ปี 2561 ได้ผ่านมาเข้าสู่ครึ่งปีแล้วแม้จะมีข่าวแผ่นเสียงตกร่องจากสื่อสารมวลชนฝั่งนายทักษิณที่ชอบไปสัมภาษณ์เอาไมค์จ่อปากพ่อค้าแม่ขายในตลาดบางแห่งแล้วผู้สื่อข่าวมักจะถามว่าเศรษฐกิจในปีนี้ 2561เป็นอย่างไรบ้างคะพ่อค้าแม่ขายคนนั้นก็จะตอบเหมือนเดิมๆ ว่า แย่ค้าขายไม่ค่อยจะดีเลยเศรษฐกิจแย่มากๆเลยซึ่งมันไม่เป็นจริง
คำตอบมักจะเป็นแบบนี้ตลอดเวลาแต่หากท่านผู้อ่านมีใจเป็นธรรมมองไปรอบๆ ตัวให้ดีจะพบว่า 4 ปีหลังรัฐประหารของคสช. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 กับวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 มันมีความแตกต่างและมีข้อเปรียบเทียบที่เห็นได้ชัดเจนเริ่มจากรายได้ประชาชาติ หรือจีเอ็นพี ที่ไทยมีรายได้สูงขึ้นเห็นชัดเจน
โดยปี 2557 สมัยนายกรัฐมนตรีคนสวยคือยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น ไทยมีรายได้ประชาชาติ 800,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2561 ยอดเพิ่มเป็น 1.310 ทริลเลี่ยนดอลลาร์สหรัฐ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยที่ปัจจุบันมีฐานะอันดับที่ 26 ของโลก แล้วจาก 205 ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจดีขึ้นตลอด 4 ปีที่ผ่านมา คือ
ปี 2558 ขยายตัวจากปี 2557 ร้อยละ 2.9 ปี 2559 ขยายตัวร้อยละ 3.2 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 3.9ปี 2561 จะขยายตัวร้อยละ 4.2 และปีหน้า 2562 อาจจะขยายตัวถึงร้อยละ 5 รายได้จากการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวขยายตัวมาตลอดตั้งแต่ปี 2558 ถึง 2561 ปีนี้คาดว่านักท่องเที่ยวจะเข้าไทยถึง 36 ล้านคน เฉลี่ยเดือนละ 3 ล้านคน ทำรายได้เข้าประเทศไทยประมาณ 3 ล้านล้านบาท ถึง 3.2 ล้านล้านบาท
ถึงแม้ปีนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะเขยิบขึ้นมาที่บาร์เรลละ 70 ดอลลาร์สหรัฐ แต่อัตราเงินเฟ้อของไทยก็จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3 หรือไม่เกินร้อยละ 4ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ สำหรับอัตราค่าแรงงานขั้นต่ำวันละ 320 บาทนั้น อาจจะมองว่าต่ำไปแต่จากข้อเท็จจริงการให้ค่าจ้างเอกชนสูงกว่ามากโดยการว่าจ้างต่อวันจะอยู่ที่ 450 ถึง480 บาท มากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำที่รัฐบาลกำหนดถึง 130บาททีเดียว
ส่วนอัตราการว่างงานของประชาชนคนไทยทั้งประเทศนั้นมีอัตราที่ถือว่าต่ำสุดคือมีคนตกงานไม่ถึงร้อยละ 1 จากประชากรในวัยแรงงาน 40 ล้านคน อัตราเงินเดือนพนักงานภาคเอกชนในระดับผู้บริหารระดับกลางคือผู้จัดการแผนกอัตราจ้างอยู่ที่คนละ 100,000 ถึง 130,000 บาทต่อเดือน สำหรับกลุ่มที่จบปริญญามหาบัณฑิต ในขณะที่รัฐวิสาหกิจในอัตราหัวหน้ากองอยู่ที่ 60,000 บาทต่อเดือน และข้าราชการอยู่ที่ 40,000 ถึง 45,000 บาทต่อเดือน
การส่งสินค้าออกในปี 2561 ของไทยคาดว่าจะสูงประมาณ 240,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่าแม้เกษตรกรส่วนใหญ่รายได้จะไม่สูงจากปี 2560 นักแต่ชาวสวนผลไม้และกลุ่มเกษตรที่พัฒนาแล้วจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเกิน 1 ล้านบาทต่อปี หลายแสนครอบครัวเลยทีเดียว
อุตสาหกรรมต่างๆ ของไทยขยายตัวขึ้นอย่างมากปัญหาใหญ่คือประชากรไทยไม่เพิ่ม ไทยต้องใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านถึง 4 ล้านคนต่อปี ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยต้องหาทางเพิ่มจำนวนประชากรให้มากกว่านี้โดยเร็ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี