ได้พูดให้ฟังในตอนที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ประเทศจีนพยายามจะเพิ่มบทบาทของตน และอิทธิพลของตนในเวทีโลกมากขึ้นในขณะที่ภาวะทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรปยังไม่ฟื้นตัว ประเทศจีนกำลังใช้โอกาสนี้เข้าไปในกิจการระหว่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จีนกำลังมุ่งสร้างฐานผ่านกลไกต่างๆของอาเซียน จะนำมาซึ่งอิทธิพลของจีนในอาเซียนสูงขึ้นและมากขึ้นด้วยวิธีการต่างๆนับแต่บัดนี้
วันนี้มาพูดกันต่อ
ถ้าสังเกตให้ดีและใกล้ชิดจะเห็นการหลั่งไหลของคนจีนที่เข้ามาในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะประเทศไทยของเราที่คนจีนพากันแห่เข้ามา ทั้งนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ แม้กระทั่งนักเรียนนักศึกษาที่หลั่งไหลเข้ามาเรียนตามโรงเรียน หรือวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งหลายคนมองเป็นเรื่องดีในเม็ดเงินที่จะได้รับจากการท่องเที่ยว หรือนำมาใช้จ่ายในประเทศไทย แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปแล้วต้องรู้จักคิดและติดตามให้ดีด้วยในเรื่องดังกล่าว
ถ้าใครได้อ่านบทความเรื่อง “อิทธิพลจีนวันนี้” ของ “คุณกษิต ภิรมย์” ที่เคยเขียนลงในหนังสือพิมพ์ “แนวหน้า” เมื่อเร็วๆนี้ จะพบว่า “มนต์เสน่ห์” ของจีนที่กำลังแพร่ขยายเข้ามาในประเทศต่างๆของอาเซียน เป็น “มนต์เสน่ห์” ที่ไม่ควรหลงใหลจนขาดสติ
“คุณกษิต ภิรมย์” เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเป็นข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศมาก่อน ทั้งยังเคยเป็นเอกอัครราชทูตในประเทศต่างๆมาแล้ว เป็นผู้มีประสบการณ์ในทางการเมืองระหว่างประเทศที่ดี คนหนึ่ง ซึ่งข้อเขียนของ “คุณกษิต ภิรมย์” ในเรื่องที่เขียนไว้ในหนังสือพิมพ์ “แนวหน้า” ดังกล่าวจึงมีข้อคิดดีๆที่น่ารับฟัง
“คุณกษิต ภิรมย์” เขียนไว้สรุปได้ดังนี้
“...ข่าวพาดหัวในประเทศออสเตรเลียขณะนี้ เป็นข่าวเกี่ยวกับมนุษย์จีน ที่เข้าไปในประเทศออสเตรเลีย แล้วมีพฤติกรรมเหมือนฉลามร้าย หรือ จิงโจ้ ที่สร้างความวุ่นวายให้กับสังคมของเขา โดยข่าวได้รายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ ทางการออสเตรเลีย (โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง) ได้เริ่มสังเกตและตระหนักได้ว่า รัฐบาลจีน (ซึ่งปกติคือการปฏิบัติงานตามคำสั่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน) ได้ส่งบุคลากรเข้ามาแฝงตัว แทรกซึมอยู่ในกลุ่มนิสิตนักศึกษาจีน และวงการคนจีนโพ้นทะเลโดยทั่วไป เพื่อทำการสอดส่อง สอดแนม และดำเนินการโน้มน้าวให้มีความรู้สึกนึกคิด โน้มเอียงไปตามทิศทางนโยบายการเมืองของรัฐบาลจีน เช่น โฆษณาชวนเชื่อความดีงามต่างๆของประเทศจีน ปกป้องผลประโยชน์และท่าทีจีน โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อให้ชาวจีนโพ้นทะเลเหล่านี้ได้ช่วยสร้างคะแนนนิยมชมชอบในแวดวงคนออสเตรเลียที่มีต่อจีน
นอกจากนั้นแล้ว ทางฝ่ายความมั่นคงของออสเตรเลียได้ค้นพบเพิ่มเติมอีกว่า ฝ่ายจีนแผ่นดินใหญ่นั้นยังมีการให้เงินให้ทอง ผ่านช่องทางการบริจาคให้กับแวดวงทางการเมืองของ
ออสเตรเลีย เพื่อเป็นการซื้อมิตร ซื้อเพื่อน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการแทรงแซงในการเมืองภายใน หรือกิจการภายในของออสเตรเลียอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการใช้กระบวนการโฆษณาชวนเชื่อ ผ่านการแฝงตัวในหมู่นิสิตนักศึกษาจีนดังกล่าว
เรื่องราวกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่นำไปอภิปรายในรัฐสภาและในที่สุด ได้มีการยกร่างกฎหมายเพื่อปกป้องออสเตรเลีย และคนออสเตรเลีย โดยเฉพาะการที่จะบังคับให้ผู้คนและวงการต่างๆต้องเปิดเผยข้อมูล ว่าด้วยการรับเงินรับทองจากต่างประเทศ และข้อจำกัดต่างๆซึ่งเป็นอำนาจอธิปไตยอันชอบธรรมของคนออสเตรเลีย เพื่อรักษาและป้องกันความมั่นคงปลอดภัย และป้องกันมิให้คนของเขาต้องตกเป็นเหยื่อ เป็นเครื่องมือต่างชาติ ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ข่าวพาดหัวดังกล่าวของออสเตรเลียในเรื่องนี้ ควรนำไปเป็นอุทาหรณ์ต่อทุกประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศไทยเราที่ยังมิได้มีการพูดจาหารือหรือมีการตรวจสอบเกี่ยวกับการแทรกแซงของจีนในแวดวงของไทย ซึ่งคงต้องถึงเวลาแล้ว เพราะคงไม่มีใครอยากตกเป็นจำเลยโดยไม่รู้ตัว ว่าเป็นคนขายชาติ และเป็นเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศ
ตัวมังกรจีนในการ์ตูนนั้น ทั้งหน้าตาน่ารัก ประเทศไทยของเราเองหรือประเทศต่างๆทั้งหลาย โดยเฉพาะในอาเซียน ก็หวังอยากให้มังกรจีนในโลกแห่งความจริง มีพฤติกรรมที่น่ารักแบบเดียวกัน
แต่ในวันนี้ขณะนี้ มังกรจีน นอกจากทำตัวเพ่นพ่าน แผ่อิทธิพลไปทั่วแถบมหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดียแล้ว ยังแอบขึ้นบกมาแทรงแซงในกิจการภายในของประเทศต่างๆอีกต่างหาก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สังคมโลกไม่สามารถยอมรับได้
ก็เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็หวังว่ารัฐบาลประยุทธ์ จะได้ตาสว่าง ตื่นจากภวังค์มนต์รัก มนต์เสน่ห์จีน แล้วหันมาดำเนินการใดๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ และความมั่นคงของชาติไทยกันได้แล้ว”
เป็นข้อเขียนของ “คุณกษิต ภิรมย์” ที่เขียนลงในหนังสือพิมพ์ “แนวหน้า” เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งขอนำมาถ่ายทอดสู่กันฟังอีกครั้งหนึ่ง เพราะเป็นข้อเขียนที่ทันสถานการณ์ปัจจุบันในประเด็นการแผ่อิทธิพลของประเทศจีนปัจจุบันที่กำลังขยายตัวในภูมิภาคอาเซียนขณะนี้
โดยเฉพาะกับประเทศไทยด้วยแล้วมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารประเทศต้องใส่ใจ และเข้าใจในเรื่องอย่างนี้ จะทำอะไรให้คิดถึงผลประโยชน์ร่วมและความมั่นคงของประเทศชาติในระยะยาวด้วย อย่าเต้นตามลูกหาบรอบข้างที่เสนอโน่นเสนอนี่ ให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้ เพราะลูกหาบหลายคนดูจะโปรจีนอย่างผิดสังเกต
(อ่านต่อวันอังคาร)
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี