สถานการณ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศทั่วโลกขณะนี้ เป็นสถานการณ์ที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองของเราต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด เพราะมีผลกระทบมาถึงประเทศเราในด้านความมั่นคงแห่งชาติทุกมิติ ไม่ว่าด้านการเมือง การเศรษฐกิจสังคม หรือด้านการเมืองระหว่างประเทศ อันเป็นผลประโยชน์แห่งชาติที่สำคัญของประเทศเรา
การติดตามเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด จะทำให้มีการเตรียมการอย่างถูกต้องในการเผชิญกับผลกระทบต่างๆที่จะเข้ามาถึง ไม่ว่าจะเป็นแผนการหรือการวางยุทธศาสตร์ที่กำหนดขึ้นเพื่อรับมือกับผลกระทบเหล่านั้นอย่างถูกต้อง
อย่าหลับหูหลับตากำหนดยุทธศาสตร์ชาติไว้ 20-30 ปี อย่างที่ทำกันอยู่ในขณะนี้ เพราะสถานการณ์ทั่วโลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก มีทั้งบวกและลบที่เป็นผลกระทบถึงประเทศชาติบ้านเรา การกำหนดไว้อย่างยืดยาวหรือกำหนดไว้เป็นหลักที่ยาวนานนั้น คือ “วัตถุประสงค์ของชาติ” ซึ่งได้แก่ “ ประเทศไทยมีเอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
สถานการณ์โลกขณะนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมากที่ทุกคน โดยเฉพาะคนที่มีหน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองต้องใส่ใจติดตาม เพื่อระวังป้องกันผลประโยชน์แห่งชาติ และความมั่นคงของชาติ มิให้ตกเป็นเบี้ยล่างของผลกระทบที่จะมาถึง
ตัวแปรที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดได้แก่ ผลจากวิกฤติเศรษฐกิจที่แพร่ระบาดทั่วโลกขณะนี้ ส่งผลให้พลังอำนาจแห่งชาติของหลายประเทศในโลกเสื่อมถอยลง โดยเฉพาะประเทศต่างๆในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้ประเทศต่างๆในภูมิภาคดังกล่าวเหล่านี้หันมาให้ความสำคัญกับปัญหาภายในของตนมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้าสำคัญๆของตนในเรื่องการส่งออกไปยังประเทศดังกล่าว
ระยะเวลาต่อจากนี้ไปอีกหลายปี การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศของโลก ที่เกิดจากการไม่ดูแลธรรมชาติของมนุษย์ จะเปลี่ยนแปลงไปมากจากปกติ บางครั้งฝนจะตกหนักในฤดูแล้งปนกับอากาศหนาว หรือเมื่อน้ำท่วมเสร็จ อากาศก็จะแล้งทันที เป็นผลให้ผลผลิตทางอาหารของโลกลดลง ไม่เพียงพอต่อประชากรของโลกทั่วไป ก่อปัญหาการแย่งชิงอาหาร ในขณะที่ราคาอาหารจะสูงขึ้น ก่อปัญหาให้เกิดขึ้นทางสังคมและการเมืองระหว่างประเทศ รวมทั้งภายในประเทศของตน
ปัญหาด้านพลังงาน ซึ่งเป็นความต้องการทั่วโลกมีสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จากการเพิ่มขึ้นของประชากรในประเทศต่างๆ และการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย ทำให้ต้องมีการแข่งขันกันเพื่อหาแหล่งพลังงาน หรือมีการเสนอผลประโยชน์ที่สูงกว่าในการแลกเปลี่ยน จนเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง หรือแข่งขันอิทธิพลระหว่างกันระหว่างประเทศมหาอำนาจ
สหรัฐฯจะยังคงเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีบทบาทต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาทางเศรษฐกิจขณะนี้ที่สหรัฐฯเผชิญอยู่ ประกอบกับปัญหาที่เกิดขึ้นในที่อื่นๆของโลก ซึ่งมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้น จนทำให้สหรัฐฯโดยลำพังผู้เดียวไม่อาจรับมือได้ เช่น ปัญหาการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ จะเป็นปัจจัยสำคัญกดดันให้สหรัฐฯต้องปรับเปลี่ยนนโยบาย โดยหันมาร่วมมือกับประเทศต่างๆมากขึ้น รวมทั้งอาศัยกรอบความร่วมมือของสหประชาชาติ และกลไกความร่วมมือในระดับภูมิภาคต่างๆ ในการดำเนินนโยบายสำคัญๆของตน โดยเฉพาะในบทบาทความเป็นผู้นำที่มีความรับผิดชอบของโลก
ในด้านการดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯนั้น สหรัฐจะยังคงให้ความสำคัญด้านการต่อต้านการก่อการร้าย และภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ เช่น อาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด การแพร่ขยายของอาวุธที่มีอำนาจในการทำลายล้างสูง ควบคู่กับการผลักดันประชาคมโลกในหลักการด้านประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ระบบการค้าเสรี การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นต้น
ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นเขตผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และกำลังเป็นเขตที่ “จีน” กำลังขยับเข้ามาเรื่อยๆเพื่อแทนที่สหรัฐฯนั้น มีแนวโน้มว่าสหรัฐฯจะเร่งรื้อฟื้นบทบาทและอิทธิพลในภูมิภาคนี้มากขึ้น โดยกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือกับประเทศพันธมิตรดั้งเดิมของตน เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และไต้หวัน ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นรวมทั้งประเทศไทย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศอื่นๆในภาคีอาเซียน
สหรัฐฯจะไม่แสดงออกในการขยายความร่วมมือกับประเทศต่างๆดังกล่าวด้วยวิธีการแสดงพลังอำนาจ แต่จะใช้แนวทางการสร้างความร่วมมือในเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน การแสดงความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจ รวมทั้งการช่วยเหลือในด้านที่จำเป็น และการใช้วิธีการทางการทูตในการเข้าถึงประชาชนมากขึ้น โดยจะหลีกเลี่ยงการใช้หรือการดำเนินนโยบายแบบบีบบังคับ หรือกดดันต่างๆให้ประเทศต่างๆต้องปฏิบัติตาม
นี่คือการประมาณสถานการณ์เกี่ยวกับสหรัฐฯ
ประเทศอีกประเทศหนึ่งที่อยากพูดถึงก็คือจีน
ประเทศจีนพยายามจะเพิ่มบทบาทของตน และอิทธิพลของตนในเวทีโลกมากขึ้น และตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนจากการเป็นประเทศใหญ่ไปเป็นประเทศมหาอำนาจ
ในขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรปยังไม่ฟื้นตัว ทำให้จีนมีความต้องการจะเข้าไปรับผิดชอบในกิจการระหว่างประเทศมากขึ้น ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนจะเน้นการลงทุนนอกประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จีนต้องการเข้ามามีบทบาท
จีนมุ่งสร้างฐานในอาเซียนโดยวิธีการผ่านเขตการค้าเสรี “จีน-อาเซียน” และกลไกต่างๆในอาเชียน ซึ่งจะนำมาซึ่งอิทธิพลของจีนในอาเซียนสูงขึ้นและมากขึ้นนับแต่นี้เป็นต้นไป
จะมีการแข่งขันอิทธิพลที่เข้มข้นมากขึ้นในภูมิภาคนี้
ทำกันอย่างไร และผลเป็นอย่างไร ขอยกไปพูดให้ฟังในตอนต่อไปก็แล้วก็
(อ่านต่อวันศุกร์)
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี