มีข่าวที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งจากสถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย (AMBASSADE DE FRANCE EN THAILANDE) เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๐ท่านนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้ประกาศเกียรติมอบเครื่องอิสริยาภรณ์ฝรั่งเศส ตระกูล PalmesAcademiques (ด้านการศึกษา) ชั้น ๒ (Offcier) ให้แก่นางสาวสุดา พนมยงค์
และเมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐ กระทรวงวัฒนธรรม สาธารณรัฐฝรั่งเศส ก็ได้ประกาศเกียรติมอบเครื่องอิสริยาภรณ์ฝรั่งเศส ตระกูลLordre des Arts et des Lettres(ศิลปะและวรรณกรรม) ชั้น ๒ (Officier) แก่ นางดุษฎี บุญทัศนกุล (พนมยงค์) ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล)
พิธีมอบเครื่องอิสริยาภรณ์แก่ทั้งสองท่านนี้จะมีขึ้นในวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย
ทั้งสองท่านคือ คุณสุดา พนมยงค์ และ คุณดุษฎี บุญทัศนกุล(พนมยงค์) เป็นบุตรีของท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโสและอดีตนายกรัฐมนตรีและผู้ประศาสน์การมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองและท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ คุณสุดา พนมยงค์ เริ่มเรียนเปียโนมาตั้งแต่เด็ก เพราะท่านผู้หญิงพูนศุขเล่นเปียโนเพลงคลาสสิกได้ จึงให้คุณสุดาเรียนกับเพื่อนสนิทของท่านและแม่ชีที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟ และไปเรียนเปียโนต่อที่สถาบันดนตรีประเทศฝรั่งเศสและสอบได้ประกาศนียบัตรทางดนตรีจากประเทศอังกฤษอีกด้วย และได้เป็นครูสอนเปียโนและภาษาไทยที่ปารีสเป็นเวลาถึง ๑๗ ปี
ส่วนอาจารย์ดุษฎี พนมยงค์ ก็มีความผูกพันกับดนตรีมาแต่เล็กเพราะท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ เล่นเปียโนและร้องเพลงให้ฟังตั้งแต่ตั้งครรภ์คุณดุษฎี และตอนที่ท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ต้องลี้ภัยทางการเมืองไปอยู่ที่ประเทศจีน ๒๑ ปี ก็ได้ไปเรียนดนตรีที่สถาบันกลางแห่งกรุงปักกิ่ง
หลังจากนั้นเมื่อท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ มาพำนักที่ประเทศฝรั่งเศส อาจารย์ดุษฎีก็ได้เป็นครูเปียโนประจำสถาบันดนตรีของรัฐที่เมืองก็อง (Caen) ประเทศฝรั่งเศส และเมื่อกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยหลังจากที่ท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ละสังขารจากไปตามกฎธรรมชาติ ณ บ้านอองโตนี ชานกรุงปารีส เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๒๖ ครอบครัวของท่านก็กลับมาอยู่ที่เมืองไทย อาจารย์ดุษฎี ได้ไปทำงานที่แผนกวัฒนธรรม สถานทูตฝรั่งเศส ประจำองค์กร SEAMEO (The Southeast Asian Ministers of Education Organization)
เมื่อกล่าวถึงดนตรีทำให้น้อมระลึกถึงพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ ๖ เรื่อง “เวนิสวาณิช” (The Merchant of Venice) ที่มีประโยคหนึ่งที่เป็นอมตะว่า
“ชนใดไม่มีดนตรีการ ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก...”
และมีข้อพิสูจน์ที่สด(จากเคซีเอ็นเอ)ไม่กี่วันนี้ได้ว่าแม้ “คิม จอง อึน” ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือก็มีดนตรีอยู่ในสันดานหัวใจ ดังจะเห็นได้ว่า “คิม จอง อึน” ได้ไปฟังการร้องเพลง ยิ้ม-ตบมือและถ่ายรูปกับคณะนักร้องจากเกาหลีใต้ที่ไปเปิดแสดงคอนเสิร์ตที่กรุงเปียงยาง เมื่อ ๑ เมษายน ๒๕๖๑ และยังได้ร้องเพลงได้ปิดท้ายคือเพลง “รวมชาติเกาหลี” เพราะทั้งสองประเทศเป็น “เป็นชาติ เป็นเชื้อ เนื้อเดียวกัน” มาแต่ก่อนแต่ต้องถูกแบ่งแยกโดยเส้นขนานที่ 38 “พันมนจอม” ไปเพราะมหาอำนาจอเมริกา ทำให้เกิดสงครามระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้อันเป็นชนชาติเชื้อเนื้อเดียวกัน
จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีในสันติภาพของชาวโลกที่หวั่นเกรงกันว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามคงไม่เกิดแล้วจากเสียงเพลงรวมชาติเกาหลี ครับ
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ปรีชา สุวรรณทัต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี