วันนี้เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนเข้าวัดทำบุญ ทำกุศล ตามวัดต่างๆเพื่อความเป็นสิริมงคลกับตน จึงขอยกวันสำคัญดังกล่าวมาพูดถึงในวันนี้
ตามพุทธประวัติมีว่า พระพุทธเจ้าได้ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ในวันเพ็ญเดือน 6 ได้มีการทำพิธีวิสาขบูชามาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี โดยพระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้นำ ครั้นมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ มีกล่าวไว้ในพระราชพงศาวดารรัชกาลที่ 2 ว่า สมเด็จพระสังฆราชได้ถวายพระพรสนองพระราชดำริให้ทรงทำวิสาขบูชา เมื่อ พ.ศ.2360 และได้ทำต่อๆกันมาจนถึงบัดนี้
ความสำคัญของวันวิสาขบูชานั้น เนื่องมาจากวันวิสาขบูชาตรงกับวันสำคัญในพระประวัติของพระพุทธเจ้าถึง 3 วาระตรงกัน พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้มองเห็นความสำคัญนี้ จึงได้ทำวิสาขบูชาทั่วไป กล่าวได้ว่า บัดนี้พุทธศาสนิกชนทั่วโลกได้ทำวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญที่ไม่ควรละเลย
วิธีทำวิสาขบูชานั้น สรุปเป็น 2 อย่าง คือทำ อามิสบูชาโดยทำการบูชาด้วยวัตถุต่างๆ เช่น ประดับตกแต่งปูชนียสถานในวัดตามประทีปโคมไฟ ธูป เทียน ดอกไม้ และปฏิบัติบูชา คือการปฏิบัติตนตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เช่น ทำบุญทำทาน รักษาศีล ฟังธรรม เป็นการอบรมจิตและปัญญาในธรรม เป็นการบูชาพระพุทธเจ้า ปฏิบัติตนตามคำสอนของพระองค์
ประโยชน์ของการทำวิสาขบูชา คือการได้มีโอกาสทำความดีหลายประการ เป็นเหตุให้ได้รับความสุข ทั้งได้มีโอกาสเข้าใกล้ชิดพระรัตนตรัยทั้งทางกายและใจ หากได้ฟังธรรมก็จะได้ซาบซึ้งในพระพุทธคุณ และมีความเข้าใจในธรรมที่ได้ฟังนั้น เป็นเหตุเพิ่มพูนศรัทธาและสติปัญญา ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์แก่ตนเองทั้งสิ้น
พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้รู้จริง ทรงบริสุทธิ์ ปราศจากเรื่องเศร้าหมองทุกอย่าง ทรงมีพระกรุณาอย่างยิ่ง พระพุทธศาสนาและพุทธบริษัทที่สืบต่อมาถึงบัดนี้ เป็นผลแห่งพระกรุณาของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระศาสดาเอกของโลกผู้เปี่ยมด้วยพระกรุณายิ่งใหญ่ ซึ่งทุกๆคนยังคงได้รับพระกรุณานี้อยู่ทุกกาลสมัย ทุกเวลาที่ได้ปฏิบัติตนตามคำสั่งสอนของพระองค์ ซึ่งคำสั่งสอนที่สำคัญข้อหนึ่ง คือสอนให้รู้จักคุ้มครองรักษาจิต เพราะจิตเป็นศูนย์กลางและผลทั้งปวงที่ได้รับ
นี่เป็นความสำคัญอย่างย่อๆของวันวิสาขบูชา
เข้าวัด ทำบุญ ไหว้พระ ในวันวิสาขบูชาจะได้มีความรู้ความเข้าใจในความเป็นมาของวันวิสาขบูชา เฉพาะอย่างยิ่งเข้าใจในการรักษาจิตของตน เพราะจิตเป็นศูนย์กลางและผลทั้งปวงที่จะได้รับ
ยิ่งคนที่มีอำนาจหน้าที่ในการทำงานด้วยแล้ว โดยเฉพาะงานการที่เกี่ยวข้อง หรือมีผลไปถึงผู้อื่นด้วยแล้ว ยิ่งต้องเข้าใจในการรักษาจิตของตนให้ดี เพราะสิ่งที่กระทำลงไปนั้น มีผลถึงคนอื่นๆด้วยเสมอ
โดยเฉพาะในเรื่องความไม่สงบของจิตใจตัวเอง
เพราะความไม่สงบของจิตใจเป็นเครื่องกั้นสติปัญญา
เอะอะ โว้กว้าก โวยวาย เกิดจากความไม่สงบของจิต จนทำให้ขาดสติยั้งคิดเพราะปัญญาไม่เกิด ว่าการกระทำดังกล่าวจะให้ผลกับตัวเองต่อมาอย่างไร
บางครั้งบางคราว “พูดกับทำ” ไม่เหมือนกันก็มี
คนดีแต่พูดคือคนที่พูดได้สารพัด แต่ตัวเองทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ เช่น บอกให้เขาซื่อสัตย์ อย่าทุจริตคดโกง แต่ปล่อยให้พรรคพวกของตัวเองประพฤติปฏิบัติในทางทุจริตคดโกง หาเงินเข้ากระเป๋าด้วยวิธีต่างๆจากอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ โดยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
ใครจะบอก ใครจะว่า ใครจะแนะอย่างไรไม่สนใจ เพราะเป็นพวกเดียวกัน เรียนมาด้วยกัน หรือเป็นรุ่นที่ไม่กล้าแตะ เป็นต้น
คนแบบนี้แม้แต่เรื่องของ “มงคล 38” ก็ไม่รู้จัก
สิ่งที่เป็นมงคลซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ให้มนุษย์รู้จักปฏิบัติในการดำรงชีวิตให้เป็นมงคลนั้น มีด้วยกัน 38 ประการ ที่เรียกว่า “มงคลสูตร” ประกอบด้วย
1.ไม่คบคนพาล 2.คบบัณฑิต 3.บูชาคนที่ควรบูชา
4.อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม 5.มีบุญบารมีมาก่อน 6.ดำรงตนดี
7.คงแก่เรียน 8.มีศิลปวิทยา 9.มีวินัยที่ศึกษาดีแล้ว
10.มีวาจาเป็นสุภาษิต 11.บำรุงพ่อแม่ 12.สงเคราะห์ลูก
13.สงเคราะห์คู่ 14.การงานไม่คั่งค้าง 15.การให้ปัน
16.มีธรรมจริยา 17.สงเคราะห์ญาติ 18.การงานไม่มีโทษ
19.งดเว้นการทำบาป 20.ไม่ดื่มน้ำเมา 21.ไม่ประมาทในธรรม
22.มีความเคารพ 23.อ่อนน้อมถ่อมตน 24.มีสันโดษ
25.มีความกตัญญู 26.ฟังธรรมตามกาล 27.มีความอดทน
28.เป็นคนว่าง่าย 29.เห็นสมณะ 30.สนทนาธรรมตามกาล
31.บำเพ็ญตบะ 32.มีความประพฤติประเสริฐ 33.เห็นอริยสัจ
34.เห็นนิพพาน 35.จิตไม่หวั่นไหวเมื่อถูกกระทบ 36.จิตไม่มีความโศก
37.จิตไม่มีธุลี 38.จิตเกษม
นี่คือ “มงคล 38” ที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้
นำมาฝากท่านทั้งหลายในวันวิสาขบูชานี้ โดยเฉพาะใครก็ได้ที่มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองขณะนี้ เข้าวัดทำบุญแล้วคิดถึงเรื่องอย่างนี้บ้าง
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี