การเดินหน้าล้างบางคดีทุจริตเงินทอนวัดซึ่งล่าสุดมีการดำเนินคดีกับพระเถระผู้ใหญ่วัดดังในกทม. 5 รูปของ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ถือเป็นปฏิบัติการชำระล้างวงการผ้าเหลืองให้ใสสะอาดครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปีและถือเป็นปฏิบัติการที่มีเดิมพันสูงมากเพราะปัญหาความเน่าเฟะที่สั่งสมฝังรากลึกในวงการสงฆ์มานานจนกลายเป็นขบวนการทรงอิทธิพลที่อาศัยคราบผ้าเหลืองแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์โดยมีเครือข่ายทั่วประเทศที่น่าหวั่นเกรงไม่น้อย
หลังมีการดำเนินคดีกับพระผู้ใหญ่ทั้ง 5 รูป มีข่าวความเคลื่อนไหวของขบวนการอิทธิพลในคราบผ้าเหลืองที่พยายามดิ้นรนต่อต้านการถูกชำระล้าง โดยมีการปลุกม็อบผ้าเหลืองหวังให้ออกมาประท้วงพ.ต.ท.พงศ์พร ซึ่งนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ พ.ต.ท.พงศ์พร ต้องเลื่อนการเข้าแจ้งความดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินทอนวัดเพิ่มเติมในอีก 7 วัดดังของกทม. เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการดำเนินคดีกับพระผู้ใหญ่ 5 รูป ต่อ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ผบก.ปปป.)
สำหรับพระผู้ใหญ่ 5 รูป ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมเป็นเงินราว70 ล้านบาท ไปก่อนหน้านี้ประกอบด้วย 1.พระพรหมดิลก(เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร 2.พระพรหมเมธี(จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการมส.และเจ้าคณะภาค 4-7 3.พระพรหมสิทธิ(ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการมส. และเจ้าคณะภาค 10 4.พระเมธีสุทธิกร(สังคม ญาณวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และ 5.พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ
ก่อนหน้านี้ พศ.มีการดำเนินคดีกับพระผู้ใหญ่ในคดีเงินทอนวัดไปแล้วหลายรูปประกอบด้วย พระครูกิตติพัชรคุณ เจ้าอาวาสวัดลาดแค จ.เพชรบูรณ์ พระราชรัตนมุณี เลขาธิการ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะหนกลาง เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม และเป็นกรรมการมส. พระเทพเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดกวิศราราม ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี และ เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี และ พระครูวิสุทธิวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม กทม.
พูดถึงอิทธิพลของขบวนการเครือข่ายอลัชชีในคราบผ้าเหลืองคงต้องย้อนกลับไปช่วงที่มีการย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมือปราบตงฉินจากรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาเป็นผอ.พศ.ใหม่ๆ พ.ต.ท.พงศ์พร ได้โชว์ผลงานล้างทุจริตในวงการผ้าเหลืองอย่างจริงจังจนเป็นที่ชื่นชมยอมรับของมหาชนเป็นอย่างมาก แต่ด้วยอิทธิพลของเครือข่ายอลัชชีในคราบผ้าเหลืองมีการเคลื่อนไหวกดดันพ.ต.ท.พงศ์พร ด้วยวิธีการต่างๆ นานา อาทิ การรวมหัวกันคว่ำบาตรไม่เชิญ พ.ต.ท.พงศ์พร ไปทำหน้าที่ในพิธีสำคัญทางสงฆ์ ทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่ของผอ.พศ. และจากพลังกดดันของขบวนการอิทธิพลในวงการผ้าเหลืองทำให้มีการเด้งฟ้าผ่า พ.ต.ท.พงศ์พร พ้นเก้าอี้ ผอ.พศ. แต่ด้วยพลังแห่งฟ้าทำให้อำนาจรัฐต้องกลืนน้ำลายมีคำสั่งย้ายพ.ต.ท.พงศ์พร กลับมาเป็น ผอ.พศ.เหมือนเดิม ซึ่งการกลับมาครั้งใหม่ของ พ.ต.ท.พงศ์พร มาพร้อมกับความตงฉินและเด็ดเดี่ยวมากกว่าเดิมในการชำระล้างวงการผ้าเหลืองให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ จนเป็นที่มาของการดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคดีเงินทอนวัดลอตล่าสุดที่มีพระเถระผู้ใหญ่ 5 รูปเข้าไปเกี่ยวข้อง และคาดว่าจะมีพระผู้ใหญ่ถูกดำเนินคดีอีกหลายระลอก
เครือข่ายขบวนการอิทธิพลอลัชชีในคราบผ้าเหลืองเป็นขบวนการใหญ่ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเชื่อมโยงกับสำนักจานบินและพรรคใหญ่บางพรรค รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดง โดยขบวนการอิทธิพลกลุ่มนี้แผ่ขยายอำนาจกล้าแข็งมากที่สุดในยุคที่ “สมเด็จช่วง” เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ทำหน้าที่รักษาการสมเด็จพระสังฆราช และประธานมส.
หลังการดำเนินคดีพระเถระผู้ใหญ่ 3 รูปที่เป็นกรรมการมส.ครั้งล่าสุด อยู่ๆ ทำให้ นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานกลุ่มคนเสื้อแดง ถึงกับต้องออกโรงเชิงปกป้องพระเถระผู้ใหญ่ 3 รูป ที่ถูกดำเนินคดีโดยพยายามตะแบงชี้ว่า คดีเงินทอนวัดตัวการหลักคือข้าราชการในพศ. ส่วนพระนั้นปลายเหตุ ทำไมไม่ไปเล่นงานข้าราชการ ทั้งๆ ที่ความจริงในการแจ้งความเอาผิดคดีเงินทอนวัด 3 ลอตก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารระดับสูงและข้าราชการในพศ.
นางธิดา ฉายา “นางนกแสก” ยังอ้างว่าการดำเนินคดีพระราชาคณะ 3 รูป ครั้งนี้น่าจะมีนัยทางการเมืองโดยเป็นเป้าที่ 3 นับจาก สมเด็จช่วง และวัดพระธรรมกาย พร้อมทั้งอ้างว่าอย่าใช้การเมืองและการทหารมาเล่นงานวงการสงฆ์
ในอดีตเคยมีม็อบผ้าเหลืองออกมาปกป้องสำนักจานบินและสมเด็จช่วงถึงขนาดม็อบพระรุมล็อกคอทหารและพังรถทหารมาแล้ว และมีอิทธิพลถึงกับทำให้ พ.ต.ท.พงศ์พรเคยถูกเด้งเข้ากรุมาแล้วจึงถือว่าไม่ธรรมดา เพราะฉะนั้นการเดินหน้าสังคายนาวงการผ้าเหลืองให้ใสสะอาดของ พ.ต.ท.พงศ์พรขณะนี้จึงอาจเดิมพันด้วยเก้าอี้ ผอ.พศ.ทีเดียว
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี