-การเคลื่อนไหวของเครือข่ายระบอบทักษิณผ่านลูกชายอดีตนายกฯ ที่พยายามสื่อสารกับสังคม และปล่อยข่าวโจมตีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และนายทหารคนสนิทเรื่องเงินบริจาคโดยกล่าวโจมตีในทำนองว่าเช็คสั่งจ่ายไปยังพล.อ.เปรม และยังมีความพยายามเปรียบเทียบกับตัวเองโดยพยายามเชื่อมโยงความผิดของตัวเองเข้ากับผู้ใหญ่ในบ้านเมือง? สื่อความว่าถ้าเอาความผิดกับตัวเองก็ต้องเอาความผิดกับประธานองคมนตรีด้วยหรือไม่?
เรื่องนี้หากอ่านผ่านๆ ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดก็อาจจะทำให้ประชาชนผู้รับข่าวสารคล้อยตามการปล่อยข่าวโคมลอยนี้ได้แต่เมื่อเจาะลึกถึงข้อเท็จจริงแล้วก็บอกได้ว่าไม่มีมูลเพราะมีการแถลงจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่าได้ตรวจสอบเช็คทั้ง 2 ฉบับ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่าเช็คเงินสดจำนวน 250,000 แสนบาท ที่ นายวิชัย กฤษดาธานนท์ ได้สั่งจ่ายให้ พล.อ.เปรม นั้นก็ระบุเพื่อนำเข้าบัญชีของมูลนิธิฯ ไม่ได้ถูกนำไปใช้เข้ากระเป๋าส่วนตัว
-ในส่วนของข้อกฎหมายที่ถามว่าเข้าข่ายการฟอกเงินตามมาตรา 5 แห่งพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ.2542 หรือไม่? ทางเจ้าหน้าที่ได้อธิบายขยายความว่าการกระทำความผิดดังกล่าวจะต้องมีการกระทำที่เข้าข่ายการเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือปกปิดอำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดเมื่อพิจารณาถึง เจตนาในการสั่งจ่ายเช็คทั้ง 2 ฉบับ ให้แก่ประธานองคมนตรี และนายทหารคนสนิทแล้ว เห็นได้ว่าเจตนาของการสั่งจ่ายนั้น ต้องการโอนเงินเข้าบัญชีของมูลนิธิฯ ซึ่งเป็นเงินบริจาคเพื่อการกุศลสำหรับให้มูลนิธิใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์เท่านั้น ต่างจากเจตนาที่สั่งจ่ายเช็คจำนวน 10 ล้านบาท เข้าบัญชีส่วนตัวให้ลูกชายและลูกสาวอดีตนายกฯที่เป็นการสั่งจ่ายโดยตรงและเป็นเงินจากกรณีคดีกฤษดามหานครที่ศาลตัดสินแล้วว่ามีความผิดในการปล่อยกู้ให้ บมจ.กฤษดามหานคร?
ประเด็นจึงอยู่ที่คดีเรื่องความผิดตัดสินไปแล้วเหลือคดีที่เกี่ยวข้องที่กำลังรอวันตัดสิน คนที่มีชื่ออยู่อาจกำลังเดือดร้อน ทำทุกวิถีทาง และอาจรวมถึงกรณีที่มีคนตั้งข้อสงสัยในกรณีการโยงบุคคลอื่นเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นหรือไม่?
-ถ้าเช่นนั้นจึงต้องขอย้อนเรื่องดังกล่าวโดยเงินก้อนดังกล่าวเกิดจากการที่ บมจ.กฤษดามหานครขาดทุนอย่างหนักทำให้ต้องปรับโครงสร้างหนี้ ด้วยวิธีกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินต่างๆ มาเพิ่มทุน ด้วยความที่ขาดสภาพคล่องทางการเงินทำให้บริษัทเข้าลักษณะลูกหนี้ที่ไม่อาจชำระหนี้ได้ ซึ่งเป็นข้อต้องห้ามตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ในการกู้ยืมเงิน แต่ธนาคารกรุงไทยก็ยังอนุมัติสินเชื่อให้โดยเชื่อว่ามีคำสั่งจากนายใหญ่เบื้องหลังให้ผ่านสินเชื่อให้อย่างง่ายดาย
เมื่อได้สินเชื่อจากธนาคารกรุงไทยแล้วผู้บริหารของบมจ.กฤษดามหานคร ก็ได้มอบเช็คจำนวน 10 ล้านบาทให้ลูกชายอดีตนายกฯ แม้ภายหลังลูกชายอดีตนายกฯจะอ้างว่าได้ยกเลิกเช็คที่ถูกโอนเงินเข้ามา ภายในวันนั้น และคืนทุกบาททุกสตางค์แล้ว ก็เสมือนว่ายอมรับการกระทำนั้นหรือไม่? รูปแบบลักษณะการยักยอกถ่ายเทเงินหลวง ฟอกเงินไปสู่คนอื่นหรือองค์กรอื่นได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันหลายกรณี รวมถึงกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่มการฟอกเงินผ่านบุคคลหรือวัดดังวัดหนึ่ง เมื่อพบหลักฐานการนำเช็คเข้าบัญชี อันถือว่ามีการรับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ดีเอสไอจึงได้นำเรื่องนี้ไปดำเนินคดีฐานฟอกเงิน ทั้งผู้บริจาค และผู้รับบริจาคด้วย
-จึงเกิดคำถามว่าการโพสต์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินของเช็คทั้ง 2 ฉบับจึงไม่สามารถเป็นสิ่งอธิบายว่า ตัวเองก็ไม่ผิดได้ เพราะสุดท้ายทุกกรณีก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และหากไม่ได้กระทำผิดจริงก็ไม่ต้องกลัวการตรวจสอบ เพียงแต่สังคมอาจตั้งคำถามได้ว่าจงใจออกมาสร้างประเด็นใดกับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหรือไม่?
-ความพยายามดึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเข้ามามีส่วนร่วมในการเมือง หรือการโจมตีถึงประธานองคมนตรีโดยตรงไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก หากย้อนกลับไปในอดีตสมัยอดีตนายกฯผู้เป็นพ่อก็เคยมีความพยายามโจมตีองคมนตรีในเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องการอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหารเมื่อปี 2549, การเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ หรือขุนพลแกนนำชาวเสื้อแดงที่เคยไปปราศรัยหน้าบ้านประธานองคมนตรี ทั้งการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องส่วนตัว และการประโคมข่าวเรื่องการทุจริตซึ่งล้วนไม่มีมูล หรือยิ่งไปกว่านั้นมีการโจมตีองคมนตรีเพื่อกระทบชิ่งจาบจ้วงสถาบันหรือไม่? ทั้งนี้ก็มีแกนนำหลายต่อหลายคนที่โดนคดีหมิ่นฯไปแล้วเช่นกรณีของเจ๋ง ดอกจิกเป็นต้น ยุทธวิธีเดิมๆเช่นนี้ มีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อใดที่มีการพาดพิงถึงประธานองคมนตรี หรือองคมนตรี จะถูกกระทำควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของอดีตนายกฯในระบอบทักษิณ โดยมีการสร้างภาพสมมุติตัวเองเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย และสร้างศัตรูร่วมกันคือการชี้ว่าฝ่ายตรงข้ามตัวเองเป็นกลุ่มอำนาจเก่าที่สูญเสียอำนาจ
การมุ่งเป้าโจมตีไปที่องคมนตรีสื่อเจตนาซ่อนเร้นบางประการที่พยายามจะเชื่อมโยงให้สังคมเข้าใจไปถึงสถาบันฯยิ่งในขณะนี้พล.อ.เปรม ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานองคมนตรีในรัชกาลปัจจุบันอาจมีคนสงสัยต่อพฤติกรรมของผู้ต้องการกล่าวหาโจมตีว่าต้องการสื่อความอะไรกันแน่?
-ยิ่งไปกว่านั้นข่าวการโจมตีในครั้งนี้ก็ออกมาพร้อมกับการเปิดหน้าปรากฏตัวของสองพี่น้องอดีตนายกฯ ที่เคลื่อนไหวในต่างประเทศและส่งสัญญาณกลับมายังประเทศไทยผ่านสื่อต่างประเทศ แม้ว่าในการให้สัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่นในครั้งที่ผ่านมาจะกล่าวว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเดิมของตัวเองแล้วในทุกๆ เรื่อง แต่ท่าทีของลิ่วล้อ และคนใกล้ตัว กระทั่งลูกชายก็ไม่ได้มีท่าทีลดลาวาศอกกับการโจมตีสถาบันฯ ที่ยังแสดงถึงอิทธิพลของอดีตนายกฯที่อยู่ภายในประเทศ ซึ่งเป็นการขัดแย้งกับการให้สัมภาษณ์ของอดีตนายกฯอย่างสิ้นเชิง
-หากคนในตระกูลอดีตนายกฯทั้งหมดทำตามคำให้สัมภาษณ์ของอดีตนายกฯผู้พี่ที่บอกทำนองว่าวางมือทางการเมืองแล้วจริงๆ ก็คงเหลือเพียงเรื่องเดียวที่เครือข่ายระบอบทักษิณยังเป็นห่วงอยู่และการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ก็หนีไม่พ้นผลกระทบของคดีที่พัวพันกับธุรกิจครอบครัวในเครือข่ายระบอบทักษิณ ทั้งในเรื่องการใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ของธุรกิจตัวเอง ตลอดจนการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม ที่เป็นคดีทั้งในส่วนที่ตัดสินแล้ว และรอการตัดสินที่ยังคงกวนใจว่าอู่ข้าวอู่น้ำแห่งนี้จะเหือดแห้งไปพร้อมการตัดสินทางคดีหรือไม่?
-เรื่องนี้ต้องฝากรัฐบาล คสช.ในการจัดการเรื่องที่ถูกต้องว่าไปตามถูกที่ผิดก็ต้องดำเนินคดีให้สิ้นสุดไปตามกระบวนการของกฎหมาย คดีคงค้างต่างๆ ควรเร่งรัดให้มีการพิจารณาให้ถึงที่สุด ก่อนหลายคดีจะหมดอายุความ แล้วความยุติธรรมของสังคมจะสูญเปล่าไป ความคาดหวังของประชาชนต่อรัฐบาล คสช. ในเรื่องการปราบปรามการทุจริตเป็นเรื่องที่หนึ่ง ทั้งการเชื่อมั่นต่อพล.อ.ประยุทธ์ และต่อความเด็ดขาดของการปราบปรามการทุจริต และการจัดการกับอิทธิพลต่างๆ
ก่อนที่รัฐบาลนี้จะหมดวาระลง ฝากเรื่องใหญ่หนึ่งเรื่องคือการจัดการกับคดีเก่าที่ค้างคา ทั้งเรื่องการทุจริตของคนในระบอบทักษิณและในรัฐบาลใดๆ ก่อนหน้านี้ การก้าวล่วงถึงสถาบันฯอันเป็นที่เคารพของประชาชนซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมเรียกร้องให้มีการจัดการได้ด้วยอำนาจที่มีในมือของ คสช. เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปหากตั้งใจจะจัดการจริงอย่างเด็ดขาด....
“...มีแต่คนที่อดนอน จึงรับรู้ว่าการนอนไม่หลับทั้งที่นอนอยู่บนเตียงเป็นเรื่องปวดร้าวปานใด...”
ความโกวเล้งจากเรื่อง ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี