เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (เสาร์ที่ 31 มีนาคม 2561) หนังสือพิมพ์แนวหน้า ได้กรุณานำบทความของผม ตามหัวเรื่องข้างต้น (ถือเป็นตอนที่ 1) ลงไปแล้ว
บทความของสัปดาห์ที่แล้ว แสดงความอเนจอนาถ ในการปฏิบัติตนของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคน และบางหน่วย (ถ้าไม่ใช่ หลายคน และหลายหน่วย)
ทำเอาข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งข้าราชการบำนาญ และผู้เกษียณอายุจากงานของรัฐแล้ว ต้องอับอายขายหน้าพ่อค้าประชาชน เหลือเกิน
ก่อนท่านจะสมัครเข้ารับราชการ หรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ท่านควรตะหนักไว้ก่อนว่า หน้าที่ของท่าน คือรับใช้งานของราช หรือของรัฐ ด้วยความสุจริตโปร่งใส รับใช้ประชาชนให้เกิดความสุข ความยุติธรรม และความเสมอภาคขึ้นในประเทศไทย
ถ้าท่านคิดจะรวยแล้ว ก็ควรไปหาอาชีพอื่น ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการหากำไร อันได้แก่กิจการค้า กิจการอุตสาหกรรม กิจการเป็นตัวแทน หรือนายหน้า หรืออาชีพอิสระอื่นๆ เช่น ทนายความ วิศวกร ที่ปรึกษาด้านการเงิน (Financial Advisor) เป็นต้น
ท่านรู้ไหมว่า ในอดีต อาชีพข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าจะเป็น ครู อาจารย์ นายอำเภอ ผู้พัน ผู้กำกับ ผู้การ ผู้ว่าฯ อธิบดี ทูต ปลัดกระทรวง ได้รับการยกย่อง และความเคารพอย่างไร
ถึงแม้ท่านจะเกษียณอายุไปแล้ว ผู้คนเขาก็ยังจะเรียกท่านตามตำแหน่งเดิม ด้วยความนับถือ ว่า
คุณครู อาจารย์
นายอำเภอ ผู้กำกับ
ท่านผู้การ ท่านผู้ว่า
ท่านทูต ท่านอธิบดี
ท่านเลขาธิการ ท่านปลัดกระทรวง
เรียกกันอยู่จนล้มหายตายจากกันไปทีเดียวละ
แล้วถ้าครูบาอาจารย์ ชวนนักเรียนเข้าไปเล่นเซ็กซ์ในม่านรูด แลกกับการให้คะแนน ข้าราชการระดับต่างๆ ไปโกงเงินการกู้ยืมเพื่อการศึกษาและกองทุนเสมาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียน นักศึกษาที่ยากจน ไปโกงเงินคนยากไร้เอาเข้ากระเป๋าตัวเอง ไปรีดไถให้มีเงินทอนวัด ไปรีดไถผู้ใต้บังคับบัญชาที่ต้องการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ไปค้ามนุษย์และค้ายาเสพติดเสียเอง
เช่นนี้แล้ว เมื่อท่านเกษียณอายุไป หากไม่เดินเอาปี๊บคลุมหัว ก็คงจะเดินคอตก มองหน้าใครไม่ติด หรือไม่ไปก็เดินอยู่ในคุกเสียเอง
ขาดความภาคภูมิใจ ในผลงานที่ท่านยอมอุทิศตนมารับใช้ประชาชนอยู่ในหน่วยงานของรัฐ
ขาดศักดิ์ศรีของการทำความดี เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว
สมัยก่อน ไปงานแต่งงาน งานศพ งานสังสรรค์ต่างๆ ได้ยินพ่อค้าประชาชน บ่นว่าข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่คอยรีดไถพ่อค้า ผู้ขอใบอนุญาตต่างๆ ผู้ประกอบการต่างๆ
ฟังแล้วก็อยากจะหลบหน้าออกจากงาน ทั้งๆ ที่เป็นการรีดไถผู้มีฐานะ ผู้จะได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการ หรือผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากงานในหน้าที่ของรัฐ
แต่เดี๋ยวนี้ ท่านเอาจนกระทั่งเงินเดือนของลูกน้องเงินของคนยากไร้ เงินเพื่อบำรุงพุทธศาสนา ตลอดจนค้ามนุษย์ หรือทำผิดกฎหมายเสียเอง
เท่ากับว่า ระดับศีลธรรม และความสำนึกในหน้าที่ของท่าน เสื่อมทรามลงขนาดไหน
ถ้าท่านยังเป็นคนดีอยู่ อย่าไปรอให้คนภายนอก (เช่น นักศึกษาฝึกงาน จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม) ไปโวยขึ้น หรือรอให้ ป.ป.ช., ป.ป.ท. มาตรวจสอบ หรือรอให้ท่านนายกฯส่งผู้ตรวจราชการมาดู
ท่านจะต้องรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน เพื่อหาทางแก้ไข โดยเป็น “กลุ่มช่วยชาติ” จากคอร์รัปชั่น โดยแลกเปลี่ยนสิ่งไม่ดีที่ตนทราบระหว่างกัน หาทางเผยแพร่ให้เป็นที่ประจักษ์ โดยแจ้งผู้บังคับบัญชาที่ดี แจ้งศูนย์ดำรงธรรม แจ้งสื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์, ทีวี โซเชียลมีเดีย เพื่อให้ผู้คนได้รู้ถึงการกระทำที่เลวๆ ของคนในสำนักงานของท่าน ไม่ว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งใดๆ
การรวมตัวเป็นกลุ่มเล็กๆ เช่นนี้ จะทำให้ท่านมีกำลังใจขึ้น ทราบข้อมูลไม่ดีมากขึ้น หรือจะเรียกกันเองว่า กลุ่มหรือ “ชมรมปราบคนชั่ว” ในหน่วยงานของท่านก็ได้
ข้อสำคัญ ระวังอย่าให้มีฝ่ายสอดแนมเข้ามาในกลุ่มของท่านก็แล้วกัน
ขณะนี้ มีเด็กนักเรียน ม.4 ถึง ม.6 ในโรงเรียนต่างๆ ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง ประมาณ 120 โรงเรียนตั้งกลุ่ม “เยาวชนสร้างชาติ” ขึ้นมา เพื่อสังคม และชุมชน ตามกำลังความสามารถของตัวเพื่อหัดและร่วมกันกระทำความดี เมื่อเติบใหญ่จะได้รวมกลุ่มสร้างชาติไทย ให้พัฒนาทันประเทศอารยะทั้งหลายได้ เช่น โรงเรียนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ ก็เพิ่งได้รับรางวัลจิตอาสาดีเด่นไปเมื่อไม่กี่วันมานี้
ถ้ามีโอกาส คราวหน้าผมจะมาวิเคราะห์ให้เห็นว่า โรคคอร์รัปชั่นระบาดมาได้อย่างไร กลายเป็นโรคติดต่อที่เป็นอันตรายร้ายแรงได้อย่างไร และน่าจะมีวิธีแก้ได้อย่างไร
จาก
ข้าราชการบำนาญ
(จากเสมียนถึงปลัดกระทรวง)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี