หนังสือพิมพ์แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn 4 ปี คสช.ก็อยู่มาดีๆ ปัญหาการเมือง ปัญหาความไม่สงบ ทุกอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอาอยู่ แต่ว่าปัญหาปากท้อง ของแพง ค่าครองชีพสูง เงินเฟ้อนี่สิ มากลายเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะราคาน้ำมันและก๊าซหุงต้มที่ถีบตัวสูงขึ้น...
nn “เสือไท” ไม่ทราบว่าใครป้อนข้อมูลให้ “บิ๊กตู่” ตอบนักข่าวว่า ราคาน้ำมันขายปลีกในบ้านเราที่แพงขึ้นเป็นเพราะกลไกการตลาด และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงถึง 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งก็ถูกต้องในระดับหนึ่ง แต่การให้สัมภาษณ์สั้นๆ แบบนั้น มันเหมือนกับเป็นการ “ปัดสวะ” ไม่ดูดำดูดายชาวบ้านที่เขากำลังเดือดร้อน ผลกรรมเลยไปตกที่ ปตท. ที่บรรดาโซเชียลและการเมืองเข้าไปผสมโรงใช้ประเด็น “น้ำมันแพง” ฉวยโอกาสโจมตี 4 ปีของรบ.-คสช.ว่าล้มเหลวทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน...
nn “บิ๊กตู่” น่าจะทราบดีว่า เรื่องทั้งหลายที่ผ่านโซเชียล ไม่ว่าจริงหรือไม่จริง นักเลงคีย์บอร์ดทั้งหลายเขาพากัน “แชร์” กันเร็วยิ่งกว่าไฟไหม้ป่า กระหน่ำทุกวัน จนรัฐบาลตั้งหลักไม่ทัน...
nn ว่ากันตามจริงโครงสร้างราคาน้ำมันที่แท้จริง ประกอบไปด้วย เนื้อน้ำมัน ภาษีสรรพสามิต ภาษีบำรุงท้องที่ เงินเข้ากองทุนน้ำมัน กองทุนอนุรักษ์พลังงาน และค่าการตลาด นี่คือรวมเป็นราคาน้ำมันต่อลิตร สมมุติ ดีเซล 30 บาทเนื้อน้ำมัน 19 บาท ที่เหลือก็จะเป็นภาษีที่รัฐเก็บได้ 8-9 บาท เงินเข้ากองทุน 2 กองทุน และค่าการตลาด ดังนั้น ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ คนในกระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง น่าจะแอบกระซิบ “บิ๊กตู่” หน่อยว่า ถ้าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลสามารถสั่งกระทรวงพลังงาน นำเงินกองทุนน้ำมัน กองทุนอนุรักษ์พลังงาน มาช่วยได้ หรือสุดท้ายยังมีภาษีสรรพสามิต อีกตัว หากลดภาษีลงลิตรละ 1 บาท ก็ช่วยได้เยอะ นี่ “เสือไท” ไม่ทราบจริงๆ ว่าใครวางยานายกฯ...
nn อย่าลืมว่า น้ำมัน ก๊าซ มันเป็นสินค้าการเมืองไปแล้ว ไม่ว่าจะยุคไหน ก็ถูกด่าไม่ต่างกัน แม้นยุค ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ราคาน้ำมันตลาดโลก 130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาขายปลีกในบ้านเราลิตรละ 40-50 บาท เกือบ 2 ลิตรร้อย ยิ่งลักษณ์ ก็โดนถล่มเละเหมือนกัน จนกระทั่ง บิ๊กตู่ เข้ามานี่แหละ ทำให้ราคาน้ำมันลงจากลิตรละ 40 บาท จนเหลือ 20 บาทต้นๆ ฉะนั้นก็ไม่ลืมว่านี่เป็นผลงานของ “บิ๊กตู่” แต่เมื่อราคาน้ำมันขึ้นอีก แล้วขึ้นพร้อมๆ กัน บรรดาผู้ประกอบการขนส่ง ขนคนทั้งทางบก ทางเรือ ก็จะขึ้นราคา มันเลยทำให้ดูเหมือนว่า รัฐบาลนี้ไม่ยอมช่วยคนจน ซึ่งเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ ถือเป็นบทเรียนที่ “บิ๊กตู่” จะต้องให้ความสำคัญ เพราะเมื่อไหร่ที่กระโจนลงมาเป็นนายกฯในรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อนั้นจะเจอหนักกว่านี้หลายเท่า แล้วถ้าไม่นิ่งพอโอกาสถอดใจก็มี จะเห็นได้จาก นายกฯหลายคนในอดีตที่ลาออก เพราะทนต่อแรงกดดันของประชาชนไม่ไหว...
nn ฮัดเช้ย!!! ในที่สุดกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. ก็ต้องตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อหนุน “บิ๊กตู่” กลับมาเป็นนายกฯอีกรอบ โดยใช้ชื่อพรรคว่า รวมพลังประชาชาติไทย เบื้องต้นจะดึง ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เจ้าของทฤษฎี “2 นัคราประชาธิปไตย” อันโด่งดัง โดยจะยื่นจดแจ้งชื่อพรรคในวันที่ 25 พฤษภาคม แต่ยังไม่ทันไร ปรากฏว่า ดร.เอนก ออกมาปฏิเสธเสียแล้ว อย่างนี้ต้องลุ้นต่อว่าใครจะมาเป็นหัวหน้า ส่วนสมาชิกที่จะลงสส.ก็คงจะมีบรรดาแกนนำที่เคยขึ้นเวที และอดีตสส.ปชป.ที่ไปดึงมาร่วมทัพ คือถ้าหวังสส.สัก 25-30 ที่นั่ง อันนี้พอไหวเพราะเป็นพรรคกระเป๋าหนัก น้ำเลี้ยงไม่แพ้ทักษิณแน่...
nn แต่ไม่ทราบว่าเกี่ยวกันหรือไม่ เพราะกองปราบฯบุกจับ “หลวงปู่พุทธะอิสระ” แห่งวัดอ้อน้อย นครปฐม ข้อหากรรโชกทรัพย์โรงแรมเอสซี ปาร์ค เมื่อครั้งชุมนุมใหญ่ของกปปส. ที่สำคัญ “หลวงปู่” เป็นแกนนำคนสำคัญของกปปส.อยู่ด้วย มาถูกเล่นคดีอาญา แบบนี้เหมือนเป็นการ “เตะตัดขา” พรรคกปปส.หรือไม่ ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ต้อง “เคลียร์” ให้ชัด ไม่เช่นนั้นแผนการตั้งพรรคเพื่อหนุน “บิ๊กตู่” จะเป็น “หมัน” เพราะดันมาเล่นคนกันเอง ทราบแล้วเปลี่ยน...nn
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี