เรื่องของบ้านพักผู้พิพากษาดังสนั่นต่อเนื่องจากเรื่องฆ่าเสือดำ แต่บริบทและเป้าหมายของเรื่องนั้นเกือบจะเหมือนกัน โดยสิ่งที่เหมือนกันนั้นก็คือ ต้องการโจมตีรัฐบาลว่าเลือกที่รักมักที่ชัง ไม่มีมาตรฐานในการบริหารบ้านเมือง
เรื่องฆ่าเสือดำเป็นเรื่องที่เกิดในรัฐบาลนี้ ถึงแม้ว่าจะตีรัฐบาลไม่ถนัดนัก เพราะเป็นเรื่องในอำนาจหน้าที่ของระดับหน่วยงาน คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ใช่ความรับผิดชอบกับรัฐบาลโดยตรง แต่ก็พอจัดว่าตีกระทบเป้าหมายได้บ้าง
ส่วนเรื่องบ้านพักผู้พิพากษานั้น ก็กล่าวกันอย่างตรงไปตรงมาได้ว่าต้องการจะตีสถาบันตุลาการ ซึ่งกลุ่มการเมืองบางพวกถือว่าเป็นศัตรูมาช้านานแล้ว และหาโอกาสตีให้ถนัดมือมานานแล้ว แต่สถาบันตุลาการนั้นผ่องแผ้วและมีเกราะคุ้มกันแน่นหนา จึงทำการไม่ถนัด
ส่วนที่จะตีถึงรัฐบาลปัจจุบันก็ไม่ถนัด เพราะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาช้านานแล้ว ที่สำคัญคือขบวนการที่ตีฆ้องร้องป่าวเรื่องนี้ล้วนพากันเงียบแล้วเฉยเมยมาตลอดเวลา ประหนึ่งว่ารู้เห็นเป็นใจให้สร้างบ้านพักดังกล่าวในยุคก่อนๆ มา
จึงไม่สามารถตอบคำถามผู้คนในสังคมได้ว่า เรื่องเกิดมาช้านานป่านนี้แล้ว เหตุไฉนไม่คัดค้านต่อต้านมาแต่ต้น เพิ่งมาแหกปากโวยวายในยามที่มีการใช้เงินแผ่นดินไปเป็นจำนวนมาก และการก่อสร้างก็จวนเจียนจะเสร็จแล้ว จึงทำให้เสียธงธรรมไปเป็นอันมาก อาจถึงกับถูกกระชากหน้าม่านว่าไฉนจึงมาโหวกเหวกโวยวายเอาในตอนนี้
บ้านพักผู้พิพากษาดังกล่าวมีความเป็นมาอย่างไร มาทำความเข้าใจกันสักหน่อยก็คงจะดี จะได้ไม่หลงตามกระแสบ้าๆ บอๆ ดังที่เป็นอยู่
ประการแรก พื้นที่อันเป็นที่ตั้งโครงการนี้เป็นส่วนพื้นล่างของดอยสุเทพ เดิมเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ และในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยได้ออกกฎหมายเพิกถอนพื้นที่ราว 2,000 ไร่ ให้เป็นพื้นที่
ราชพัสดุ เพื่อให้ส่วนราชการได้ใช้สอย โดยระบุชัดเจนว่าเป็นนโยบายของนักการเมืองในรัฐบาลนั้น และเมื่อเพิกถอนเป็นพื้นที่ราชพัสดุแล้ว ก็ให้กองทัพบกเป็นผู้ดูสถานที่
ผู้บัญชาการทหารบกที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็คือญาติวงศ์ของนักการเมืองพรรคไทยรักไทยนั่นแหละ และก็เป็นกลุ่มการเมืองเดียวกันกับพวกที่โหวกเหวกโวยวายในตอนนี้ด้วย
ประการที่สอง ในรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่รัฐมนตรียุติธรรมเกี่ยวข้องเป็นวงญาติกันได้มีการขอใช้พื้นที่จากกองทัพบกจำนวน 400 ไร่ จาก 2,000 ไร่ เพื่อเป็นบ้านพักของผู้พิพากษา โดยหน่วยงานเลขานุการของศาลเป็นผู้รับดำเนินการ ซึ่งต้องทำความเข้าใจให้ชัดว่าผู้พิพากษาหรือตุลาการนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องธุรการและมีหน่วยงานดูแลโดยเฉพาะ
ดังนั้น ในสายตาของผู้รู้จึงมีแต่ความขบขันที่คิดจะตีผู้พิพากษาหรือตุลาการ แต่กลับไปตีเอาเจ้าหน้าที่ธุรการศาล ซึ่งผิดเป้าและได้แต่ทำให้ผู้คนสำคัญผิด
ประการที่สาม เมื่อกองทัพบกได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ หน่วยธุรการของศาลจึงดำเนินการขอตั้งงบประมาณ และเข้าสู่ระบบงบประมาณตามปกติ จนออกเป็นกฎหมายงบประมาณประจำปีที่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาโดยชอบแล้วทั้งสิ้น
การก่อสร้างดำเนินมานับปีก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน พึ่งมาโหวกเหวกโวยวายกันก็ในตอนนี้ ซึ่งเป็นที่สงสัยว่าแฝงนัยการเมืองในประการใดไว้
ที่สำคัญคือจะให้รื้อถอนบ้านพัก ซึ่งทำให้งบประมาณเสียหายนับพันล้านบาท ทั้งๆ ที่ไม่มีสิ่งใดผิดกฎหมาย หรือว่าจะให้ดำเนินการต่อไปจนแล้วเสร็จ จากนั้นก็ปลูกต้นไม้ให้มีจำนวนต่อไร่ตามมาตรฐานของพื้นที่อุทยานซึ่งจะสมประโยชน์ของทุกฝ่าย ซึ่งไม่มีสิ่งใดเสียหาย
ก็อยากจะบอกว่าผู้พิพากษาตุลาการนั้นเป็นส่วนแห่งสถาบันตุลาการ ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับการก่อสร้างบ้านพัก อย่าไปใส่ร้ายป้ายสีท่านโดยไม่เป็นความจริงและไม่เป็นธรรมเลย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี