รับฟังการชี้แจงเรื่องที่มีการกำหนดสเปกของใช้ไอทีในรัฐสภาใหม่ ในราคาแพงหูฉี่
เป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทุบโต๊ะ ตีกลับให้ไปทำรายละเอียดมาใหม่นั้น
ฟังแล้ว ก็ยังมีข้อคาใจหลายประการ
1. เรื่องนาฬิกาและไมโครโฟน คณะทำงานได้ร่วมกันชี้แจงว่า
กรณีนำเสนอซื้อไมโครโฟน 135,915 บาทต่อชิ้น
ไมโครโฟนที่แพง อธิบายว่ามีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตรวจสอบยืนยันตัวตนคนพูด จะได้แก้ปัญหาการเสียบบัตรแทนกัน ลงคะแนนแทนกัน
ส่วนนาฬิการาคาเรือนละ 70,000 บาท จำนวนหลายเรือน รอบๆ อาคารรัฐสภา
โดยอ้างว่า เวลาเป็นเรื่องสำคัญในการทำงานของสมาชิกรัฐสภา ทั้งการลงมติ การประชุม ฯลฯ
“สารส้ม” อยากจะบอกว่า ทั้งนาฬิกาและไมโครโฟน ควรเลือกเฉพาะที่จำเป็น และพอเหมาะพอควร
อย่าไปคิดอ้างว่าจะช่วยแก้ปัญหาอื่นๆ ที่เป็นปัญหาเรื่องตัวบุคคลเลย
ประการแรก เรื่องการประชุม สส.ที่มีปัญหาเอือมระอา เข้าประชุมช้าไม่ตรงเวลา ฯลฯ ถามว่า มันเป็นเพราะ สส.ไม่มีนาฬิกาใส่ หรือเพราะ สส.ไม่รู้เวลา จริงหรือ?
คำตอบ คือ ไม่ใช่เรื่องขาดนาฬิกา จนถึงขนาดจะต้องมีนาฬิกาไปติดรอบรัฐสภา
แต่มันเป็็นเรื่องขาดจิตสำนึก
ซึ่งการก่อสร้างสภาใหม่ ไปสร้างให้ สส.ไม่ได้ จะต้องสร้างที่นักการเมือง และประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ประการที่สอง เรื่องไมโครโฟน ควรเอาที่พูดเสียงชัด ไม่อู้อี้ ก็เพียงพอแล้ว
การประชุมสภา ไม่ใช่การประกวดร้องเพลงจะได้เลือกไมโครโฟนที่มีคุณภาพขั้นเทพ
และอย่าไปอ้างเรื่องจะใช้ระบบยืนยันตัวตนเพื่อแก้ปัญหาเสียบบัตรแทนกัน ลงคะแนนแทนกัน เพราะนั่นเป็นเรื่องปัญหาผิดระเบียบผิดกฎหมายของนักการเมือง จะต้องแก้ด้วยการลงโทษคนที่ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาด และสร้างจิตสำนึกความละอายขึ้นมาในหมู่นักการเมือง รวมทั้งประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่ยอมรับกับการกระทำเช่นนี้
2. นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แถลงยืนยันว่า ตนไม่ดื้อกับ ครม. และพร้อมที่จะทบทวนให้อยู่ในความเหมาะสม
“...วันนี้ ผมไม่เอาแล้วครับ ทั้งไมโครโฟน ทีวี นาฬิกา ที่มีราคาแพงแต่จะปรับลดทบทวนทุกเรื่อง เพื่อลดงบประมาณลงมาตามความจำเป็นและความเหมาะสม คิดแล้วว่า เราคงไปไม่ถึงระบบ 4 K คงอยู่ได้แค่ดิจิทัล หรือยุคอะนาล็อก เมื่อก่อน เราคิดว่า ห้องประชุมในอนาคตจะเป็นห้องประชุมไร้สาย เพราะเผื่อเวลาฝนตกแล้วไฟช็อตสมาชิกตายจะทำอย่างไร ดังนั้น เราถึงได้ออกแบบคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อให้รัฐสภาแห่งใหม่ดี เรื่องไอซีทีถ้าลดได้ก็ต้องลด แต่ระบบสื่อสารในอาคารรัฐสภาจะต้องไม่กระทบหรือล้มเหลว” เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกล่าว
จริงๆ แล้ว ระบบไอทีใหม่ ต้องมีความปลอดภัย ไม่ใช่ว่าฝนตกแล้วไฟฟ้าช็อต สส. สว.ตาย ซึ่งมันคนละเรื่องกับประเด็นราคาแพงมหาโหดอย่างที่ถูกท้วงติง
เอาเป็นว่า ถ้าไม่ใช้อุปกรณ์โคตรไอทีตามสเปกที่ถูกท้วงติง แล้วมี สส. สว. ถูกไฟช็อตตาย “สารส้ม” จะช่วยติดตามคดี ตรวจสอบว่า สส. สว.ถูกไฟช็อตตายเพราะการวางระบบไฟฟ้าเลินเล่อ หรือเพราะอะไร แต่ก่อนจะถึงตรงนั้นจะคอยดูว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐคนไหนจะตรวจสอบจนช็อตคาเก้าอี้หรือไม่?
3. นายสรศักดิ์กล่าวว่า บริษัทชิโน-ไทย ทำหนังสือขอสงวนสิทธิ์ เรียกค่าเสียหายในการทำงานปิดฝ้าเพดาน และผนังควบคู่ไปกับระบบไอที ซึ่งถ้างบไอทียังไม่มาและบริษัทจะต้องปิดฝ้าแล้ว เขาจะต้องเรียกค่าเสียหายเป็นมูลค่าพันล้าน ซึ่งตนหนักใจ แต่คิดว่า ตอนนี้จะต้องคุยกับบริษัทดังกล่าว ขอให้เขาเห็นแก่ประโยชน์ราชการ โดยขอให้ผู้รับเหมาอย่าเพิ่งปิดฝ้าเพดาน ทั้งนี้ตนคิดว่า ทุกปัญหามีทางออก
“...กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ก็เพราะบริษัทชิโน-ไทย ทำหนังสือมาถึงจะเรียกร้องค่าเสียหาย หากงบไอทีมาทีหลังก็จะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะต้องทุบตึกที่บริษัทชิโน-ไทยสร้างไว้ ผมก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน สร้างตึกใหม่เสร็จก็เหมือนมาปรับปรุงตึกใหม่อีก หัวหน้าส่วนตายอย่างเดียวเลย ทุกกระทรวง ทบวง กรม สังคมยำเละตอนนี้ก็เชื่อว่าน่าจะมีทางออก แต่ก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร” - นายสรศักดิ์กล่าว
ความเร่งรีบ และเส้นตาย กำลังถูกนำมาอ้างเป็นเงื่อนไขในการเร่งรัดของบประมาณ
ถ้ายังไม่ลืม... เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทางสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา เพิ่งจะต่อสัญญาจ้างก่อสร้างให้แก่บริษัทชิโน-ไทยฯ ออกไปอีก 674 วัน นับจากวันที่หมดการต่อสัญญาครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2561
เกี่ยวกับระบบไอซีทีของรัฐสภาแห่งใหม่ ก่อนหน้านี้ ได้มีการดำเนินโครงการจัดซื้อจัดจ้างการออกแบบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยใช้วิธีพิเศษดำเนินการ
อ้างว่า เพื่อให้การติดตั้งระบบดังกล่าวมีความรวดเร็ว ติดตั้งเสร็จทันเวลากับระยะเวลาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ หากการติดตั้งระบบไอซีทีเสร็จไม่ทันกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จะเป็นเหตุให้ผู้รับจ้างหยิบยกเป็นเหตุผลขอขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไปอีก และเรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐสภา
โดยที่การจัดจ้างออกแบบมีความสำคัญ เพราะจะเป็นตัวชี้ขาดว่า การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างระบบไอซีทีใหม่ทั้งหมดนั้นจะมีรายละเอียดทางเทคนิคอย่างไร สเปกไหน เข้าทางเอกชนรายใด กลุ่มไหน ฯลฯ
ครั้งนั้น นายสรศักดิ์ เคยอธิบายว่า การดำเนินการโดยวิธีพิเศษดังกล่าว สอดคล้องกับระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2555 และการันตีการแต่งตั้งผู้ถูกสอบสวนเกี่ยวกับกรณีทุจริตในสมัยนายสุวิจักขณ์ เป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการโครงการจัดซื้อจัดจ้างการออกแบบไอซีที
ตอนนี้ ฟังความได้ว่า กำลังเร่งให้รีบอนุมัติงบ เพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จ ซึ่งก็จะต้องเป็นไปตามสเปกที่ได้จากการเร่งรีบจัดจ้างออกแบบระบบด้วยวิธีพิเศษก่อนหน้านี้นั่นเอง
น่าสนใจว่า งานนี้ ใครได้งาน อย่างไร?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี