แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn ความเข้มแข็งในจิตใจนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องฝึกฝนแต่เล็ก เพราะว่าต่อไปถ้ามีชีวิตที่ลำบากไปประสบอุปสรรคใดๆ ถ้าไม่มีความเข้มแข็งไม่มีความรู้ ไม่มีทางที่จะผ่านอุปสรรคนั้นได้ เพราะว่าถ้าไปเจออุปสรรคอะไร ก็ไม่มีอะไรที่จะมาช่วยเราได้ แต่ถ้ามีความรู้ มีอัธยาศัยที่ดี และมีความเข้มแข็งในกาย ในใจ ก็สามารถที่จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ นั้นได้... (พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชวินิต ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันที่ 31 ตุลาคม 2518)...
nn สาธารณชนไทยผู้สนใจว่าสนช.จำนวน 27 คนที่ยื่นเรื่องพ.ร.ป.การเลือกตั้งสส. ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น มีชื่อเสียงเรียงใด และมีหน้าตา ตัวตนเช่นไร...
nn ล่าสุดสาธารณชนผู้สนใจก็ได้รับรู้ชื่อของสนช. ทั้ง 27 รายเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าเป็นพลเรือน และอดีตข้าราชการพลเรือนระดับสูงมากกว่าสนช.สายทหาร แต่ที่น่าสังเกตคือไม่มีสนช.สายตำรวจร่วมลงชื่อยื่นเรื่องในครั้งนี้ด้วยเลยแม้แต่รายเดียว...nn สนช.สายทหารที่ร่วมลงชื่อยื่นมีเพียง 4 รายเท่านั้น มาจากทหารเรือ 2 ราย และอีกอย่างละ 1 รายมาจากทหารบก และทหารอากาศ...
nn ต่อจากนี้ไปสาธารณชนที่เป็นคอการเมืองก็เฝ้าติดตามว่า สนช.ทั้ง 27 คนชุดนี้ จะได้รับการเลือกสรรเข้าไปเป็นสส.ลากตั้งหรือไม่ แต่เรื่องที่คอการเมืองไทยประหลาดใจมากถึงมากที่สุดคือ สนช.สายทหารลงชื่อยื่นเรื่องพ.ร.ป.เลือกสส. ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยน้อยมาก จนถึงกับมีการสอบถามกันให้วุ่นวายว่าทำไมสนช.สายพลเรือนถึงได้ร่วมลงชื่อมากมายเช่นนี้...
nn มีการวิพากษ์กันในหมู่คนที่อาจจะไม่ค่อยปลื้มรัฐบาลคสช. และตัวนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าการทำงานของท่านนายกฯ ที่ชัดเจนและเห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุดตั้งแต่ได้อำนาจปกครองประเทศไทยคือ การประกาศใช้มาตรา 44 ซึ่งเป็นคำสั่งที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่สุด ที่ครอบคลุมอำนาจทุกฝ่าย ทั้งบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ โดยอำนาจของนายกรัฐมนตรี...
nn ถึงแม้ประเทศไทยจะมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับพุทธศักราช 2560 ออกมาบังคับใช้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงมีคำสั่งตามมาตรา 44 ของนายกรัฐมนตรีออกมาเป็นระลอกๆ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง (โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับคสช.) ว่าเป็นการใช้อำนาจเหนืออำนาจรัฐธรรมนูญ และเป็นการขัดต่อหลักนิติรัฐ แต่ไม่ว่าใครจะต่อต้าน และวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างไร นายกรัฐมนตรีหัวหน้าคสช.ก็ยังยืนยันว่าจำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เพื่อความสงบและเป็นระเบียบของบ้านเมือง...
nn รัฐบาลคสช.ถูกกลุ่มคนที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทยโดยเร็ว วิพากษ์เชิงเสียดสีว่าทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง ขวางการเลือกตั้ง ครั้นเมื่อคสช.ถูกวิพากษ์ประเด็นนี้หนักเข้าทุกๆ วัน ก็จึงจำต้องลดแรงเสียดทานทางการเมืองด้วยการจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อแก้ไขคำสั่งคสช. ที่ 53/2560...
nn คำสั่ง 53/2560 ถูกต่อต้านอย่างหนักจากพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคที่ไม่ปลื้มคสช. เพราะก่อให้เกิดอุปสรรคสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง เช่น การบังคับให้สมาชิกพรรคต้องไปยืนยันสถานะการเป็นสมาชิกของพรรคต่อหัวหน้าพรรคการเมือง ต้องจัดตั้งสาขาพรรค และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศภายใน 90 วัน...
nn แล้วที่หนักไปกว่านั้นคือการที่สนช.อาศัยคำสั่งดังกล่าวแก้กฎหมายการเลือกตั้งสส.ให้มีผลบังคับใช้ออกไปอีก 90 วัน หลังประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ซึ่งก็คือการทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปอีก 90 วัน...
nn เมื่อคสช.ใช้คำสั่ง 53/2560 เป็นเครื่องมือการเมือง พรรคการเมืองก็ตอบโต้ด้วยการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความโดยยื่นผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าคำสั่งที่ว่านั้นเข้าข่ายลิดรอนสิทธิของปวงชนชาวไทย แล้วก็เรียกร้องไปยังกกต.ว่าต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าพรรคการเมืองสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง ซึ่งไม่ถือว่าจงใจขัดต่อกฎหมาย...
nn เมื่อคสช. เจอกระแสต้านมากๆ เข้า แล้วกระแสก็แรงขึ้นทุกวัน ก็จึงจำเป็นต้องแก้ไขผ่อนปรนคำสั่งในที่สุด เพราะรู้ดีว่าหากแข็งขืนฝืนต่อไปก็รังแต่จะทำให้คสช.เสียคะแนนนิยม...
nn คอการเมืองรู้ดีว่านี่คือการแก้เกมการเมืองของคสช. เมื่อถูกต้อนเข้ามุมอับทางการเมือง การแก้ครั้งนี้ก็เพื่อเป้าหมายให้ตัวเองยังสามารถหายใจหายคอทางการเมืองต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี