ออเจ้าไทยนิยมยั่งยืนหรือไฟไหม้ฟาง
เรียน คุณวิภาวดีฯ ที่นับถือ
เทศกาลอุ่นไอรักและละคร “บุพเพสันนิวาส” ปลุกกระแสนิยมไทยมาได้กว่าเดือนแล้ว แต่จะนิยมยั่งยืนหรือเป็นไฟไหม้ฟาง ยังไม่รู้ เพราะชุดไทยดูจะไร้ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจเมื่อเปรียบเทียบกับ “กิโมโน” หรือ “ฮันบุก” เพราะดูเหมือนสตรีไทยจะนิยมแฟชั่นสากลมากกว่า สตรีญี่ปุ่นและเกาหลีจะสวมชุดประจำชาติทุกๆ วาระสำคัญ ไม่ว่าจะจบการศึกษา แต่งงาน หรือเทศกาลประจำชาติ แต่สตรีไทยจะแต่งเฉพาะ “งานแฟนซี” เท่านั้น สำหรับชายไทยเฉพาะเสื้อราชปะแตนก็ยังมีคนนิยมสวมน้อยมาก ดูได้จากสมาชิกชายในแม่น้ำทั้งห้าก็ได้ เพราะจะมีผู้สวมเสื้อไทยน้อยกว่าสูทหรือเสื้อพ่อค้า เสื้อผ้าที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของชาติ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าผู้นำของชาติต่างๆ ในอาเซียน ต่างพากันสวมเสื้อที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติเป็นประจำทั้งสิ้น แต่สำหรับประเทศไทยดูเหมือนจะมีนายกฯคนเดียวที่สวมเสื้อไทย แต่รัฐมนตรีส่วนใหญ่จะนิยมเสื้อพ่อค้าหรือสูท ถ้าข้าราชการเมืองและข้าราชการประจำที่ไม่สวมเครื่องแบบ สวมใส่เสื้อพระราชทานของพ่อด้วยผ้าธรรมดา ไม่ต้องตัดเย็บให้เหมือนเสื้อพ่อค้า ด้วยการยกบ่าและเสริมผ้าชั้นในให้หนาซึ่งดูแล้วเหมือนหุ่นยนต์มากกว่า ก็จะไม่สิ้นเปลืองค่าซักแห้ง สิ้นเปลืองไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศ แล้วยังจ่ายเงินน้อยกว่าเสื้อพ่อค้าหรือเสื้อพระราชทานไหมที่ตัดเย็บแบบเสื้อพ่อค้า แล้วยังส่งเสริมการดำรงชีวิตแบบพอเพียงด้วย
วันนี้กระแส “ออเจ้า” ดังคับฟ้า ใครๆ ก็ออเจ้าและดูเหมือนจะเกิดการเลียนแบบ มีหลายๆ ออ เช่นออยู, ออมี, ออไรซ์, ฯ แต่ออที่เก่าแก่ที่เก่าแก่ที่สุดก็คือ “ออหรี่” ที่คงไม่มีใครชื่นชอบออกหน้า แต่ชื่นชมลับหลังทั้งสิ้น วันนี้คนไทยคลั่งกระแสบุพเพสันนิวาสฮิตสวมชุดไทย แต่เมื่อหลายปีที่ผ่านมาถูกกระแสทรราชกล่าวหาว่า “คลั่งชาติ” เพราะขี้ข้าแผ่นดินที่รักชาติด้วยจิตวิญญาณ มิได้รักชุดประจำชาติเพราะละเม็งละคร ที่พากันเดินเท้าตรวจสอบเขตแดนไทย ถูกต่อต้านจากคนไทยในท้องถิ่นที่เต็มใจยกแผ่นดินไทยให้เขมร เพราะต้องการผลประโยชน์จากการค้าขาย แล้วยังไม่เห็นใจเพื่อนร่วมชาติที่ครอบครองแต่โฉนดที่ดินที่ออกโดยกระทรวงมหาดไทยของประเทศไทย แต่ที่ดินถูกเขมรครอบครองแล้ว โดยบอกให้เจ้าของที่ดินเสียสละเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม
กระแสชื่นชมวัฒนธรรมไทยเพราะละเม็งละครนั้น ไม่ยั่งยืนอย่างแน่นอน เพราะมิได้เกิดจากจิตวิญญาณ แต่เป็นเพราะ “แฟชั่น” ตามกระแสคนดัง เรื่องดัง เหมือนเมื่อครั้ง “เบ๊คแฮม” ยังดัง มาเที่ยวเมืองไทย หลังจากเบ็คแฮมเช็คเอาท์ไปแล้ว โรงแรมก็เปิดห้องให้ผู้คลั่งไคล้ (กรุณาอย่าใช้คำว่าสาวกเพราะบรรพชนไทยกำหนดว่า สาวกนั้นเป็นศัพท์เฉพาะพระพุทธเจ้าเท่านั้น ถ้าคลั่งวัฒนธรรมไทยจริง ก็ต้องใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องด้วยครับ) เข้าไปดมกลิ่นเบ๊คแฮม ด้วยราคา 5,000 บาท ไม่ทราบว่ามีแฟนผีกี่คนที่จ่ายเงิน 5,000 เพื่อดมกลิ่นเบ๊คแฮม
หวังว่าการปลุกกระแสรักชาติจะกระทำต่อไปอย่างยั่งยืน เหมือนไทยนิยม และไม่ใช่ว่าเมื่อผ่านการเลือกตั้งแล้ว กระแสรักชาติก็จะถูกเปลี่ยนเป็นคลั่งชาติ เหมือน “เห็นโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง โอ้บาปกรรมน้ำนรกฯ จะถูกเปลี่ยนเป็น เห็นโรงเหล้าแล้วตาลายเพราะอยากกินไวน์” นะจ๊ะ
อย่างไรก็ตาม หวังว่าเรื่องออเจ้านี้จะไม่เหมือนกรณีหวยสามสิบล้านและเสือดำ ที่ดูเหมือนจะถูกนำขึ้นมากลบกระแส “คลั่งริชาร์ด” เพราะดูเหมือนสื่อโทรทัศน์หลายช่องจะเล่นแต่สองข่าวนี้แบบ “แช่” ขยายเวลาด้วยเนื้อหาซ้ำซาก ไม่มีการตรวจสอบ วิพากษ์วิจารณ์กันตามอำเภอใจอย่างเดียว ในขณะที่เมื่อนำมาตรา 145 และ 148 ออกหน้าจอ กลับใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที เพราะทั้งสองมาตราบ่งบอกว่า การใช้อำนาจที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.ป. สส. และ สว. นั้น ไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติในมาตราทั้งสอง เรื่องนี้บ่งบอกว่า “สื่อฯ” ถูกกำกับ มิได้ทำหน้าที่สื่อฯอย่างเที่ยงตรงมีธรรมาภิบาล
จะเลือกตั้งเมื่อใดก็ตาม ถ้าไม่ปฏิรูปให้เป็นผลสำเร็จก็เชื่อว่า “อนาคตของประเทศไทย” ไม่สวยหรูอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อยังมีความพยายามสถาปนารัฐไทยใหม่และระบอบคอมมิวนิสต์ ซึ่งคุณสมชายน่าจะจัดการให้เด็ดขาด มิใช่ปล่อยให้เป็นภารกิจของ กกต.เหมือนเรื่องปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่นและการใช้อำนาจเกินขอบเขตของนางดอกไม้ ที่ปล่อยให้เป็นภารกิจของกระบวนการยุติธรรม ทั้งๆ ที่รู้ว่า กากีนั้ง นั้น ไม่ต้องการจัดการกับทรราช เพราะเป็นสีเดียวกัน(เห็นขี้ดีกว่าไส้)
จะเลือกตั้งตามกำหนด (ก.พ.62) หรือเลื่อนออกไปโดยไร้การแก้ไขสิ่งที่ผิด ก็ไม่ทำให้แผ่นดินไทยสูงขึ้นอย่างแน่นอน
ออส่วน
ตอบ คุณออส่วน
เรื่อง “ไทยนิยม” จากกระแสอุ่นไอรักฯ และละครบุพเพสันนิวาส ส่วนตัวผมก็หวั่นอยู่เหมือนกันว่า จะ “ไม่ยั่งยืน” แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังมองในแง่ดีว่า การทำให้คนส่วนใหญ่มีความรู้สึกที่เป็นสุขกับ “ความเป็นไทย” ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ก็เป็นเรื่องที่ดี ไม่ใช่หรือ ถ้าช่วยกันทำให้ยั่งยืนได้ ก็จะยิ่งดีใหญ่
วิภาวดี หลักสี่
ฎีกา นายกฯเยอะ
เรียน คุณวิภาวดี หลักสี่ ครับ
ฎีกา นายกฯเยอะ
ลุงจรูญชวนปรีชาหานายกฯ เพื่อให้ถกคดีลอตเตอรี่หาย
โดยษิทรา ตราสารผ่านแย้มพราย อันมุ่งหมายม.44 เข้าตีความ
มาละโหวยละหวา นายกฯ เอ๋ย ที่เคยเปรยโปรยไว้ ใคร่อยากถาม
บริหารงานเมืองประเทืองนาม ไม่ยากตามที่เอ่ย เฉลยพลัน
จิปาถะปะใส่ ไม่ว่างเว้น แต่ละเรื่องข่นเด่นเค้นเลือกสรร
ทุกทิวาราตรีมีคืนวัน ต้องประจัญขันแข่งเป็นแหล่งรวม
เดี๋ยวไอ้โน้นไอ้นี่ มีให้แก้ เดี๋ยวคนแก่ เดี๋ยวเด็ก เช็กจนอ่วม
เดี๋ยวมั่นคงลงเขตเศรษฐกิจบวม เดี๋ยวคอร์รัปชั่นน่วมท่วมแผ่นดิน
ขี้หมูราขี้หมาแห้ง แจ้งนายกฯ จนหัวอกปกตรมถมแทบสิ้น
ยังอีกนานไหมหนอตอราคิน จะโบยบินผินลี้หนีหายไป
มิน่าพลั้งเลยเราเขย่าจิต ควรจะคิดก่อนขว้างดั่งอ้างไซร้
ปากหนอปากยากล้นบนเอ่ยไว ก่อนเอ่ยใหม่ คำใคร่ครวญทบทวนเอย
รัตน์ เรืองรอง
สำนึกไทยช่วยกันล้างโกง
เรียน คุณวิภาวดี หลักสี่ ที่นับถือ
สำนึกไทยช่วยกันล้างโกง
ข่าวว่ากัน คอร์รัปชั่นในยุคนี้ เบ่งบานดี...ขุดตรงไหนเจอตรงนั้น
โกงคนยาก โกงนักเรียน...ไม่สำคัญ ใจยึดมั่นแต่ตัวเองต้องร่ำรวย
ทุจริตเบ่งบานทุกหย่อมหญ้า ชาวประชาทุกข์ยากล้วนต้องซวย
หลายชีวิตถูกโกงจนมอดม้วย แดดิ้นด้วยพิษร้าย“ทุจริตชน”
จิตสำนึก“ข้าราชการ”หายไปไหน จึงทำได้...ถึงเลวทรามก็ไม่สน
ต้องการเงินและอำนาจเพียงเพื่อตน จึงไม่พ้น“โกงกิน”สิ้นคุณธรรม
ปลุกสำนึก“ความดี”ขึ้นมาใหม่ อย่าให้ใคร“ตราหน้า”ด่าระยำ
ลูกหลานต้องอดสูถูกจดจำ ทุกถ้อยคำสาปแช่งแทงจิตใจ
อีก“ประชา”ก็ต้องลุกขึ้นสู้ อย่าทนอยู่กับความโกงไม่โปร่งใส
ต่อแต่นี้ต้องยึดมั่นสำนึกไทย ไม่ให้ใครโกงชาติ-โกงแผ่นดิน
“รัฐบาล”ก็ด้วยช่วยตระหนัก ใช่บอกรักแต่ปาก-สำนึกขาดวิ่น
อย่าทำเฉยจนผู้คนต่างติฉิน “ชาติจะสิ้น”ถ้าไม่ช่วยกันจริงจัง
แผ่นดินไทยจะกลับมาเรืองรุ่ง ถ้าทุกฝ่ายหมายมุ่งด้วยความหวัง
ร่วมล้างโกงให้สิ้นสุดให้หยุดยั้ง โหมประดังความตั้งใจเพื่อไทยเอย
ฟอนฟืน พญาไฟ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี