• มีเพื่อน น้องๆ ผู้เฒ่า ตั้งคำถามว่า “มีความเห็นต่อพรรคการเมืองใหม่และเก่าอย่างไร” @ ผม ได้ติดตาม ข่าวสาระของการไปแจ้งขอจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ กับ กกต. และการแสดงบทบาท ให้ความคิดเห็นต่อสาธารณะ ของบางพรรค รวมทั้งนักการเมืองเก่าๆ ที่ออกมารายวัน จึงขอใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทั้งการต่อสู้ของประชาชนนอกสภา และ สส. สว.ในรัฐสภา และการที่ประสบการณ์ตรง ในการร่วมก่อตั้งพรรคการเมืองและร่วมกับพรรคการเมืองเชิงอุดมการณ์ที่สำคัญ หลักคิดของนักปราชญ์ต่างประเทศ และผู้นำสังคมผู้นำทางความคิดของสังคมไทยฯ ซึ่งผม จะขอนำหลักคิด “เครื่องกรอง 3 ชั้น ของโซเครติส” ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ทั้งอดีตและปัจจุบันมาประยุกต์ใช้ ในการพิจารณา (ซึ่งยากมาก) ในสังคมไทย ที่มีทั้งข่าวจริง ข่าวปล่อย และ Fake News ของฝ่ายต่างๆ ต่อประชาชนไทย ที่มีความอ่อนแอในด้านคุณภาพ โดยเฉพาะการคิดการรับรู้ก่อนเชื่อ
• เครื่องกรอง 3 ชั้น ของโซเครติส : 1.ความจริง 2.ความดี
3.ประโยชน์
เป็นตัวกรองที่ทำให้เรารู้ว่า พรรคการเมืองต่างๆ ที่พูดออกมา เชื่อถือได้ไหม
1.ความจริงคือ เครื่องกรองชั้นที่ 1 ถ้าเราไม่ได้ประสบเรื่องนั้นด้วยตนเอง อย่าเพิ่งแน่ใจเลยว่าเป็นเรื่องจริงแต่ต้องหาความจริงต่อไป
เรื่องความจริง มี 3 เวลา คือ อดีต ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้ว เราสามารถตรวจสอบดูว่า “เขาพูดจริงไหม” ปัจจุบัน เป็นเรื่องที่เขากล่าวเล่าวันนี้ เราสามารถตรวจสอบได้ว่า “สิ่งที่เขาพูด ตรงความจริง หรือไม่” อนาคต ยังมาไม่ถึง แต่เราก็สามารถพิจารณาแนวโน้มได้จากอดีตและปัจจุบัน ที่เขาได้ทำและได้พูด
2.ความดี คือ เครื่องกรองชั้นที่ 2 เรื่องที่นักการเมืองเล่านั้นเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ เรื่องดีนี้ มีรายละเอียดที่จะต้องเจาะลึกลงไปอีกให้ถึง “แก่นความดี” คือ ดีทั้งต่อตัวเอง และส่วนรวม บ้านเมืองและ “ความดี” ต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม และไม่ขัดกับศีลธรรมอันดีงามของสังคม เช่น “การโกง เงิน งบประมาณของประเทศ 5 แสนล้าน” แต่แบ่งไปให้ รัฐมนตรี และ สส.ของพรรค 2 แสนล้าน : รัฐมนตรี และสส. ย่อมบอกว่า “ดี ยอดเยี่ยม” แต่แบ่งไปให้ประชาชน 5 หมื่นล้าน : ชาวบ้าน ก็ย่อมบอกว่า “ดี ดีที่สุด ที่ผ่านมา ไม่มีใครให้มากขนาดนี้” แต่รัฐมนตรี สส. ไม่บอกความจริงชาวบ้าน ว่า “เงินโกงนี้ มาจากประชาชนทั้งชาติ” และเขากินไป 2.5 แสนล้าน
@ แต่ สส.ที่ดี และชาวบ้านชาวเมืองที่รู้ความจริง ก็จะบอกว่า “มันเลวมาก”
และนอกจากนี้ “มัน” ยังใช้เงินที่โกงมานั้น เอามาซื้อเสียง ซื้อสส. ซื้อพรรค เพื่อเข้าไปเป็นรัฐบาลและยิ่งกว่านั้น “มัน” ยังแทรกแทรกข้าราชการ ตำรวจฯ และสนับสนุน “พวกล้มเจ้า” ที่ประชาชนเทิดทูนฯ
3.ประโยชน์คือ เครื่องกรองชั้นที่ 3 เมื่อเราฟังแล้วทำให้เกิดประโยชน์อันใดหรือไม่ โดยประโยชน์นี้ จะต้องหมายถึง “สิ่งที่ดีงาม ถูกต้องชอบธรรม” ทั้งกระบวนการ คือ 1.การได้มา 2.การใช้
3.การนำไปใช้ ต้องเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ประชาชน ส่วนรวมและบ้านเมือง
•ในเมื่อเรื่องที่นักการเมืองกล่าวมานั้นไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเรื่องไม่ดี และไม่มีประโยชน์ เราก็สรุปได้ว่า “เขาไม่ดี” แต่ความจริง นักการเมือง และพรรคการเมือง ทั้งใหม่และเก่า ต่างมีข้อดีข้อไม่ดี มีจุดแข็งและจุดอ่อนของตน เราจึงมาพิจารณาอย่างเป็นรูปธรรม ( และการให้โอกาส) จึงจะเห็นภาพชัด
1.พรรคการเมืองใหม่
พรรคการเมือง ธ.นำเสนอว่า “เป็นพรรคตัวแทนของคนรุ่นใหม่ จะเสนอสิ่งใหม่ที่ก้าวหน้ากว่าพรรคใดๆ”
สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ก่อนตั้งพรรค เป็นนายทุนใหญ่ เป็นธุรกิจที่ผลิตสินค้า ทำแบบสุจริต ไม่เอาเปรียบคนงานไม่เหมือน กับ
ธุรกิจของอดีตนายทุนใหญ่ ที่ร่ำรวยมาจากสัมปทาน “ถ้าไม่มีบิ๊กจ๊อด
ผมก็ไม่มีวันนี้” แต่เคยเป็นนายทุนสนับสนุน “กลุ่มคนล้มเจ้า และพวกก่อความวุ่นวาย เผาบ้านเผาเมือง”
ปัจจุบัน จะละทิ้ง “สิ่งที่ไม่ดี เคยทำผิดไว้” จะขอกลับเนื้อกลับตัว มาตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน สำนึกได้ว่า “เงินสลึงแรกบาทแรก ที่บรรพบุรุษได้มา จนมีวันนี้ เพราะมาอยู่ในแผ่นดินไทย ที่มีสถาบันกษัตริย์”
➢ อย่างนี้ เราอาจจะยังให้โอกาส
แต่หากบอกว่า “จะไม่เอา ไม่ยอมรับ : นายกฯคนนอก” เพราะไม่ตรงกับอุดมคติของตน ตรงนี้จะมีปัญหา ในเรื่อง “การเริ่มต้นด้วยการไม่เคารพกติกาสูงสุด คือ รัฐธรรมนูญ ฉบับลงประชามติ” กำหนดให้ “มีนายกฯคนนอกได้” เพราะเป็นการสรุปบทเรียนในอดีต ที่นายกฯคนในโกงใช้อำนาจมิชอบ แต่หากยอมรับได้ และจะไปรณรงค์ แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่, อันนี้ คือ “หลักประชาธิปไตย” ฯลฯ
2.พรรคการเมืองเก่า
พรรคการเมืองท.นำเสนอว่า “จะกลับมาเป็นรัฐบาลเป็นนายกฯ” เพื่อ “เอาคืน” ก็เป็นสิทธิเสรีภาพของเขา
อดีต “เคยเสนอ นโยบายประชานิยม ซื้อเสียงซื้อพรรค ซื้อ สส. สว.” และใช้อำนาจมิชอบ ขัดรัฐธรรมนูญเจ้าของพรรค โดนศาลฎีกาตัดสินจำคุก หนีคดี ทั้งน้องสาว ทำตามพี่ชาย (เพราะสังคมไทยใจดีกับคนโกง) ปัจจุบันไม่ปฏิรูปพรรคการเมือง ยัง Fake News ยังสนับสนุนกลุ่มล้มเจ้าและกล่าวโจมตี รัฐบาล ทหารรายวัน
ซึ่งความจริง ก็อย่างที่ “เปลว สีเงิน” เขียน “โกงยุคเลือกตั้งมาดังยุค คสช.” : นี่ก็อยากให้เข้าใจกัน........ที่เห็นข่าวโกงโครมๆ อย่าไปลื่นไหลตามพวกจัญไรที่เบี่ยงประเด็นเป็นว่า “รัฐบาล คสช.เข้ามาโกง” รัฐบาล คสช.เขา “เปิดโปง” ที่พวกประชาธิปไตยเลือกตั้งร่วมโกงหมกไว้ตะหาก พรรคนี้ “ดำรงคงเป็นพรรคอยู่” ยังไม่ถูกยุบพรรค เหมือน 2 พรรค ในอดีตที่มีเจ้าของคนเดียวกัน จึงดำรงอยู่ได้
เจ้าของพรรคเป็นคนเก่ง ใช้ยุทธวิธีทุกรูปแบบ ทั้งถูกและผิด, “ใช้สื่อและเงินทุน” โกหกหลอกลวงชาวบ้าน
เมื่อรู้ว่า “รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง” เน้นความเป็นธรรม ใช้ทั้งระบบเลือกเขต และบัญชีรายชื่อ
“ใช้เงิน จ้างผีโม่แป้ง “ จ้างนักการเมือง ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ ที่เป็นนอมินีของตน,ก็เป็นสิทธิ
แต่หากทำความผิดด้วยวิธีการแบบเดิม อย่าคิดว่า “ประชาชนจะโง่ ไม่รู้ทัน” ประชามหาชนมีบทเรียนแล้ว
• พรรคการเมืองเก่าและใหม่ ที่มีเจตนาและเบื้องหลัง ที่คิดไม่ดี “คิดทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์,ยังอยู่ได้เพราะ โชคดี
ที่ผู้นำรัฐ” ใจดี คิดประชาธิปไตย (หรือมีกึ๋นไม่พอ) ยอมให้ “จดทะเบียนและลงสมัครได้” แต่ประชาชน ที่ยึดหลัก “ความจริง ความดี มีประโยชน์” เพื่อบ้านเมือง จะเป็นตัวกรอง ไม่เอา “พรรคไม่ดี” แต่จะคัดกรองเอา พรรคการเมือง นักการเมืองที่ดี คิดและทำเพื่อบ้านเมืองและสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี