แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง...nnประเทศไทยมีวัดอยู่ทั่วประเทศเกือบ 4 หมื่นวัด โดยมีทรัพย์สิน ทั้งสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ารวมกันกว่า 20 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินมหาศาล...
nn เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ พุทธศาสนิกชนจึงมีจิตใจอันแรงกล้า โดยเฉพาะในเรื่องของการบริจาคเงินให้วัด รวมไปถึงบริจาคเงินให้พระสงฆ์...
nn ด้วยจิตใจอันแรงกล้าของพุทธศาสนิกชนดังกล่าวนี้ ทำให้ถึงขั้นมีการกล่าวว่า คนไทยนิยมทำบุญ บางคนมีอะไรก็ถวายวัดหมด ให้ความสำคัญกับวัดและพระมากกว่าตัวเองและครอบครัวเสียด้วยซ้ำ เพราะเชื่อว่า ทำบุญชาตินี้เก็บไว้กินชาติหน้า...
nn ฉะนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีการประเมินกันอีกว่า พุทธศาสนิกชนที่เชื่อมั่นและศรัทธาในธรรม ทำบุญและบริจาคเงินให้กับวัดไม่ต่ำกว่าปีละแสนล้านบาท!!...
nn “คชสีห์”ว่า เรื่องทำบุญทำทานไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มันน่าแปลกตรงที่ เงินบริจาคเหล่านั้นไม่มีระบบการจัดการ ไม่มีระบบการตรวจสอบใดๆ ทั้งสิ้น...
nn อย่าลืมและแกล้งทำเป็นลืมกันเป็นอันขาดว่า “วัด” มีสถานภาพเป็นนิติบุคคล จะต้องทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เหมือนๆ กับบริษัท แต่ในทางปฏิบัติแล้ว เจ้าอาวาส ซึ่งใหญ่สุดในวัด จะต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องการบริหารงาน ตลอดจนการบริหารการเงินภายในวัด มีอำนาจในการเบิกจ่ายตลอดจนโอนเงินให้กับผู้หนึ่งผู้ใดก็ได้...
nn อาจจะมีความจริงอยู่บ้าง ในทางทฤษฎี วัดต่างๆ จะมีการตั้งกรรมการวัดเพื่อดูแลการบริหารงานและบริหารการเงินของวัด แต่ในทางปฏิบัติแล้ว กรรมการวัดส่วนใหญ่ก็จะใกล้ชิดกับเจ้าอาวาส ถือเป็นพวกเดียวกัน ฉะนั้น โอกาสที่จะให้กรรมการวัดคอยคะคาน ตรวจสอบอำนาจของเจ้าอาวาสจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้...
nn ระบบการเงินของแต่ละวัด โดยเฉพาะเงินจากการบริจาคของญาติโยม พุทธศาสนิกชน จึงแทบจะพูดได้ว่า เป็นระบบปิด บุคคลภายนอกไม่มีใครจะสามารถตรวจสอบได้...
nn แต่ที่มันเป็นข่าวฉาวโฉ่ขึ้นมา เรื่อง “ทุจริตเงินทอนวัด” ซึ่งเป็นคดีที่สั่นสะเทือนวงการสงฆ์อย่างรุนแรง ก็เพราะเป็นเงินจากภาษีอากรประชาชน มีระบบการตรวจสอบจากภาครัฐ เรื่องราวฉาวโฉ่จึงปรากฏขึ้นกับดงขมิ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน!!..ที่ “คชสีห์” ใช้คำว่า “ไม่เคยปรากฏมาก่อน” ก็เพราะมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ถูกกล่าวหาว่ากระทำการทุจริตจนถึงขั้นต้องสึกออกจากการเป็นบรรพชิตหลายรูป และที่ต้องตะลึงก็คือพระเถระชั้นผู้ใหญ่เหล่านี้ เป็นกรรมการมหาเถรสมาคมถึง 3 รูป..พิจารณากันต่อถึงความสำคัญของมหาเถรสมาคมและรูปแบบการปกครองของคณะสงฆ์ไทย “คชสีห์” คนห่างวัด แต่ใฝ่ธรรมะ อธิบายสั้นๆ ว่า รูปแบบการปกครองคณะสงฆ์ไทยนั้นมีสมเด็จพระสังฆราชฯเป็นประมุขสูงสุด ถัดจากนั้นก็คือคณะกรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งมีพระสงฆ์รวมทั้งสิ้น 20 รูป...
nn ทั้งนี้กรรมการมหาเถรสมาคม 20 รูป จะรวมสมเด็จพระสังฆราชด้วย จะแบ่งเป็นฝ่ายธรรมยุติกนิกาย 10 รูป ฝ่ายมหานิกาย 10 รูป ทั้งฝ่ายธรรมยุตและมหานิกายจะมีชั้นสมเด็จฝั่งละ 4 รูป รวม 8 รูป ที่เหลืออีก 9 รูป จะเป็นชั้นพรหมหรือรองสมเด็จ แบ่งเป็นชั้นพรหมของธรรมยุต 4 รูป ชั้นพรหมของมหานิกาย 5 รูป ส่วนอีก 2 รูป เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม 2 รูป ที่ได้รับแต่งตั้งให้เข้ามาเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม...
nn ที่น่าตกใจก็คือ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ที่ตกเป็นจำเลยของทางการ ปรากฏว่า เป็นพระเดชพระคุณเจ้าชั้นพรหม!!...
nn “คชสีห์” ว่า ในเมื่อเราหนีความจริงกันไม่พ้นว่า มีการทุจริตเรื่องเงินๆ ทองๆ เกิดขึ้นในหมู่สงฆ์ไทยจริงๆ การจับกุมพระสงฆ์ไม่ว่าจะมีสมณศักดิ์สูงขนาดไหนก็ตามที แต่ในเมื่อตัด “ความโลภ” ไม่ขาด มีเรื่องเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ต้องแก้กันที่ต้นเหตุ แค่การจับกุมมันแก้ปัญหาไม่ได้ ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว พอลืมกันๆ ไปก็ต้องเกิดขึ้นอีก ฉะนั้น ในเมื่อต้นเหตุมันอยู่ที่ปล่อยให้วัดอยู่กันแบบอิสระ ไร้การตรวจสอบโดยเฉพาะเรื่องเงินบริจาค ก็ต้องแก้กันที่จุดนี้ก่อนเป็นอันดับแรก หน่วยงานไหนมีหน้าที่ก็ต้องช่วยกันคิดว่าควรจะออกมาในรูปแบบไหน ถือโอกาสวันพระใหญ่ “วันวิสาขบูชา” เริ่มคิด เริ่มสะสาง ถือเป็นอันเหมาะสมที่สุด...
nn สังคมทั่วไป วันที่ 29 พฤษภาคม 2561 เวลา 10.00 น. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดตัวโรงเรียนศิลปะการอาหารและผู้ประกอบการ “คูลิเนอร์” ในงาน THAI FEX – World of Food Asia 2018 ณ อาคารอิมแพค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 8 เมืองทองธานี
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี