ในการเปิดงานสัมมนาและปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ก้าวใหม่เศรษฐกิจไทยรับความท้าทายอย่างมั่นคง” โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ที่อิมแพค เมืองทองธานี
เมื่อเดือนที่แล้ว มีข้อมูลน่าสนใจ คือ การค้าระหว่างประเทศขยายตัวมากขึ้น ฐานะการเงินการคลังของชาติดีขึ้น ทุนสำรองระหว่างประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 155,423 ล้าน USD ณ สิ้นเดือนมกราคม 2558 เป็น 214,665 ล้าน USD ณ สิ้นเดือนมกราคม 2561 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยดีขึ้นกว่าเดิม
U.S. News & World Report จัดอันดับให้ไทยเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศที่ดีที่สุดในการเริ่มต้น ธุรกิจ อันดับที่ 6 ในการเป็นประเทศที่มีโอกาสการเติบโตในอนาคต (Movers) อันดับที่ 8 ของ ประเทศที่น่าลงทุนที่สุด อันดับที่ 4 ในด้านการท่องเที่ยวผจญภัย (Adventure) และอันดับที่ 8 ในด้านมรดกทางวัฒนธรรม (Heritage)
องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ปลดธงแดงในมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน ของไทยเมื่อเดือนกันยายน 2560 สหภาพยุโรปปลดล็อกใบเหลืองของไทยจากการทำประมงผิดกฎหมายหรือ IUU Fishing
สหรัฐอเมริกาปรับลดระดับตามรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (US’s Trafficking in Persons Report : TIP Report) จากระดับ 3 เป็นระดับ 2
สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เลื่อนอันดับสถานะประเทศไทยในฐานะคู่ค้าด้านทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ ตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ จากกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เป็นประเทศที่ถูกจับตามอง (WL)
ส่วนด้านการท่องเที่ยวพบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นจาก 29.9 ล้านคน ในปี 2558 เป็น 35.4 ล้านคน ในปี 2560 (18%) ทำให้รายได้เพิ่มจาก 1.45 ล้านล้านบาท เป็น 1.82 ล้านล้านบาท (26%) และคาดว่าในปี 2561 จะเพิ่มขึ้นเป็น 39 ล้านคน สร้างรายได้ 2.06 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางในประเทศเพิ่มขึ้น จาก 139 ล้านคน-ครั้ง ในปี 2558 เป็น 154.1 ล้าน -ครั้ง ในปี 2560 ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นจาก 8 แสนล้านบาท เป็น 9.6 แสนล้านบาท
และคาดว่า ในปี 2561 นักท่องเที่ยวไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 157.6 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศถึง 1.01 ล้านล้านบาท ในช่วงปี 2558-2560 ได้มีการเปิดเส้นทางบินใหม่จากหลายเมืองในหลายประเทศ รวม 148 เส้นทาง โดยเป็นเส้นทางบินจากหลายเมืองในประเทศจีน ฝรั่งเศส อาเซียน เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส รัสเซีย ญี่ปุ่น และเอเชียใต้
ทั้งยังมีเรื่องการขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาประเทศไทยอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าในกทม.และปริมณฑล รถไฟรางคู่กระจายไปสู่ทุกภาค ปรับปรุงท่าอากาศยานสำคัญๆ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
พัฒนาแหล่งน้ำ ปรับปรุงด้านพลังงาน เทคโนโลยีดิจิทัล สร้างความมั่นคงด้านไซเบอร์
คือสรุปว่าเป็นผลงานของรัฐบาล ที่พัฒนาทุกรูปแบบรวมทั้งทรัพยากรมนุษย์เพื่อเดินหน้าประเทศไทย
และผมเชื่อว่ารัฐบาลก็กำลังเดินหน้าช่วยภาคการเกษตร โดยเฉพาะเรื่องข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย ยางพารา และปาล์มน้ำมัน เพราะปัจจัยของสินค้าเหล่านี้ จะเป็นตัวเสริมสิ่งต่างๆ ที่ผมสรุปไว้ข้างบนเพื่อก้าวใหม่ของเศรษฐกิจไทยอย่างมั่นคง
ก็พอจะเข้าใจกันว่าสินค้าบางตัวเป็นไปตามฤดูกาล และยากที่จะเข้าไปขยับราคา แต่ที่ทำได้ในตอนนี้คือราคายางพารา ซึ่ง วิสุทธิ์ นิติยารมย์ อดีตที่ปรึกษารองนายกฯ เคยโชว์ฝีมือศึกษาไว้ว่ากลยุทธ์ในการผลักดันราคายางพาราให้สูงขึ้นมีเยอะแยะและเคยใช้ได้ผลมาแล้วในอดีต
ทั้งระบุว่า ถ้าราคายางพาราปรับขึ้น 1 บาท/กก.เงินจะไหลเข้ากระเป๋าเกษตรกร 4 หมื่นล้านบาทต่อปี ถ้าปรับขึ้น 10 บาท/กก.เงินก็ไหลเข้ากระเป๋าเกษตรกร4แสนล้านบาทต่อปี ถ้าปรับขึ้นไป 100 บาท/กก.ก็คำนวณดูนะครับว่าเงินจะไหลเข้ากระเป๋าชาวสวนยางกว่า 10 ล้านคนมากน้อยแค่ไหน
เป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างดี
และถ้าสินค้าเกษตรตัวอื่นขยับราคาขึ้นไปด้วย อำนาจการซื้อของภาคเกษตรกรก็จะมีมหาศาลมากกว่าอำนาจการซื้อของกลุ่มลูกจ้าง คะแนนนิยมก็จะไหลเข้าทำเนียบรัฐบาลโดยไม่ต้องทำประชาสัมพันธ์
ก็คิดว่า ดร.สมคิด เดินมาถูกทางแล้ว ที่เข้าไปสะสางเรื่องการแก้ไขปัญหาราคายางพารา ร่วมกับกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯโดยมีธนวรรธน์ พลวิชัย รักษาการ ผู้ว่าการ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)
อย่าลืมว่าราคายางพารา เคยพุ่งเฉียด 200 บาท/กก.มาแล้ว แต่ตอนนี้เหลือแค่ 47-48 บาทต่อ กก. รักษาการผู้ว่าฯกยท.จะผลักดันให้ไปยืนที่ 50 บาทต่อกก. ผมว่ายังน้อยไปต้องตั้งเป้าไว้ว่า ราคายางพารา 1 กก.สามารถซื้อลอตเตอรี่ได้ 1 ใบ ถึงจะเหมาะครับจะได้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยมั่งคั่งไปมากกว่าเดิม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี