“กรมตำรวจ” ในอดีต ผู้ที่นั่งในตำแหน่ง “อธิบดีกรมตำรวจ” ไม่มีใครจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจเลย ต่อมามีนายตำรวจระดับรองอธิบดีกรมตำรวจตั้งก๊วนกันขึ้นมาและมีการปรึกษาหารือกันว่าตำแหน่ง “อธิบดีกรมตำรวจ” ควรเป็นนายตำรวจที่จบมาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจเท่านั้น ทุกคนเห็นดีด้วยช่วยกันวางแผนโค่น “อธิบดีกรมตำรวจ” ด้วยการไปปรึกษาหมอที่มีศักยภาพมากกว่าหมอธรรมดาเพราะคนไข้ของหมอคือ “นายกรัฐมนตรี” .....ในอดีต “กองทะเบียน” ขึ้นตรงต่อ “กรมตำรวจ” มีหน้าที่ควบคุมดูแลอนุญาตให้มีใบขับขี่ จดทะเบียนรถทุกชนิด การขอใบอนุญาตซื้ออาวุธปืนและขออนุญาตมีใบพกปืน สถานบริการอาบอบนวดสถานบันเทิงต่างๆ และโรงแรมทุกชนิดจะต้องมาขอใบอนุญาตจาก กองทะเบียนตำรวจ แม้กระทั่งสิ่งพิมพ์ทุกชนิด วิทยุ ทีวี ภาพยนตร์ จะทำการฉายจะต้องให้ตำรวจกองทะเบียนทำการคัดกรองจึงจะนำออกฉายได้ยังมีรายละเอียดอีกหลายอย่าง..... นายตำรวจกลุ่มนี้ได้วางแผนให้หมอไปขอเลขทะเบียนรถยนต์หมายเลขตอง 1 จาก“กรมตำรวจ” ผ่านนายกรัฐมนตรีซึ่งมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับหมอคนนี้ อดีตนายกฯจึงขอมาที่ “อธิบดีกรมตำรวจ” ท่านรีบอนุมัติทันทีเนื่องจากเป็นเลขตอง 1 ท่านนายกฯ ควรได้รับเมื่อนายกฯได้รับแต่ให้ทะเบียนรถตอง 1 ใส่ชื่อหมอ ต่อมากลุ่มนายตำรวจที่ต้องการตำแหน่ง “อธิบดีกรมตำรวจ” ยุให้หมอไปขอเลขรถทะเบียนตอง 5 อีกกับท่านนายกฯ เนื่องจากนายตำรวจกลุ่มนี้รู้ว่าทะเบียนรถตอง 5 ลูกชายท่าน “อธิบดีกรมตำรวจ” นำไปจดทะเบียนแล้วจึงยุให้หมอไปขอเลขทะเบียนรถตอง 5 จากท่านอธิบดีกรมตำรวจ เมื่อท่านอธิบดีกรมตำรวจตรวจสอบทราบว่าลูกชายท่านนำไปจดทะเบียนแล้วจึงได้ปฏิเสธไปทำให้หมอไม่พอใจยุแหย่ท่านนายกฯกล่าวหาว่า “อธิบดีกรมตำรวจ” ท่านนี้แข็งเมืองสมควรย้ายไปประจำที่ “สำนักนายกรัฐมนตรี” และสมควรแต่งตั้ง “อธิบดีกรมตำรวจ” ที่จบมาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ นายกรัฐมนตรีจึงลงนามย้ายอธิบดีคนเก่าออกและตั้งคนใหม่แทนเป็นนายตำรวจที่จบมาจาก “โรงเรียนนายร้อยตำรวจ”.... ที่ผ่านมาการย้ายอธิบดีกรมตำรวจง่ายมากเนื่องจากไม่มีกฎเกณฑ์อะไรเลย แต่มาในยุคนี้ การจะย้าย “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” นั้นมีขั้นตอนพอสมควรการที่พระถูกจับด้วยข้อหาร้ายแรงมากแต่หมอกลับมายุท่านนายกรัฐมนตรีให้ใช้ ม.44 ย้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินั้นคิดว่าเหมาะสมแล้วหรือ หมอศึกษาแล้วหรือยังว่าคดีที่พระถูกจับร้ายแรงมากถ้าหมอเข้ามาก้าวก่ายจะถูกข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับพระทำความผิดที่ร้ายแรงมากหมอจะดิ้นไม่ออก เรื่องที่เกิดกับพระไม่มีใครกลั่นแกล้งพระท่านสร้างปัญหาที่เกิดขึ้นเองและท่านก็รู้ว่าความผิดที่ท่านทำลงไปจะต้องโทษหนักเพียงไร คุณหมอควรอยู่เฉยๆ ดีกว่าผู้บริหารประเทศแต่ละท่านเขา ปลีกตัวออกมาหมดแล้ว หมอควรพิจารณาให้ดีว่างานนี้ท่าน ผบ.ตร.ท่านปฏิบัติตามหน้าที่ จะปลดท่านได้อย่างไรคิดให้มากตรวจสอบให้ดีแล้วหมอจะคิดได้เองว่าควรถอยออกมาหรือไม่ “กรรมใดใครก่อขอให้เขาเป็นผู้รับไป”....สวัสดีครับ
เกลือสมุทร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี