซึ่งก็ไม่เทพจริง อ้างอิงจาก“ว่าที่กกต.”ถูกสนช.เชือดหมด สนช.ก็เทพปลอม เพราะเอาแต่เงินเดือนและเบี้ยประชุมแต่ไม่เคยเข้าประชุม ไม่มั่นคง ไม่ตรงไปตรงมา ทำให้โรดแมปวกวนเหมือนรัฐธรรมนูญและการตัดสินเรื่องต่างๆ ของสภาฯที่ดูไร้หลักการมีแต่“หลักกู” ทุกองค์กรที่สามป๋าแต่งตั้งเหมือนกันหมด ทั้งป.ป.ช.ทั้ง สนช.ก็วินิจฉัยไร้หลักการ
สุภาษิตอังกฤษว่า เริ่มต้นดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ดูเหมือนจะถูกต้อง เพราะเมื่อสามป๋าเริ่มต้นแบบ“กวาดขยะเข้าบ้าน”ทำให้ขยะเต็มพรม มิได้จัดการต้นตอปัญหาแท้จริง เพราะตั้งใจตั้งโจทย์ให้ผิดพลาด วันนี้ทุกอย่างจึงไม่รู้อะไรถูกอะไรผิด บรรยากาศการเมืองที่เลวร้ายเพราะพรรคที่ตั้งใหม่แสดงเจตนารมณ์ต้องการล้มล้างราชอาณาจักรไทยเช่นพรรคไพร่ฯและพรรคคอมมิวหน่อย อนาคตไทยจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับสามป๋าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะปัญหามากมายเป็นผลพวงจากโจทย์ผิดทั้งสิ้น ทั้งพรรคไพร่ฯก็เป็นผลพวงจากการที่ระบอบทรราชมิได้ถูกถอนรากถอนโคน แค่ถูกลิดกิ่งก้านเล็กๆ เท่านั้น วันนี้ดอกทรราชจึงบานสะพรั่ง รอวันที่จะเติบใหญ่เป็นผลทรราช ซึ่งถ้าปล่อยให้ผลทรราชสุกงอม ราชอาณาจักรไทยก็มีปัญหาใหญ่แน่
จาก ๒๒ พ.ค.๕๗ ถึงวันนี้ ประเทศไทยยังไม่มีอะไรดีขึ้นเพราะไร้การปฏิรูป ที่สามป๋าเห็นความสำคัญไม่เท่ากับการปรองดอง การเมืองไทยในอนาคตจึงเป็น“ข้าวผสมขี้” ทั้งโรดแมปและรัฐธรรมนูญก็วกวน ไม่ตรงไปตรงมา ดูเหมือนเพื่อสืบทอดอำนาจมากกว่า“รีเซต”การเมือง
โกโบราณ
ตอบ คุณโกโบราณ
การใช้ม.44 เชือดกกต.สมชัย แม้บางคนอาจสะใจ แต่คนส่วนใหญ่ก็เห็นว่า เป็นการใช้อาญาสิทธิที่ควรมีไว้จัดการเรื่องใหญ่ๆ แต่กลับเอามาทำแบบนี้ ยิ่งตอกย้ำความไม่เข้าท่าจริงๆ
วิภาวดี หลักสี่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี