เป็นหน่วยงานที่คลี่คลายคดีให้กับ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) หากมองว่าคดีไหนที่เกิดใน 9 จังหวัดของภาค 1 ยากเกินไปสำหรับตำรวจท้องที่ ก็ถึงเวลาที่จะเป็นหน้าที่ของ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมบูรณาการ สืบสวนสอบสวนคดีสำคัญ โดยมี 3จังหวัด ที่ลอกคราบอาชญากรรมมาจาก กทม. คือ นนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี
ทว่าเป็นการทำงานในภูธรภาค 1 ครั้งแรกสำหรับ พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 (ผบก.สส.ภ.1) หรือ ผู้การธี นายพลวัย 57 ปี ชาวเมืองดอกบัวงาม จ.อุบลราชธานี เพราะเมื่อจบ นรต.รุ่น 37 หลักๆ ก็สวมคราบ นักสืบ พิทักษ์รับใช้ประชาชน ในพื้นที่ภูธรภาค 2 มาตลอด โดยเฉพาะ จ.ชลบุรี เรียกว่าเป็น ลูกหม้อเมืองชล ขนานแท้ดั่งเดิม
พล.ต.ต.สุภธีร์ กล่าวว่า บก.สส.ภ.1 เป็นหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพ โชคดีได้ผู้บัญชาการเป็นนักสืบ ระดับประเทศอย่าง พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 มาเป็นอาจารย์คอยชี้แนะ บางครั้งท่านลงมาร่วมปฏิบัติเอง ทำให้เราเกิดความมั่นใจ ท่านเน้นว่าจับแล้ว ต้องลงโทษผู้ที่ก่อเหตุได้ด้วย ไม่ใช่หวังผลแค่จับอย่างเดียว
“การทำงานของสืบภาค 1 จะเป็นกองกำลังสนับสนุนให้กับ สืบ สภ. และสืบ จว. แต่ไม่ใช่ว่าจะไปทุกเรื่อง คดีไหนเกินกำลังของตำรวจท้องที่ เช่น เรื่องเทคโนโลยีต่างๆ หรือกำลังปฏิบัติที่ใช้กำลัง ถึงจะเอากำลังของเราไปร่วม หรือคดีไหนที่ผู้บังคับบัญชา มองว่ามีความซับซ้อน หรือมีผู้มีอิทธิพล ซึ่งหน่วยเรามีชุด ปราบไพรีอริศัตรูพ่าย ถือเป็นเขี้ยวเล็บของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกด้วย”
แม่ทัพสืบภาค 1 บอกว่าขวัญกำลังใจ เป็นอำนาจการรบที่ไม่มีตัวตน แต่ทรงอานุภาพยิ่งกว่าอาวุธใดๆ เพราะถ้าลูกน้องมีขวัญกำลังใจดี เขาก็พร้อมปฏิบัติงาน อย่างเต็มความสามารถ และมีประสิทธิภาพ นี้คือสิ่งที่ตนมอบให้ ตั้งแต่รับตำแหน่งปี 2560 เมื่อลูกน้องทำดีควรยกย่อง ชมเชย ให้ทุนในการปฏิบัติงาน เพื่อให้เขามีความสุขโดยไม่ต้องกังวลเรื่องใดๆ
จึงมี ไอยรา อวอร์ด เป็นรางวัลที่ตนตั้งขึ้นมา เพื่อเชิดชูเกียรติสำหรับตำรวจ ที่มีผลงานดีเด่นเชิงประจักษ์ เป็นที่ยอมรับของทุกคน ไม่ใช่ได้มาด้วยเส้นสาย โดยเราจะมอบโล่รางวัล ใบประกาศเชิดชูเกียรติ เงินรางวัลพร้อม 2 ขั้นที่เขาต้องได้ จะจัดขึ้นในการประชุมใหญ่ทุก 1 ปี นอกจากนี้ ความรู้ ความเชี่ยวชาญทุกคนต้องมี เราก็เน้นการฝึกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพ
ที่ผ่านมา ตนเคยร่วมคลี่คลาย คดีสำคัญกับทีมงานระดับ ตร. สมัยอยู่ จ.ชลบุรี ไม่ว่าจะเป็นคดีฆ่า 2 แหม่มสาวชาวรัสเซีย ที่เมืองพัทยา ปี 2550 ซึ่ง ผบ.ตร.ขีดเส้นตายว่าต้องจับคนร้ายภายใน 7 วัน, คดีฆ่าปาดคอ 2 เด็กพี่น้องกตัญญู อ.เกาะจันทร์ ปี 2553 และร่วมปราบปรามมือปืน ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
“การได้ร่วมงานกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีต รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา อดีต รอง ผบ.ตร. ได้เห็นวิธีการทำงาน ของนักสืบมืออาชีพ ว่าทำกันอย่างไร สิ่งเหล่านี้ทำให้เราภาคภูมิใจ และได้ประสบการณ์”
นามเรียกขานไอยรา 1 บอกด้วยว่า ที่ บก.สส.ภ.1ตนกำชับให้แต่ละชุดทำงาน มีความสามัคคี และความพร่องตัวในการทำงาน พอเรียกกำลังแล้วต้องไปทันที ไม่ใช่ว่า 2 วันจะรวมกันได้ รวมถึงประสิทธิภาพ ความอึด ความทนต้องมี เป็นนักสืบไม่ใช่แค่ไปสืบ ไปดม อ่านหนังสือพิมพ์แล้วมารายงาน ซึ่งไม่ใช่วิธีการทำงาน ตำรวจทุกคนจะต้องเน้น เรื่องการเจาะข้อมูลเชิงลึก
ตนทำงานแบบเข้าใจนักสืบ จะไม่ไปกดดันลูกน้องแต่ทุกคนต้องทุ่มเท กัดไม่ปล่อย ตนมองว่าการทำงานสืบสวน จะประสบผลสำเร็จได้มี 3 ส่วนด้วยกัน 1.เทคโนโลยี 2.การข่าวและข้อมูลพื้นฐานท้องถิ่น 3.งบประมาณ เชื่อว่าถ้ามี 3 ส่วนนี้ผลงานจะออกมาดี และที่บอกว่าตน เป็นคนดี มีคุณธรรม ตั้งใจทำงาน เสียสละคงมาจากสไตล์ทำงาน ที่ทุ่มเทของเรามากกว่า
เมื่อมาขึ้น ผบก.ครั้งแรกที่สืบภาค 1 ตนได้มีเป้าหมาย คือพัฒนาหน่วยให้มีประสิทธิภาพ และทำงานบรรลุเป้าหมายของผู้บังคับบัญชา ทั้งเรื่องนโยบายของรัฐบาล ปัญหาอาชญากรรมทั่วไป รวมถึงด้านความมั่นคง เชื่อว่าผู้บังคับบัญชาน่าจะพอใจ เพราะเมื่อเกิดคดีเราจัดทีมงาน ลงไปดำเนินการช่วยติดตาม จนสามารถปิดคดีสำคัญหลายคดี ผู้บังคับบัญชาออกคำสั่ง เราก็ต้องทำให้เต็มที่
“คาดหวังว่าตำรวจทุกคน จะมีจิตวิญญาณของความเป็นตำรวจ และเสียสละในการทำงาน” พล.ต.ต.สุภธีร์ฝากถึงตำรวจ บก.สส.ภ.1
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี