“ชคัทธาดา เมนะสูต”ผู้สื่อข่าวอาวุโส นสพ.แนวหน้า ไปร่วมฟังการเสวนาเวทีสาธารณะเรื่อง “คอคอดกระ@คลองไทยใครได้ใครเสีย”ที่ มหาวิทยาลัยรังสิต ปทุมธานี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เล่าบรรยากาศการเสวนาน่าสนใจ
โดยเฉพาะเจ้าภาพดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดี ม.รังสิต ใจถึงพึ่งได้เหมือนเดิม เปิดห้องประชุมใหญ่ให้นักวิชาการนักศึกษาได้เรียนรู้ วิพากษ์วิจารณ์เรื่องคลองไทย ทั้งถ่ายทอดสดผ่านวิทยุโทรทัศน์ ม.รังสิตด้วย
ในขณะที่ พลเอกพงษ์เทพเทศประทีป นายกสมาคมคลองไทยเพื่อการศึกษาและพัฒนา ขึ้นเวทีชี้ให้เห็นถึงผลประโยชน์ในการขุดคลองไทย และความเป็นที่จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองไทยเส้นทาง 9 เอ ระยะทาง 135 กิโลเมตรจากจังหวัดกระบี่และตรังผ่านจังหวัดนครศรีธรรมราชผ่านทะเลสาบสงขลาและพัทลุงไปที่อำเภอระโนดจังหวัดสงขลา
การประชุมทางวิชาการหนนี้มีนักวิชาการร่วมมากมาย อาทิ ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์, ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์, ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์,นายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้องและพลเรือเอกจุมพล ลุมพิกานนท์ โดยมี2 นักสื่อสารมวลชนอาวุโส คือ นายสุทธิชัยหยุ่น และนายสุภาพ คลี่ขจาย ผู้มีถิ่นฐานบ้านเกิดที่ปักษ์ใต้เป็นผู้ดำเนินการเสวนา
งานนี้ถือว่าไม่ธรรมดา
ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เล่าถึงที่มาที่ไปของคลองไทยว่า ราชอาณาจักรไทยและคลองไทยนั้นมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ที่มาของคลองไทยและคอคอดกระ แผ่นดินไทยหรือสุวรรณภูมินั้นก่อนที่จะมีราชอาณาจักรไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์นั้น แผ่นดินไทยนั้นเป็นประเทศดั้งเดิมมีหัวใจทางภูมิรัฐประศาสนศาสตร์ที่เก่าแก่เป็นแผ่นดินที่ตั้งกึ่งกลางของคาบสมุทรเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ตั้งระหว่าง 2 ประเทศใหญ่คือ จีน กับอินเดีย ประเทศอินเดียนั้นมีอิทธิพลมานานก่อนมีประเทศไทยเสียอีก ชาวอินเดียได้เดินทางเรือมาขึ้นที่คาบสมุทรคือที่กันตัง ที่มะริด ทวาย ตะนาวศรี และที่กระบี่ ตะกั่วป่าขึ้นบกประมาณ 15 วันแล้วออกมาขึ้นเรือฝั่งอ่าวไทยทั้งที่ชุมพร บ้านดอน สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราชที่ปากพนังและที่สงขลา
หลังจากนั้นก็เดินทางเรือไปทางเวียดนาม จีน เกาหลีและญี่ปุ่น มีการค้าขายติดต่อกันช้านานจนยุคตั้งกรุงศรีอยุธยา ราชอาณาจักรไทยได้ควบคุมทะเลและเมืองท่าค้าขายมีมาก่อนจะคิดขุดคลองไทยเสียอีกการมีคลองไทยเชื่อมจึงมีความสำคัญมาก
ส่วน ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ กล่าวว่า กล่าวว่ารัฐบาลไทย ควรให้ความสำคัญกับโครงการนี้ต้องตั้งคณะกรรมการตั้งโครงการ อย่างเป็นรูปธรรม และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ต้องห่วงถึงเรื่องเงินลงทุน ประมาณ 2 ล้านล้านบาท เพราะมีหลายประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้เขาสนใจอยู่แล้วเรื่องเงินทุนรัฐบาลไทยไม่ต้องใช้งบประมาณมากมายเลยเพราะนานาชาติสนับสนุน
ทางด้านพลเรือเอกจุมพล ลุมพิกานนท์ ให้ทัศนะเรื่องความมั่นคงว่าคลองไทยนั้นหากเกิดขึ้นก็ต้องประเมินทางยุทธศาสตร์ของประเทศว่ามีลักษณะเหมือนคลองปานามา คลองสุเอซและคลองคีล จะพบว่าที่ทวีปอเมริกาเหนือใต้นั้นมีการขุดคลองที่นิการากัวอยู่
สำหรับคลองไทยขุดขึ้นมาแล้วทางการทหารกองทัพเรือและกองทัพอากาศของไทยก็ต้องจัดกองบัญชาการทหารขึ้นมาควบคุมสมัยนี้อาจจะไม่กระทบเรื่องการแบ่งแยกดินแดนแล้วเพราะสามารถสร้างสะพาน ทางยกระดับ ท่าอากาศยาน ท่าเรือเกาะเทียมขึ้นมาเป็นฐานทัพป้องกันคลองไทยได้อยู่แล้ว
ส่วนดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้กล่าวถึงสภาพแวดล้อมในบริเวณ 2 ฝั่งทะเลทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทยว่าผลกระทบกระเทือนต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้นย่อมมีเกิดขึ้นมาอย่างแน่นอนเพราะเป็นโครงการใหญ่มากจริงๆ
ครับนี่คือเรื่องราวการเสวนา ขุดคลองไทย ที่ม.รังสิต มาเล่าสู่กันฟัง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี