ตามปกติของคนที่ไม่มีสติมักจะมีจิตใจฟุ้งซ่าน คิดโน้น คิดนี่ คิดนั่นตลอดเวลา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความคิดที่ปราศจากประโยชน์ คนขาดสติมักจะคิดไปเรื่อยเปื่อย แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ คนขาดสติจะเป็นคนที่หลงตัวลืมตัว
คุณลองถามตัวคุณเองสิว่า คุณเป็นผู้มีสติกำกับตัวเองตลอดเวลาหรือไม่ หรือว่าคุณลองถามตัวเองอีกครั้งสิว่า เวลาเมื่อคุณขาดสติ คุณต้องประสบกับปัญหาอะไรบ้างในการดำรงชีวิตของคุณ
ประเด็นต่อมาคือ อยากจะถามคุณว่า ในแต่ละวันนั้นคุณขาดสติเพราะหลงอยู่กับการหมกมุ่นอยู่กับระบบอินเตอร์เน็ต, Social Media, Smart Phone, Line, FaceBook, Instagram, Social Liv, App, Website, และ platform ต่าง ๆ นานา ยาวนานวันละกี่ชั่วโมง
จากข้อมูลของ Hootsuite และ Wearesocial ที่สำรวจสถิติการใช้งานด้านดิจิทัลของผู้คนในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเดือนมกราคม 2018 ระบุในส่วนของประเทศไทยว่า ประเทศไทยมีประชากร 69.11 ล้านคน มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 57 ล้านคน ในจำนวนนี้พบว่า 51 ล้านคนอยู่ในกลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เน็ตแบบเข้มข้นคือแทบจะตลอดเวลา และพบว่าคนไทย 55.56 ล้านคน ใช้โทรศัพท์มือถือ โดยจำนวน 46 ล้านคน ใช้โทรศัพท์มือถือแบบ Smart Phone โดยตลอดเวลา
จากข้อมูลยังระบุว่า มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 24 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลา 1 ปี และผู้ใช้ระบบ Social Media เพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์ใน 1 ปี มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ และผู้ใช้โทรศัพท์มือถือใช้งาน Social Media เพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์
ที่น่าสนใจแบบน่าตกใจคือคนไทยใช้เวลาโดยเฉลี่ยในการอยู่กับอินเตอร์เน็ตวันละ 9 ชั่งโมง 38 นาที โดยเฉลี่ยในหนึ่งวันใช้ Social Media 3 ชั่วโมง 10 นาที และใช้เวลาโดยเฉลี่ยเพื่อการรับชม broadcast streaming และ Video on Demand วันละ 4 ชั่วโมง 3 นาที และใช้เพื่อการฟัง Streaming Music เฉลี่ยวันละ 1 ชั่วโมง 35 นาที
ความถี่ในการใช้อินเตอร์เน็ต คือ 90 เปอร์เซ็นต์ใช้ทุกวัน 8 เปอร์เซ็นต์ใช้อย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ 2 เปอร์เซ็นต์ใช้อย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน และไม่มีใครเลยที่จะไม่ใช้อินเตอร์เน็ตภายในหนึ่งเดือน (หมายถึงบุคคลที่ถูกสำรวจ)
ในหนึ่งสัปดาห์ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่ออะไรบ้าง ผลสำรวจพบว่า 37 เปอร์เซ็นต์ใช้ Search Engine และ 100 เปอร์เซ็นต์ใช้ Social Network โดยใช้เพื่อดูวิดีโอ เล่นเกมอินเตอร์เน็ต และเพื่อค้นหาสินค้าอื่น ๆ
อันที่จริงผลการสำรวจยังมีรายละเอียดการใช้อินเตอร์เน็ตของคนไทยในกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย แต่จะขอละไว้ ณ ที่นี่ก่อน โดยจะกลับไปที่จุดสำคัญของเรื่องที่จะชวนคุณคุยในวันนี้คือ คนไทย (รวมถึงคุณด้วย) ใช้อินเตอร์เน็ตมากเกินไปหรือเปล่า มากเสียจนคุณไม่สามารถจะอยู่ได้ตามปกติถ้าหากขาดอินเตอร์เน็ต
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนขอย้ำว่าอินเตอร์เน็ตไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ถ้าหากคุณใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างเหมาะสม แต่มันจะกลายเป็นซาตานทันที หากคุณตกเป็นทาสของมัน และหมกมุ่นอยู่กับมันอย่างหน้ามืดตามัว
ทุกวันนี้ เราจะพบว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยรู้สึกกระสับกระสาย กระวนกระวายมากมายจนดูเหมือนคนใกล้บ้า เมื่อยามที่รู้ว่าแบตเตอรีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนของตนกำลังจะหมด หรืออาจจะยังไม่หมดจนเกลี่ยง แต่เพียงคนบางคนเห็นว่าแบตเตอรีโทรศัพท์มือถือเหลือเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ ก็เกิดอาการกระสับกระสาย ต้องรีบหาที่ชาร์ตแบตเตอรี หรือต้องควานหา power bank โดยฉับพลัน
หลายคนตั้งคำถามอันดับแรกว่า สถานที่ที่ตนกำลังจะไปนั้นมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตวายฟายหรือไม่ หรือหลายต่อหลายคนอีกเช่นกันที่รู้สึกกระวนกระวายจนไม่สามารถควบคุมสติได้ เมื่อสมาร์ทโฟนหรือเทปเล็ตของตนเชื่อมต่อสัญญาณวายฟายได้เชื่องช้า
และคุณทราบแล้วใช่ไหมว่า ผลการสำรวจระบุว่าคนไทยใช้อินเตอร์เน็ตในแต่ละวันยาวนานมากกว่าชนชาติใดบนโลกใบนี้ (ควรจะภูมิใจ ใช่หรือไม่) แล้วก็ยังพบว่าคนกรุงเทพฯ เป็นแชมป์เมืองที่มีผู้ใช้ FaceBook มากที่สุดในโลก (ช่างน่าภูมิใจเสียนี่กระไร)
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วที่คนไทยจำนวนไม่น้อยจะต้องมองหาที่ชาร์ตแบตเตอรีโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา พอ ๆ กับต้องถามก่อนว่าสถานที่นั้น ๆ มีสัญญาณวายฟายหรือไม่
ทำไมคนไทยจำนวนไม่น้อยจึงให้ความสำคัญและจดจ่อกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ ทำไมเราจึงสนใจการเติมพลังงานให้กับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนตลอดเวลา แต่เราเคยบ้างหรือไม่ที่จะคิดเติมพลังใจให้กับตัวของเราเอง ทุกครั้งที่เราเติมพลังงานให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า เราเคยถามใจตัวเองไหมว่าใจของเรามีกำลัง และมีพลังใจมากน้อยเพียงใด หรือว่าเราเป็นพวกที่มีพลังงานในอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์มากมาย แต่เราไม่สนใจที่จะเติมพลังใจให้กับใจของเรา
เป็นเรื่องน่าตลกไหมที่เรามีพลังงานในเครื่องมือมืออิเลกทรอนิกส์เต็มเปี่ยมชนิดที่ไม่เคยขาด แต่ทว่าเรากลับเป็นคนที่ไม่มีพลังใจ ไม่มีสติ และไม่มีสมาธิ
ยิ่งคุณหรือคนไทยมีจิตใจจดจ่ออยู่กับเครื่องมืออิเลกทรอนิกส์มากเท่าไร คุณก็จะยิ่งเกิดความว้าวุ่น และสับสนเพราะเรื่องราวต่าง ๆ นานาจากเครื่องมืออิเลกทรอนิกส์มากขึ้นเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จึงเป็นธรรมดาที่จะทำให้จิตใจของผู้ที่หมกมุ่นอยู่กับสัญญาณวายฟายหาความสงบสุขไม่ได้ เพราะจิตใจของคุณถูกรุมเร้าและรุกรานด้วยข้อความต่าง ๆ นานาจากเครื่องมืออิเลกทรอนิกส์ จนทำให้คุณไม่สามารถหาความสงบใด ๆ ให้กับชีวิตได้ ชีวิตที่เป็นเช่นนี้ย่อมมีจิตใจที่อ่อนล้า ไร้พลัง และเป็นชีวิตที่ไม่คุณภาพ
คุณเคยลองถามตัวเองบ้างไหม ทุกวันนี้คุณมีโอกาสพูดคุยแบบเผชิญหน้า (face to face) กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมากน้อยแค่ไหน หรือคุณมีโอกาสได้พูดคุยกับพ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลาน ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา หรือญาติสนิทมิตรสหายของคุณบ้างหรือไม่ วันละกี่นาที หรือเดือนละกี่นาที
น่าประหลาดที่คนไทยจำนวนไม่น้อยกลายเป็นคนช่างคุย แต่ทว่าเป็นการคุยกับคนที่ไม่เห็นหน้ากัน หรือไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ส่วนคนที่เห็นหน้าเห็นตากันชัด ๆ กลับไม่พูดไม่จากัน
ผู้เขียนมีข้อแนะนำเพื่อให้คุณมีความสุข ความสงบ และมีสมาธิมากขึ้นในชีวิตของคุณคือ ขอให้คุณอยู่ห่าง ๆ จากสัญญาณอินเตอร์เน็ตวายฟาย อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่กับมันตลอดเวลา และจงบอกให้ตัวเองรู้ว่าจะใช้มันเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
คุณเคยสังเกตไหมว่าทุกวันนี้เมื่อคุณตื่นนอนขึ้นมา คุณทำอะไรเป็นอันดับแรก ผู้เขียนพบว่าผู้คนจำนวนไม่น้อยตื่นขึ้นมาก็ต้องหยิบโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนขึ้นดูทันที ดูว่ามีข้อความจากไลน์อะไรบ้างที่ถูกส่งถึงคุณ ดูอินสตาแกรม ดูเฟซบุ๊ค ดูอีเมล และดูอีกสารพัดสิ่งที่บรรจุอยู่ในสมาร์ทโฟน
ขอย้ำอีกครั้งว่า หากคุณต้องการมีชีวิตที่มีจิตใจที่สุขสงบ และปลอดโปร่ง คุณควรจะต้องอยู่ห่าง ๆ จากอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและสัญญาณอินเตอร์เน็ตวายฟายเสียบ้าง แล้วคุณลองพูดคุยกับคนรอบ ๆ ตัวคุณ ลองมองดูสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัวคุณ แล้วคุณจะรู้ว่าชีวิตของคุณมีความสุขมากขึ้น จิตใจของคุณจะพบกับความสุขสงบมากขึ้น ลองทำดูนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขในชีวิตของคุณ หาได้ไม่ยาก หากคุณวางโทรศัพท์มือถือจำพวกสมาร์ทโฟนลง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี