อีกสองสามวันก็จะเป็นวันสงกรานต์ หรือเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย ซึ่งถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งตามประเพณีไทย ที่จะเข้าวัดทำบุญ รดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต มีการสรงน้ำพระและเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน
วันนี้จึงขอพูดถึงเรื่องการรู้จักหากำไรให้ชีวิตของตน
เพราะชีวิตของแต่ละคนที่เกิดมานั้นมีการเดินทางอยู่ตลอดเวลา มิได้หยุดนิ่งเฉยอยู่กับที่ ทุกคนต้องการพ้นทุกข์ การดำเนินชีวิตของแต่ละคนจึงมีได้ทั้งกำไร-ขาดทุน ซึ่งขึ้นอยู่กับการประพฤติปฏิบัติตนนั่นเอง ว่าจะตั้งตนไว้ชอบอย่างไร
คำว่า มนุษย์ นั้นแปลว่าผู้มีใจสูง มีปัญญา สามารถเพาะพันธุ์ได้ทั้วดีและเลว บางคนมีจิตใจหยาบกระด้าง ดุร้าย ด้วยอำนาจโทสะ บางคนมีความหิวกระหายอยู่ตลอดเวลา หรือมีแต่ความโลภ อยากได้ไม่รู้จักพอ อันเป็นเหตุให้กระทำในสิ่งไม่ดีเช่นทุจริตคดโกงในเรื่องต่างๆ บางคนเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่รู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ เอาแต่กินแล้วนอน ชอบขอคนอื่นในเรื่องต่างๆที่ตนอยากได้
แต่มนุษย์บางคนมีใจเยือกเย็น มีความเมตตากรุณาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คนอื่น มีกายวาจาเรียบร้อย มีศีลมีธรรม ไม่เบียดเบียนผู้ใด
ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวมีบัญญัติอยู่แล้วในพุทธศาสนา ในเรื่องเกี่ยวกับที่มาที่ไปของการเป็นมนุษย์ ซึ่งได้สั่งสมบุญกุศลมาแต่ปางก่อนอย่างไร
เพราะผลทั้งหลายล้วนเกิดมาจากเหตุ ทำเหตุดีก็ได้ผลดี ถ้าทำเหตุชั่วก็ได้รับผลชั่ว ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัยทั้งสิ้น
การสร้างเหตุปัจจัยให้เป็นไปในทางที่ดีจึงสำคัญมากในการดำเนินชีวิต อย่างเช่น การทำบุญ ให้ทานเป็นต้น จะเป็นเครื่องชำระจิตใจตนให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา และบุญเกิดขึ้นขณะใด บาปก็เกิดไม่ได้ จิตใจก็จะสะอาด ไม่เศร้าหมอง
หรือในการดำเนินชีวิตตนก็เช่นเดียวกัน ต้องรู้จักช่วยตัวเองด้วยการกระทำดี ให้รู้จักความจริงในเรื่องของตัวเอง มีสติรู้สึกตัวในสภาวะความเป็นจริงตลอดเวลา ไม่ฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์
การมีชีวิตอยู่จึงต้องมีไว้เพื่อแก้ทุกข์
ไม่ใช่มีไว้เพื่อหาความสุขอย่างเดียว
จะเป็นกำไรชีวิตที่ใครๆก็แย่งชิงไปไม่ได้
ยิ่งเป็นคนที่มีหน้าที่การงานรับผิดชอบสูงๆ เป็นคนทำงานให้กับผู้คนจำนวนมากที่ตนรับผิดชอบด้วยแล้ว ต้องคิดถึงกำไรที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่นด้วย อย่าได้คิดแต่เรื่องกำไรของตนหรือของพรรคพวกตนเพียงฝ่ายเดียว เพราะถ้าเป็นคนอย่างนี้แล้ว ต่อให้ไปทำบุญที่ไหน ผลบุญที่เกิดขึ้นยังเป็นผลบุญที่เปรียบเสมือนประตูยังเปิดอ้ารับบาปเคราะห์อยู่ได้นั่นเอง
คนมีหน้าที่รับผิดชอบสูงๆ ในบ้านเมืองต้องเข้าใจในเรื่องอย่างนี้ให้มาก จะได้ไม่เป็นคนแบบ “สว่างมามืดไป”
คนที่สว่างมามืดไปที่ว่านี้ก็คือคนจำพวกหนึ่งที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า เป็นคนที่เกิดมาดี มีอำนาจวาสนา แต่เป็นคนประเภทไม่รู้สึกตัวว่าในการทำงานทำการของตนนั้นไม่สนใจใครทั้งสิ้นว่าจะเป็นอย่างไร ใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามใจชอบ ในตอนจบของชีวิตแล้ว ล้วนแต่จบลงอย่างไม่ดีทั้งสิ้น จากเศรษฐีเป็นยากจน จากที่เคยมีอำนาจก็ต้องถูกติดคุกติดตะราง
คนที่สว่างมามืดไปอย่างนี้เคยมีให้เห็นในบ้านเรามาแล้วหลายต่อหลายคน แทบทุกคนไม่มีแผ่นดินอยู่เป็นที่เป็นทาง หรือบางคนก็ต้องจบชีวิตตนในต่างประเทศ
วันสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้ ใครที่มีอำนาจใหญ่โตในบ้านเมือง เวลาไปทำบุญที่ไหนก็ขอให้คิดถึงเรื่องของบุญอันจะเป็นกำไรชีวิตของคนอื่นๆด้วย ซึ่งจะอยู่อย่างเป็นสุข
โดยเฉพาะในเรื่องต่อไปนี้
1. บุญนั้นเสมือนเชือกที่ยึดเหนี่ยวแต่สิ่งดีๆให้ชาวบ้าน
2. บุญนั้นเสมือนเรือที่จะพาชาวบ้านข้ามแม่น้ำ
3. บุญนั้นเสมือนไฟที่เผากิเลสในตัวเองให้รู้จักพอ
4. บุญนั้นเสมือนอสรพิษที่กัดกินความไม่ดีในตัวเองให้หมดไป
5. บุญนั้นเสมือนราชสีห์ที่องอาจกล้าหาญทำลายความชั่วช้าต่างๆที่เกิดขึ้นจากคนรอบข้างให้หมดไป
6. บุญนั้นเปรียบเสมือนเสบียงให้ผู้คนทั้งหลายได้มีกินมีใช้
เอาแค่นี้ก็พอสำหรับการทำบุญวันสงกรานต์ของคนมีอำนาจหน้าที่สูงๆ ของบ้านเมืองในปีนี้ จะเป็นกำไรชีวิตทั้งแก่ตนเองและชาวบ้านในขณะนี้
เสมือนการหว่านข้าวในเนื้อนาที่ดี ผลที่ได้รับย่อมได้ข้าวงอกงาม แต่ถ้าไปหว่านกันอยู่ในที่นาดอน ซึ่งเสมือนหว่านกันอยู่แต่ในวงของตัวเองอย่างเดียว ผลที่เกิดขึ้นก็ไม่งอกงาม การทำบุญเพื่อให้เกิดกำไรแก่ชีวิตทั้งตนเองและคนอื่นจึงต้องรู้จักทำให้เป็นด้วย
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี