การเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนคนอยากเลือกตั้งที่นำโดยคณะแกนนำรวม 14 คน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมาที่บริเวณภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์วิทยาเขตท่าพระจันทร์ได้ยุติลงในช่วงบ่ายของวันดังกล่าวหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 3 พันคน ได้ตรึงกำลังตามจุดต่างๆ รอบบริเวณถนนกลางเมือง 3 สายคือถนนราชดำเนินในถนนราชดำเนินกลางและถนนราชดำเนินนอกเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มประชาชนประมาณ 600–700 คนเดินขบวน
เป็นที่ทราบกันดีกลุ่มประชาชนคนอยากเลือกตั้งกลุ่มนี้กว่าครึ่งเป็นขบวนการจัดตั้งของอดีตรัฐบาลในระบอบทักษิณที่ดำเนินการมานาน 3 ปี แล้วมีการปลุกระดมเพื่อมีเป้าหมายล้มรัฐบาลคสช.ภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ได้ก่อนสิ้นปี 2561 นี้เพราะคดีทุจริตต่างๆ ที่พรรคพวกของระบอบทักษิณตกเป็นจำเลยอยู่ในศาลนั้นใกล้จะถึงวาระที่ศาลจะพิพากษาในปีนี้และปีหน้า
การปฏิบัติการของตำรวจโดยการนำของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตำรวจแห่งชาติและพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตำรวจแห่งชาติ ในวันครบรอบ 4 ปี ของการรัฐประหารของ คสช.มีการวางกำลังไว้เป็นจำนวน 15 ถึง 20 กองร้อยทำให้สามารถกดดันกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่มีจำนวน 700 คน ได้อย่างไม่ลำบากนักเพราะการปลุกม็อบของกลุ่มอยากเลือกตั้งทำไม่ได้ผลขาดการสนับสนุนจากประชาชนชาวกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ผู้ทำหน้าที่คุมกำลังตำรวจได้กล่าวถึงความคืบหน้าหลังมีการจับกุมแกนนำคนอยากเลือกตั้ง 14 คน ว่า การสอบปากคำต้องใช้ระยะเวลาสักระยะ หากทำการสอบสวนเสร็จสิ้น จะคุมตัวแกนนำทั้ง 14 คน ไปขออำนาจศาลเพื่อทำการฝากขัง ในส่วนของพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้ง ทั้งนี้ ภาพรวมเหตุการณ์ชุมนุมตลอดทั้งวัน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุรุนแรง มีประชาชนเป็นลม 3 คน
สำหรับ 14 แกนนำ ที่ถูกจับกุมตัวนั้นมีทั้งหมด 14 คน ด้วยกันโดย 10 คนอยู่ที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท ได้แก่ 1.นายเอกชัย หงส์กังวาน 2.นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ 3.นายอานนท์ นำภา 4.น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว5.น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา 6.นายวิโรจน์ โตงามรักษ์ 7.นายพุทธไธสิงห์ ทิมจันทร์ 8.นายคีรี ขันทอง 9.ว่าที่ร้อยตรีภัทรพล จันทร์โคตร 10.นายประสงค์ วางวัน ส่วนอีก 4 คนถูกสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม คือ 11.นายรังสิมันต์ โรม 12.นายปิยะรัตน์ จงเทพ 13.นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ และ 14.นายนิกร วิทยาพันธุ์
ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกแจ้ง 3 ข้อหา ได้แก่ มาตรา 116 ข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย มาตรา 215 ข้อหาผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป หรือกระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และข้อหาขัดคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ร่วมกันมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปโดยนายนิกรนั้นเป็นผู้ใช้คีบตัดแม่กุญแจประตู 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ต้องรอให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แจ้งดำเนินคดีก่อน ถึงจะสามารถแจ้งข้อหา ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และลักทรัพย์ในเวลากลางคืนได้
การกระทำของประชาชนกลุ่มคนอยากเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้ฝ่ายรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาจำเป็นจะต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาดกับม็อบเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและเป็นการไม่ยอมอ่อนข้อกับกลุ่มคนเหล่านี้ซึ่งน่าจะเป็นขบวนการที่จัดตั้งมาจากกลุ่มลูกน้องของระบอบทักษิณที่ดำเนินการมาตลอดที่พื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายๆจังหวัด เช่น นครราชสีมา,ขอนแก่น,อุดรธานีและมหาสารคาม
ความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ น่าจะมีเป็นระยะต่อไปอีกเพราะมีเป้าหมายต้องการล้มรัฐบาลคสช.ทั้งในระยะสั้นคือเวลา 3 เดือน 6 เดือนและหนึ่งปีเป็นการกระทำที่ฝ่ายรัฐบาลและเจ้าหน้าที่คงทราบอยู่แล้ว เป็นที่คาดหมายว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีการรับมอบหมายมาจากนักการเมืองค่อนข้างแน่นอนโดยมีอาจารย์ของหลายๆมหาวิทยาลัยที่มีส่วนรู้เห็นด้วยซึ่งเป็นการกระทำเป็นขบวนการที่มีจุดประสงค์และต้องการหวังผลทางด้านการเมืองเป็นสำคัญ
การยื่นข้อเรียกร้องขอให้มีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนปีนี้เป็นเป้าหมายลวงของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเพราะจากข้อเท็จจริงที่ทางรัฐบาลคสช.นั้นได้ประกาศแน่นอนแล้วว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเหลือระยะเวลาอีกประมาณ 9 เดือนโดยต้องมีการเตรียมการความพร้อมในการบริหารการเลือกตั้งอีกครั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560
ปัญหาในขั้นต่อไปที่รัฐบาลคสช.ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผู้ดูแลความมั่นคงของประเทศก็คือการติดตามความเคลื่อนไหวของแต่ละกลุ่มการเมืองอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้มาสร้างปัญหาและก่อกวนความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองในขณะเดียวกันเมื่อใกล้จะมีการเลือกตั้งรัฐบาลก็จะต้องผ่อนปรนให้พรรคการเมืองปฏิบัติงานการเมืองได้เพื่อสร้างกระแสทางการเมืองที่มีเสรีภาพเช่นเดียวกับนานาอารยประเทศ
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี