ประเทศไทยมีสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐบาลและเอกชนเป็นจำนวนรวมกันกว่า 200 แห่งปัจจุบันในระดับปริญญาตรีสามารถรับนิสิตนักศึกษาได้มากกว่า 250,000 คน ซึ่งมีมากเกินกว่าความต้องการของประชาชนในขณะนี้เพราะในปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการเพิ่มจำนวนของประชากรลดลงจากปีละประมาณ 1.5 ล้านคน เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เหลือเพียงปีละ 700,000 คน ส่งผลให้จำนวนเยาวชนที่ต้องการเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาลดลงเรื่อยๆ
เมื่อจำนวนเยาวชนวัยศึกษาลดลงการหาที่เรียนในระดับปริญญาตรีก็จะมีปัญหาน้อยผู้เรียนสามารถเลือกเข้าศึกษาได้ตามอัตภาพมหาวิทยาลัยที่มีการแข่งขันเข้าสูงเหลือเพียง 8 – 9 แห่งจากจำนวน 200 กว่าแห่ง ปัจจุบันมหาวิทยาลัยของรัฐ 33 แห่งที่รวมเป็นทปอ.หรือสมาคมอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย
ทปอ.ทั้งหมดจะมีการเลือกประธานทปอ.ทุกๆ ปีประธานคนปัจจุบันคือ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณรัตน์อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ทปอ.เผยว่า จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคมนี้มีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทั่วประเทศ สมัครเข้าทีแคสรอบ 3 รวม 150,382 คน
ศ.ดร.สุชัชวีร์เผยว่าทปอ.ได้แก้ไขปัญหาเว็บสมัครที่แคสล่มได้แล้วโดยปรับปรุงระบบล็อกอินให้เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวเพิ่มผู้เชี่ยวชาญทั้งระบบฐานข้อมูล ระบบการเชื่อมโครงข่าย ระบบการจัดการเว็บไซต์และด้านสถาปัตยกรรมโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ประจำอยู่ศูนย์คอมพิวเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ระบบทีแคส
สำหรับกรณีที่มีผู้ปกครองเรียกร้องให้ยกเลิกระบบทีแคส เนื่องจากมีปัญหาเว็บล่มนั้น ระบบคงเดินหน้าต่อไป เพราะการที่มหาวิทยาลัยต่างๆ มีการปรับระบบเดิมมาเป็นระบบทีแคส ก็เป็นไปตามข้อเรียกร้องจากผู้ปกครอง เนื่องจากระบบเดิมส่งผลกระทบต่อผู้ปกครอง ทำให้ผู้ปกครองเสียเวลางาน เด็กต้องวิ่งรอกสอบ และเสียค่าสมัครจำนวนมาก โดยเฉพาะในงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครเข้ามหาวิทยาลัย
มีการระบุว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 70,000 บาท ระบบใหม่ทำให้เสียค่าใช้จ่าย 20,000 บาท อีกทั้งครูและผู้บริหาร ระบุว่าระบบเดิมทำให้เด็กทิ้งห้องเรียนเมื่อสอบติดแล้วทั้งที่การเรียนม.ปลายเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิต หรือเด็กเก่งสอบติดหลายที่ก่อนจะสละสิทธิ์ใกล้เปิดเทอม ทำให้หลายคนเสียโอกาส ทีแคสจึงเกิดมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้
ปัญหาทีแคสที่เกิดขึ้นในปีนี้เป็นปัญหาทางด้านเทคนิคและสามารถแก้ไขได้ต่อไปในอนาคตระบบทีแคสต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอยากให้ทุกฝ่ายให้เวลากับระบบดำเนินการต่อไปในอนาคตอันใกล้เชื่อว่าปัญหาการเข้าสถาบันอุดมศึกษาจะยิ่งลดลงไปเรื่อยๆ เพราะประชากรของไทยมีปริมาณเยาวชนน้อยลง
ขณะนี้จำนวนนิสิตนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษามีปริมาณในแต่ละแห่งลดลงไปถึงร้อยละ 40 ดังนั้นการแย่งกันเข้าศึกษาต่อจะมีอัตราที่ลดลงตามไปด้วยปัญหาต่อไปจะกลายเป็นว่าไม่มีนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยมากกว่า
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี