เดือนพฤษภาคม 2561 เป็นเดือนที่ระลึกของเหตุการณ์ทางด้านการเมืองของประเทศไทยทั้งเหตุการณ์พฤษภาทมิฬในปี 2535 เหตุการณ์การก่อความไม่สงบของคนเสื้อแดงในเดือนพฤษภาคม 2553 และการรัฐประหารล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ขณะที่เหลือระยะเวลาอีก 3 วัน หรือ 72 ชั่วโมง จะครบรอบ 4 ปี หรือ 1,461 วัน มีความเคลื่อนไหวจากพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคการเมืองของระบอบทักษิณพรรคปัจจุบัน
ที่ได้ออกมาวิจารณ์และแถลงข่าวโจมตีคณะทหาร คสช.จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งความจับกุมดำเนินคดีรวม 4 ข้อหา เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลในระบอบทักษิณที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2544 จนถึงกลางปี 2557 รวมเวลาเกือบ 14 ปี นั้นมีการใช้ 3 พรรคการเมืองเข้ามากุมอำนาจรัฐได้แก่ พรรคไทยรักไทยที่ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชาชนที่นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทยที่ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี
แม้ประชาชนส่วนใหญ่จะเทใจและเทคะแนนเสียงให้แก่ระบอบทักษิณก็ตามแต่บรรดาประชาชนที่เป็นคนชั้นกลางและชั้นเศรษฐีในเมืองใหญ่หลายจังหวัดได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่ต้องการรัฐบาลในระบอบทักษิณที่ได้ใช้นโยบายเอาภาษีอากรที่คนชั้นกลางเสียไปใช้จ่ายหาเสียงด้วยระบบประชานิยมอย่างไร้ขอบเขตจำกัดโดยเฉพาะนโยบายใช้เงินหลวงไปรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรซึ่งผลผลิตหลักในช่วงการบริหารของรัฐบาลยิ่งลักษณ์คือข้าวเปลือก
นโยบายตั้งราคารับซื้อข้าวสูงลิ่วแบบไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงทำให้ประเทศต้องสูญเสียเงินไปร่วมๆ 1 ล้านล้านบาท จนเกิดเป็นคดีความหลังการรัฐประหารของคสช.ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เหตุผลในการก่อรัฐประหารของทหารภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นสืบเนื่องมาจากการชุมนุมต่อต้านของประชาชนคนชั้นกลางในกรุงเทพมหานคร ในนามของกลุ่มกปปส. ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำก่อให้เกิดกระแสขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างรุนแรง
เป็นการต่อสู้ระหว่างแนวทางคนชั้นกลางในเมืองที่ผนึกกำลังรวมตัวจากข้าราชการทั่วประเทศ ทหาร ตำรวจ พลเรือน มหาเศรษฐี คหบดีจากทุกสารทิศทุกภาคจะเห็นได้ว่ามาจากคณะศิษย์เก่าที่มาจากทุกๆ มหาวิทยาลัยทั้งของรัฐบาลเอกชนทุกๆ แห่ง ศิษย์เก่าของโรงเรียนมัธยมศึกษาชายและหญิงทั่วประเทศจะมีโรงเรียนเดียวที่เชียงใหม่เท่านั้นที่ไม่ได้มาขึ้นเวทีปราศรัยขับไล่รัฐบาลระบอบทักษิณนอกนั้นมารวมตัวที่เวทีกปปส.ทั้งหมด
เหตุผลในการต่อต้านคนของทักษิณและพรรคเพื่อไทยในช่วงปลายปี 2556 ถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ก็มาจากการที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ฉวยโอกาสออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมความผิดของทักษิณ ชินวัตร แบบสุดซอยกับพวกในสภาแบบใช้เสียงข้างมากของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นทำให้ประชาชนคนชั้นกลางและกลุ่มเศรษฐีไม่พอใจรัฐบาลเป็นอย่างมาก
ปรากฏข้อเท็จจริงที่พรรคเพื่อไทยคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการระดมเงินทุนของกปปส.เป็นไปอย่างท่วมท้นประชาชนคนชั้นกลางบริจาคเงินให้กปปส.เป็นพันๆ ล้านบาท หรือถึงหมื่นล้านบาท ประเด็นนี้แสดงให้เห็นถึงการปะทะระหว่างชนชั้นในสังคมการเมืองประเทศไทย ที่ต่างประเทศเองก็แปลกใจที่ทำไมเมื่อคณะทหารคสช.ออกมารัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จึงมีเสียงแซ่ซ้องทั่วไปเพราะชนชั้นกลางทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของรัฐบาลในขณะนั้น
หลังคณะทหารรัฐประหารก็มีการดำเนินคดีกับการฉ้อโกงทั่วแผ่นดินของรัฐบาลซึ่งประเด็นนี้ตรงกับเหตุการณ์หลังการรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายน 2549 เช่นเดียวกันเพื่อไม่ให้การรัฐประหารล้มเหลวรัฐบาลคสช.จึงได้ชูประเด็นการปฏิรูปการเมืองและการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ปี 2560 เพื่อทำลายระบอบโกงทั่วทั้งแผ่นดินของระบอบทักษิณให้เป็นผลสำเร็จ
ในประเด็นนี้เมื่อมีการเจาะลึกลงไปในรายละเอียดแบบเป็นธรรมแล้ว ผลงาน 4 ปี ของรัฐบาลทหาร คสช.ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ถือว่าสอบผ่านส่วนการจะหาทางป้องกันความแตกแยกไม่ให้ประเทศไทยเกิดกุลียุคเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างชนชั้นเหมือนเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศสโค่นราชวงศ์บูรบองในปี 1789 สงครามกลางเมืองเม็กซิโกในปี 1914 ถึง 1920 สงครามกลางเมืองสเปนในปี 1936-เหตุการณ์ในสเปนปี 1936 นั้นจอมพลฟรานซิสโก้ ฟรังโก ได้ใช้กำลังทหารฝ่ายขวาเข้ามาจัดการกับฝ่ายซ้ายของสเปนที่ประสบชัยชนะได้ก็เพราะกลุ่มประเทศอักษะคือ เยอรมนีและอิตาลีได้เข้ามาช่วยสนับสนุนกองทัพของจอมพลฟรังโก สำหรับไทยนั้นพลเอกประยุทธ์ไม่ใช่จอมพลฟรังโกเพียงแต่มีลักษณะเหตุการณ์ที่คล้ายกันเท่านั้น
วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม กลุ่มคนที่เป็นแนวร่วมของระบอบทักษิณหลายๆ กลุ่มพยายามจุดประกายต่อต้านการรัฐประหารของคสช. เช่นกลุ่มของนายรังสิมันต์ โรม ที่มักจะอ้างคำว่าประชาธิปไตยแต่เบื้องหลังนั้นมาจากไหนและเป็นแนวร่วมของระบอบทักษิณหรือไม่เป็นเรื่องที่คนชั้นกลางต้องรู้เท่าทันและพิจารณาอย่างรอบคอบไม่ตกเป็นเครื่องมือของระบอบโกงบ้านกินเมืองอีกต่อไป
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี