นับแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา บางประเทศได้ถูกแบ่งออกเป็นสองประเทศและเกิดความขัดแย้งระหว่างกัน จนกระทั่งเกิดการสู้รบกัน ในขณะที่ประชาชาติที่เกี่ยวข้องต่างมุ่งมั่นที่จะให้มีการรวมชาติเข้าเป็นประเทศเดียวกันเหมือนแต่ก่อน
การแบ่งแยกประเทศและอุปสรรคในการรวมชาตินับตั้งแต่เกิดเหตุแบ่งแยกประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่สองย่อมเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปแล้วว่าเกิดจากน้ำมือของชาติมหาอำนาจที่ทำให้เกิดการแบ่งแยกประเทศ
และที่เกิดปัญหาขัดขวางการรวมชาติก็เกิดจากน้ำมือของมหาอำนาจที่เข้าแทรกแซงครอบงำ หรือแสวงหาประโยชน์จากการแบ่งแยกประเทศ จึงทำให้เป็นอุปสรรคที่ทำให้ประชาชาติทั้งหลายที่เกี่ยวข้องต้องตกอยู่ท่ามกลางความทุกข์เข็ญและความขัดแย้ง
สรุปรวมก็คือ มหาอำนาจคือผู้ที่แบ่งแยกประเทศหลายประเทศออกเป็นสองประเทศ และเป็นตัวการที่ขัดขวางการรวมชาติ ซึ่งก่อให้เกิดเป็นปัญหากระทบต่อทั่วโลกเป็นเวลาหลายสิบปี
จนกระทั่งสถานการณ์ของโลกเปลี่ยนแปลงไปในหลายพื้นที่ ทำให้พลังอำนาจและผลประโยชน์ของมหาอำนาจที่จะขัดขวางการรวมชาติต้องอ่อนล้าลง และจำเป็นต้องละวางมือปล่อยให้สถานการณ์เป็นไป
เป็นผลให้เยอรมันตะวันออกและเยอรมันตะวันตกได้รวมชาติกันสำเร็จ กลายเป็นประเทศเยอรมนีดังที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
เป็นผลให้เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ได้รวมชาติกันสำเร็จ กลายเป็นประเทศเวียดนามดังที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
ทำให้หลายประเทศซึ่งแม้ไม่ถึงกับแบ่งแยกประเทศ แต่ก็มีเขตสู้รบเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างประชาชาติเดียวกันสามารถสงบศึกสงครามกลางเมืองได้สำเร็จ เช่น ลาว กัมพูชา พม่า ไทย และในอีกหลายประเทศ
แต่ในท่ามกลางสถานการณ์ที่พัฒนาไปนั้น ก็เกิดการแบ่งแยกประเทศขึ้นอีกในหลายพื้นที่ ดังเช่น ปากีสถาน อินเดีย อินโดนีเซีย และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกหลายประเทศก็ล้วนมีมาแต่เหตุอย่างเดียวกันทั้งสิ้น
ในระดับประเทศที่ยังคงถูกแบ่งแยกเป็นสองประเทศอย่างชัดเจน คงเหลืออยู่ที่เกาหลีที่ยังเป็นเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ และจีน ที่ยังเป็นแผ่นดินใหญ่และไต้หวัน
ความมุ่งมั่นและเจตนารมณ์ของประชาชาติเกาหลีและจีนก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือความต้องการในการรวมชาติ และต่างถือเอาภารกิจในการรวมชาติเป็นภารกิจสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตน
สำหรับประเทศจีน ขณะนี้สาธารณรัฐประชาชนจีนมีความเข้มแข็งในทุกทาง ในขณะที่ไต้หวันก็มีความต้องการของประชาชาติที่จะรวมชาติเข้ากับแผ่นดินใหญ่ ซึ่งในบัดนี้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน และศูนย์การนำที่มีประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง เป็นศูนย์กลางก็กำลังขับเคลื่อนเพื่อการรวมชาติ ในขณะที่ประชาชาติจีนในไต้หวันจำนวนมากขึ้นทุกทีก็ได้ขานรับและสนับสนุนเพื่อให้เกิดการรวมชาติอย่างสันติ
พลังอำนาจของจีนที่ยืนบนขาของตนเองได้ คือเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้การรวมชาติสำเร็จ และเป็นที่คาดหมายว่าการรวมชาติน่าจะเสร็จสิ้นลงในยุคสมัยของสี จิ้น ผิง เป็นแน่แท้
สำหรับเกาหลีนั้น ความสำเร็จในการเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ และสามารถท้าทายต่อแรงกดดันของมหาอำนาจได้สำเร็จ แม้ว่าจะถูกกดดันในขั้นสูงสุดด้วยพลังแสนยานุภาพครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด แต่เกาหลีเหนือก็สามารถยืนหยัดในการพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตยและความเป็นเกาหลีไว้ได้อย่างมั่นคง
ทำให้เงื้อมมือของมหาอำนาจที่กีดกันการรวมชาติต้องล่าถอยออกไป จึงเป็นเหตุให้การเคลื่อนไหวเพื่อการรวมชาติได้ก้าวรุดหน้าไปในขั้นใหญ่ เริ่มตั้งแต่เทศกาลโอลิมปิกที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ ก็ได้บุกเบิกศักราชใหม่ให้แก่การรวมชาติเกาหลีอย่างชัดเจน
มาถึงวันนี้สองเกาหลีสามารถบรรลุข้อตกลงยุติสงครามที่คาราคาซังกันมานับแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่สองได้สำเร็จแล้ว เป็นการปิดฉากยุคสงครามที่วิปโยคของประชาชาติเกาหลีที่ยาวนานที่สุดในศตวรรษที่ผ่านมาและในศตวรรษนี้ได้สำเร็จ
นั่นก็เพราะความสามารถในการยืนบนขาของตนเอง ในการพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตย และการสร้างดุลอำนาจในการต่างประเทศอย่างถูกต้องเหมาะสมจึงได้มาซึ่งเงื่อนไขในการรวมชาติ ซึ่งกำลังก้าวรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ก็คาดหมายได้อย่างเดียวกันว่า การรวมชาติของเกาหลีจะสำเร็จลงในยุคสมัยของประธานาธิบดีคิม จอง-อึน และประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนปัจจุบัน และนี่ก็คือผลงานทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของสองผู้นำในยุคปิดฉากการแบ่งแยกประเทศ สู่ยุคเอกภาพแห่งเกาหลี ดังที่เป็นมาในอดีต
การรวมชาติของจีนและเกาหลีสำเร็จลงวันใด ก็จะเป็นพื้นฐานให้กับสันติภาพของภูมิภาคนี้และของโลกอีกขั้นใหญ่ จะสยบต่อความฮึกเหิมลำพองของมหาอำนาจใหญ่ มหาอำนาจเล็ก ที่เป็นต้นตอของความขัดแย้งและความรุนแรงในภูมิภาคนี้อย่างสิ้นเชิงในอนาคตอันไม่ไกลจากนี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี