อีก 4 วัน พระนางมโหธรเทวี ซึ่งเป็นนางสงกรานต์เวรปีนี้ก็จะเริ่มเข้าเวรตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน 2561 เวลา 09.35 น. เป็นต้นไป โดยจะเสด็จเป็นขบวนเวหายาตราและประทับยืนบนหลังนกยูงในเครื่องทรงไว้ทุกข์ และนั่นหมายถึงความเปลี่ยนแปลงกำลังมาเยือนบ้านเมืองของเราแล้ว
เรื่องหนึ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงแน่นอนก็คือ เรื่องโกงบ้านกินเมืองที่กำลังบานทะโรคเป็นดอกเห็ด จนกระทั่งเกิดเป็นวาทกรรมว่า โกงทั้งแผ่นดินบ้าง โกงฉิบหายวายวอดบ้าง โกงบ้าระห่ำบ้าเลือดบ้าง โกงทุกหย่อมหญ้าบ้าง
จนบ้านเมืองของเราทุกวันนี้ ทุกวี่วันทุกค่ำเช้าเต็มไปด้วยเรื่องข่าวการโกง ถึงจะมีใครขอร้องให้เพลาการเสนอข่าวเรื่องนี้ลงก็ไม่ได้ผล เพราะเรื่องราวโกงใหม่โกงเก่ายังคงผุดขึ้นไม่หยุดหย่อน จึงเหมือนกับการไปขอร้องกองไฟที่กำลังลุกไหม้ลามว่าอย่าไหม้ลามต่อไปเลย ซึ่งไม่มีวันจะได้ผล นอกจากจะต้องดับไฟ
เรื่องราวการโกงบ้านกินเมืองที่เป็นข่าวในทุกวี่วันนี้ ก็ต้องยอมรับกันว่า ส่วนใหญ่เป็นการโกงต่อเนื่อง ตั้งแต่ คสช. เข้ามาบริหารแผ่นดิน จำนวนหนึ่งก็โกงเสร็จกันไปแล้ว แต่ดอกผลของการโกงถูกจับได้ในยุคปัจจุบัน และจำนวนหนึ่งก็เป็นเรื่องที่โกงใหม่ รวมทั้งเรื่องราวที่เป็นข่าวว่าจะโกงกันต่อ จนเป็นเหตุให้มีการแก้ตัวกันจ้าละหวั่นว่าไม่ได้โกงชาติ ไม่ได้ขายชาติ
สภาพเช่นนี้ประชาชนทั้งประเทศจึงฮือขึ้นส่งเสียงเรียกร้องสนั่นหวั่นไหวให้ต้องปราบโกง และรัฐบาลก็ทนอยู่ไม่ได้ ต้องมาขานรับที่ต้องมาเร่งการปราบโกง
เพราะหากนิ่งเฉยไม่ทำอะไรแล้ว ก็อาจถูกกล่าวหาว่าโกงเสียเอง หรือปกป้องอุ้มชูพวกโกงบ้านกินเมืองเสียเองก็ได้
ดังนั้นในวันนี้ ในยามที่นางสงกรานต์เวรองค์ใหม่จะเข้าเวร ทั้งเสียงเรียกร้องให้ปราบโกง และเสียงขานรับที่จะต้องปราบโกง จึงรวมตัวตรงกันเป็นอันดีแล้ว คงเหลือว่าจะปราบโกงอย่างไรให้ตรงกัน นี่จึงสอดคล้องกับวิถีแห่งการเปลี่ยนเวรของนางสงกรานต์
พึงสังวรว่า การกระทำใดที่ไม่สอดคล้องกับวิถีแห่งสวรรค์นั้น ผู้ฝ่าฝืนครองตนไม่สอดคล้องย่อมต้องได้รับอัปมงคล และเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของแผ่นดิน อัปมงคลนี้จึงเป็นอนันตริยกรรม อย่างเบาก็ติดคุก ถูกยึดทรัพย์ เสื่อมเสียชื่อเสียง อย่างกลางก็ไม่มีแผ่นดินอยู่ อย่างหนักก็ถึงการม้วยมรณา
อย่าได้ดูถูกกฎเกณฑ์แห่งกรรมเป็นอันขาด ไม่เห็นตัวอย่างที่เห็นอยู่ตำตาทุกวันหรอกหรือ แม้กระทั่งบางคนที่เรืองอำนาจหนักหนามาแต่ก่อน มาถึงวันนี้ต้องบ้านแตกสาแหรกขาด ต้องไร้แผ่นดิน ต้องวิ่งวุ่นดุจดั่งสัมภเวสีที่ต้องพล่านราวกับเรียกหาส่วนบุญฉะนั้น
ดังนั้นในยามที่ถึงคราวต้องเปลี่ยนแปลง บัณฑิตพึงออกมายืนอยู่แถวหน้า เป็นกองหน้านำพาข้าราชการและประชาชนไปสู่ความเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องเริ่มต้นจากการรื้อถอนสิ่งปรักหักพังทั้งหลาย คือกำจัดขัดขวางคนโกงบ้านกินเมืองออกจากอำนาจให้สำเร็จ จากนั้นก็ส่งเสริมคนดีมีฝีมือให้มีอำนาจในบ้านเมือง ตามที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงอบรมสั่งสอนตลอดมา
ทำให้เหมือนกับที่ประเทศจีนที่กวาดล้างเหล่าพวกโกงบ้านกินเมืองอย่างไม่ไว้หน้า กวาดล้างทั้งเสือและแมลงวันไปเกือบ 2 ล้านคน ยึดทรัพย์สมบัติกลับคืนแผ่นดินกว่า 2 ล้านล้านหยวน จึงเป็นเหตุให้ประเทศจีนหลุดออกจากสภาพถูกโกงชาติได้สำเร็จ
และเมื่อได้ส่งเสริมให้คนดีมีฝีมือมีอำนาจในบ้านเมืองแล้ว ประเทศจีนจึงก้าวรุดหน้าไปอยู่ในแถวหน้าสุดของโลกได้สำเร็จ
นอกจากการปราบโกงอย่างไม่ไว้หน้าแล้ว ก็ใช้มาตรการ 3 อย่าง ในการปราบโกงไปพร้อมๆ กัน คือ
ประการแรก ปลดผู้ที่เกี่ยวข้องกับการโกงบ้านกินเมืองทั้งหมดออกจากอำนาจทันที เพื่อไม่ให้ขัดขวางต่อการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดี
ประการที่สอง ตรวจสอบอายัด และยึดทรัพย์สินที่มีจำนวนมากเกินกว่าจำนวนที่มีรายได้จากรัฐ
ประการที่สาม สอบสวนดำเนินคดีอาญาอย่างรวดเร็ว อย่างเฉียบขาด
จีนเขาไม่ใช้มาตรการคุ้มครองคนโกง โดยย้ายไปนั่งประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นการพักผ่อนชั่วคราวเหมือนบ้านเรา การปราบโกงของเขาจึงได้ผล!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี