ระยะนี้คนไทยที่สนใจข่าวสารที่ค่อนข้างหนักสักหน่อยคงจะต้องได้ยินชื่อ สันธนะ ประยูรรัตน์ แล้วคงจะต้องเฝ้าจับตารอดูว่าในที่สุดแล้ว อดีตตำรวจจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานผู้นี้จะแฉความเน่าเหม็นต่างๆ นานาของสังคมไทยให้กระจ่างชัดบ้าง
หากจะถามกลับว่า แล้วถ้าหากสันธนะไม่แฉสิ่งใดออกมาเลย สังคมไทยจะไม่รู้จริงๆ หรือว่ามีสิ่งเน่าๆ เหม็นๆ มากน้อยเพียงใดสะสมอยู่ภายในสังคมไทย
อันที่จริงคนไทยส่วนใหญ่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าสังคมไทยมีสิ่งเน่าเหม็นอยู่ในสังคมตรงไหนบ้าง แต่คนไทยส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็น หรือมองเห็นแต่ก็พยายามบอกตัวเองว่า “อย่าพูดไป เพราะภัยจะมาถึงตัว” แต่ที่น่าสมเพชยิ่งกว่าคือ คนบางคนถูกกระทำย่ำยีจากกลุ่มคนที่เป็นภัยสังคม แต่ก็ต้องอุตส่าห์ยอมทน ไม่กล้าปริปากบอกใคร โดยเฉพาะไม่กล้าแจ้งความกับตำรวจ เพราะรู้ดีว่าแจ้งไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะฉะนั้นก็จึงต้องยอมทนก้มหน้าต่อไป
มีคำถามว่า หากสันธนะไม่ใช่ตำรวจที่รู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับสิ่งไม่ปรกติของสังคมไทย โดยเฉพาะเรื่องการเรียกค่าคุ้มครอง อดีตตำรวจคนนี้จะกล้าลุกขึ้นมาต่อปากต่อคำกับตำรวจยศสูงๆ มากๆ ของสังคมไทยหรือ ขอถามอีกครั้งว่า คนชั้นล่างของสังคมไทยรายใดบ้างที่กล้าต่อปากต่อคำกับตำรวจยศสูงๆ ของไทย
อย่าลืมว่า สันธนะมีตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออกจากราชการตำรวจคือ รองผู้กำกับการสันติบาล 2 และยังเคยมีตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชากรไทย ถึงแม้เขาผู้นี้จะไม่เคยได้รับคัดเลือกให้เป็นสส.เลยก็ตาม แต่ก็คงจะต้องยอมรับว่าชายผู้นี้น่าจะรู้ตื้นลึกหนาบางของวงการตำรวจไทยบ้าง ไม่มากก็น้อย
ตำรวจด้วยกันเองอาจจะมองสันธนะด้วยสายตาอย่างหนึ่ง ในขณะที่ประชาชนที่มีความเกี่ยวพันกับสันธนะในทางใดทางหนึ่งก็คงจะมองสันธนะด้วยสายตาอีกอย่างหนึ่ง แต่ก็อาจจะมีทั้งตำรวจและประชาชนมองสันธนะด้วยสายตาเช่นเดียวกันก็ได้ ยกตัวอย่างกรณีเรื่องตลาดใหม่ดอนเมือง เรื่องนี้ทำให้ประชาชนที่รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นในตลาดใหม่ดอนเมืองตอบตรงกันว่าสันธนะคือใคร ส่วนผู้ที่เดือดร้อนจากกรณีตลาดใหม่ดอนเมืองก็บอกตรงกันว่าเขาต้องเสียเงินให้กับใครคนหนึ่งซึ่งก็ตอบได้ไม่ชัดเจนว่าชื่ออะไร แต่ถึงเดือนก็ต้องจ่ายเงินให้ บางคนบอกว่าเขาเรียกว่าค่าเช่า แต่เป็นค่าเช่าแบบพิสดาร ส่วนบางคนก็บอกว่าไม่อยากเรียกว่าค่าเช่า แต่อยากเรียกว่าค่าคุ้มครองมากกว่า หลายคนบอกตรงกันว่าที่ผ่านมาต้องจ่ายเงินให้ทุกเดือน แต่ไม่เคยรู้ว่าเงินไปอยู่ที่ใคร
ผู้ค้าขายหลายรายในตลาดใหม่ดอนเมืองบอกตรงกันว่ารู้ว่าที่ดินตรงนี้เป็นของกรมธนารักษ์ แต่ตนเองไม่ใช่ผู้เช่าที่ดินกับกรมธนารักษ์โดยตรง แต่เป็นการเช่าสิทธิ์ต่อจากผู้อื่น จึงไม่ทราบว่ากรมธนารักษ์คิดค่าเช่าแท้จริงอย่างไร
ปรากฏการณ์สันธนะเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏบนยอดภูเขาน้ำแข็งในสังคมไทย โดยคนไทยจำนวนไม่น้อยรู้ดีว่ายังมีปรากฏการณ์คล้ายๆ กับเรื่องนี้เกิดขึ้นในที่อื่นๆ ในสังคมไทยตลอดเวลา และเกิดขึ้นมานานแสนนานแล้ว ไม่ต้องดูอะไรอื่นไกล ดูจากการขายของบนบาทวิถีของถนนสายหลักๆ ในกรุงเทพฯ ก็ยังมีการเรียกเก็บค่าพื้นที่จากผู้ค้า ทั้งๆ ที่เป็นบาทวิถีซึ่งไม่ควรจะถูกแปลงสภาพเป็นตลาด แต่ก็เป็นไปแล้วเรื่องแบบนี้ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ และรัฐบาลไทยจะตอบว่าไม่รู้กระนั้นหรือ จงอย่าโกหกตัวเองอีกต่อไปเลย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี