ภาพที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ กรูกันเข้าล้อมกุฏิของ หลวงปู่พุทธะอิสระ พร้อมตะโกนเปิดประตูๆนี่ตำรวจ
ก่อนจะใช้ค้อนปอนด์ทุบกุญแจพังประตูเข้าไปภายในที่หลวงปู่พุทธะอิสระจำวัดอยูในมุ้งเพียงลำพัง
เสียงตะโกนแข่งกันของตำรวจนับสิบ “หมอบลงๆๆๆๆ นี่ตำรวจหมอบลงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ดังไม่ขาดสาย ขณะที่หลวงปู่งัวเงียหาเครื่องสบงจีวรสวมใส่
ภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่ซ้ำแล้วซ้ำอีก มันสะท้อนได้ 2 มุมมองของคนในสังคมไทย
สะใจ สมน้ำหน้า ฝ่ายหนึ่ง
สะเทือนใจ เห็นใจ ฝ่ายหนึ่ง
ฝ่ายที่สะใจ คือฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามหลวงปู่พุทธะอิสระ ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส ที่เป็นทั้งอริทางการเมืองและเป็นศัตรูคู่อาฆาตทางพระพุทธศาสนา
ต้องยอมรับว่านับแต่วินาทีที่หลวงปู่เปิดตัวร่วมชุมนุมกับกลุ่มกปปส. ของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ มันได้กลายเป็นการเมืองบทใหม่ที่มีการตั้งคำถามกันว่า พระสงฆ์ไทยเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ด้วยหรือ
ขัดพระธรรมวินัย เป็นกิจของสงฆ์หรือไม่?????
ไม่มีคำตอบเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองช่วงนั้น อยู่ในภาวะที่ไม่มีใครอยากจะเอาคานไปสอดในระหว่างที่เขากำลังหามหมูอยู่
หลวงปู่เองก็บอกว่าการออกมาต่อต้านคนชั่ว คนโกงบ้านกินเมือง ไม่ถือว่าขัดพระธรรมวินัย จนหลวงปู่ได้เป็นแกนนำเวทีแจ้งวัฒนะของกปปส.
ลำพังตัวหลวงปู่ซึ่งเป็นพระสงฆ์ คงไม่มีอำนาจเพียงพอในการจัดตั้งมวลชนได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก ทหาร ตำรวจ นักการเมือง และนักเคลื่อนไหวที่อยู่ตรงข้าม ทักษิณ ชินวัตร
ไม่เว้นแม้แต่ทหารในคสช.!!!!!
สิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามได้รับผลกระทบจากหลวงปู่มากที่สุดก็คือ ยุทธการ “ดาวกระจาย” ไปที่ไหนราบที่นั่น ทั้ง voice tv ทั้ง sc park ล้วนแต่เป็นเป้าหมายทางการเมืองเพราะเป็นของตระกูลชินวัตร
เพราะกปปส. มีภารกิจคือไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ร่างทรงทักษิณ
ตลอดห้วงเวลา 4 ปี ที่คสช.ครองอำนาจ หลวงปู่ก็ยังคงทำหน้าที่เก็บกวาดบรรดาคนชั่วและอลัชชี ทั้งทางโลกและทางธรรม อย่างต่อเนื่องไม่ได้หยุดหย่อน
เป็น “กองหนุน” นายกฯลุงตู่ที่เข้มแข็งที่สุดก็ว่าได้
พอบ้านเมืองหลุดพ้นจากการชุมนุมของม็อบ ตัวหลวงปู่เองก็ยังเทียวไล้เทียวขื่อไปกองปราบฯในฐานะผู้ร้องและผู้ถูกร้อง ไปขึ้นศาลทั้งในฐานะโจทก์และในฐานะจำเลย รวมถึงพยานในการคดีต่างๆ
ก็ไม่เห็นว่าหลวงปู่จะหลบหนีไปไหน เหมือนคนที่ทำผิดและเหมือนพระที่ทำผิดแล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศ
หลายคดีตำรวจออกหมาย หลายคดีศาลออกหมาย หลวงปู่ก็มาทุกครั้ง ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหลบหนีคดีใดเลย
แต่ทำไมเหตุการณ์เช้ามืดวันนั้นถึงได้ทำรุนแรงเพียงนี้
มันจึงมีคำถามว่ากำจัดหลวงปู่พุทธะอิสระแล้วได้อะไร
1.ตัดกำลังกปปส. ที่กำลังตั้งพรรคการเมืองเพื่อหนุนบิ๊กตู่
2.ตัดกองหนุนบิ๊กตู่
3.ขจัดเสี้ยนหนาม ของพระนอกรีตที่ฝังตัวในมหาเถรสมาคม
4.แก้แค้นให้ตำรวจ ทหาร ที่เคยถูกหลวงปู่เล่นงาน
5.ฝ่ายตรงข้ามและฝ่ายเดียวกันได้ประโยชน์
ขยายความข้อ 5 ว่าที่ผ่านมามีหลายครั้งที่หลวงปู่กระทุ้งรัฐบาลในหลายเรื่อง จนอาจทำให้รัฐบาลเองก็ไม่แฮปปี้กับบทบาทของหลวงปู่ การที่ตำรวจบุกจับหลวงปู่ถามว่า บิ๊กตู่กับบิ๊กป้อมทราบหรือไม่
1.ทราบแล้วไฟเขียว
2.ไม่ทราบ
กรณีที่ทราบแล้วไฟเขียว จะทำไปทำไมเพราะก็ทราบดีว่าหลวงปู่เป็นกองหนุนที่สำคัญ ในการกลับมาเป็นนายกฯอีกรอบ ส่วนกรณีที่ไม่ทราบไม่มีใครรายงานก่อน นั่นแสดงว่านายกฯและลุงป้อมถูกวางยา เตะตัดขาสกัดการกลับมาเป็นนายกฯอีก
ใครอยู่เบื้องหลังแผนนี้ ตำรวจมะเขือเทศคนไหนในสตช.?????
มันเป็นคำถามที่ทุกคนอยากรู้คำตอบ!!!!!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี