คนไทยจำนวนไม่น้อยต่างงุนงงสงสัยมานานแล้วว่า ตกลงประเทศไทยของเรานั้นมีแหล่งน้ำมันดิบจริงหรือ (ส่วนแหล่งก๊าซธรรมชาตินั้น รู้มานานแล้วว่าประเทศไทยมี)
เหตุที่สงสัยก็เพราะว่า เราทุกคนมักจะได้ยินข่าวจากกลุ่มคนที่ไม่ใช่รัฐบาลประกาศโครมๆ ว่า ประเทศไทยมีแหล่งน้ำมันดิบ และมีมากมายมหาศาลเสียด้วย มากมายจนสามารถส่งออกไปขายให้ต่างชาติได้ แต่ทว่าเรากลับไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ชัดๆ จากปากของรัฐบาล ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนก็ตาม
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เราทราบชัดมาโดยตลอดก็คือ ประเทศไทยต้องนำเข้าน้ำมันสุทธิ หมายความว่าไทยต้องซื้อน้ำมันจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้จ่ายภายในประเทศ
เมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น ก็จึงทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดที่คนไทยใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
เมื่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงแพงขึ้น ราคาสินค้า และราคาข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ก็ปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย (ซึ่งเมื่อปรับขึ้นราคาแล้วก็ไม่เคยปรับลดลงมา แม้ราคาน้ำมันจะปรับลดลงมาก็ตาม) เมื่อราคาข้าวของแพงก็หมายถึงค่าใช้จ่ายประจำวันของผู้คนก็เพิ่มขึ้น จึงส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยทั้งระบบเป็นลูกโซ่
เราทุกคนยังไม่รู้แน่ชัดว่าการปรับขึ้นราคาน้ำมันดิบในครั้งนี้ จะดำเนินต่อไปอีกยาวนานแค่ไหน แต่หากเป็นการปรับขึ้นแบบยาวนานแล้วละก็ รับรองได้ว่าเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบแน่นอน และชาวบ้านร้านตลาดก็จะต้องได้รับผลกระทบจากปัญหาข้าวของแพงโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีผลโดยตรงกับราคาสินค้าทุกชนิด เพราะน้ำมันเชื้อเพลิงคือต้นทุนสำคัญในการผลิตสินค้า เมื่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงแพงขึ้น ก็จึงเรื่องธรรมดาที่ประชาชนจะต้องส่งเสียงโวยวายไปยังรัฐบาล (แต่ไม่ต้องถามว่า ทำไมประชาชนไม่โวยวายกับรัฐบาลในยุคที่น้ำมันมีราคาถูก)
ส่วนรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีก็ควรจะต้องเข้าใจความรู้สึกของประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำมันแพง ข้าวของแพง แต่ได้ค่าแรงถูกแสนถูก เมื่อประชาชนตั้งคำถามเรื่องราคาน้ำมันแพงไปยังรัฐบาล รัฐบาลก็ควรต้องใช้สติปัญญาและข้อเท็จจริงตอบเพื่อให้ประชาชนสิ้นสงสัย เพราะคนไทยส่วนใหญ่คงไม่โง่เสียจนไม่ยอมรับความจริง แล้วถ้าหากคนไทยใช้น้ำแทนน้ำมันได้ ก็คงใช้ไปนานแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้นายกรัฐมนตรีหรือใครๆ มาสั่งสอน หรือขู่ตะคอกในเรื่องนี้
แน่นอนว่านายกรัฐมนตรีคงเครียดกับการบริหารประเทศ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าประชาชนก็เครียดไม่น้อยไปกว่านายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นนายกรัฐมนตรีจึงไม่ควรใส่อารมณ์กับประชาชนเมื่อตนเองเกิดอาการเครียด หากนายกรัฐมนตรีเครียดมากก็ไม่จำเป็นต้องทนอีกต่อไป เพราะอย่างไรเสีย ประชาชนก็ต้องรับปัญหาอยู่วันยังค่ำ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี